สืบเนื่องจากกรณีที่ “แขก-คำผกา” เดินทางไปถ่ายทำรายการที่ร้านน้ำพริกนิตยา”ย่านบางลำพู และแขก คำผกา ได้อ้างว่าติดต่อมาล่วงหน้า 1 เดือน แต่พอมาถึงสถานที่จริง กลับโดนเชิญออกจากร้าน
และมีการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า ดีลร้านน้ำพริกนิตยามาเป็นเดือน นัดหมาย ดิบดี ถึงวันถ่ายเจ้าของร้านเชิญทั้งทีมงานออกจากร้านอ้างว่า ‘ไม่สะดวก’ เลยถามกลับว่า เกลียดเสื้อแดงใช่ไหม ไม่ต้อนรับควายแดงก็ไม่บอก
จนต่อมากลายเป็นประเด็นดราม่าร้อน และมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และทำให้กลุ่มของม็อบ 3 นิ้วประกาศแบนร้านน้ำพริก แต่ไม่ได้ผล โดยในเฟซบุ๊กของนายกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง TOP News ยังโพสต์ถึงประเด็นนี้ด้วยว่า “มีคนสนใจ จะจ้างพวก 3 กีบ ไปแบน เหมือนร้าน “น้ำพริกนิตยา” ครับ มันแบนจนยอดกดไลค์เพจ จาก 5,000 ตอนนี้จวนจะ 50,000 แล้ว ลูกน้องที่ร้านบ่นกันอุบ ช่วยหยุดแบนทีเถอะ.. เขาทำกันไม่ทัน เหนื่อยกันมาก ๆ ” ทั้งนี้ยอดกดไลค์ในเพจร้านน้ำพริก ในวันที่ 23 ก.ย. มีคนกดไลค์ทั้งหมด 50,000 กว่าราย
ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊ก ของนายกนก รัตน์วงศ์สกุล ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของโปรดิวเซอร์รายการ “ลายกนก” หลังไปเยือนร้านน้ำพริกนิตยา ว่าให้ติดตาม “ย่านเก่า เล่าเรื่อง” บางลำพู เร็ว ๆ นี้ และโปรดิวเซอร์รายการ ได้เล่าผ่านเพจป็อก โปรดิวเซอร์ ดังนี้ว่า วันนี้มาเดินเซอเวย์ หาข้อมูลถ่ายทำรายการย่านเก่าบางลำพู และ ถือโอกาสมาอุดหนุนร้านน้ำพริกนิตยา โดยมีใบออเดอร์มาจากคุณแม่หลายรายการ และทำให้เกิดความรู้สึกดี เกิดขึ้น 3 อย่าง เรียงตามลำดับคือ ….
รู้สึกดีแรก คือ เข้ามาแอบหาข้อมูล เดินเลือกซื้อน้ำพริกอยู่ดี ๆ พี่ปราณี เจ้าของร้าน น้องของคุณป้านิตยา จำเราได้ด้วย เข้ามาถามว่า น้องป๊อก ลายกนก รึเปล่า อุ้ย! อุ้ย ! ไม่น่าเชื่อว่า เรามันแค่โปรดิวเซอร์ตัวเล็กๆ คุณพี่เค้าจำได้ด้วย แล้วความครื้นเครงก็ตามหา คุณพี่บอกว่าเป็นแฟนรายการลายกนก ยกสยาม และ เป็นแฟนช่อง TOP NEWS ยังฝากความคิดถึงมาถึง พี่กนก น้องหมิว และ คุณต็อบ ด้วย
รู้สึกดีที่ 2 คือ ระหว่างที่สำรวจร้าน เห็นว่าที่ร้านขายดีมาก ของหมดไปหลายอย่าง สุดท้ายคุณพี่ปราณีเล่าให้ฟังว่า ตลอด 4 วันนี้ที่ผ่านมาขายดีมากกกก เราก็แอบรู้สึกดีไปด้วย เพราะบอกตามตรงว่า ไม่ชอบกระแสที่เกิดขึ้นในโลกโซเชี่ยลตอนนี้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับฝั่งใดก็ตาม ไม่ใช่วิถีที่ควรเกิดขึ้น รสนิยมการเมือง รสนิยมการกิน ของแต่ละคนอาจจะต่างกันได้ แค่เลือกไม่ทานเป็นเรื่องส่วนบุคคล ตัวใครตัวมัน ไม่ควรจะต้องทำให้เป็นประเด็น ดราม่า หรือ แบนสินค้ากัน เพราะในแต่ละองค์กร มีเบื้องหลังคนทำงานอีกหลายสิบชีวิตที่ต้องดูแลครอบครัว วิธีเหล่านี้ พวกทัวร์ลง ควรจะเลิกได้แล้ว ไม่ว่าจะฝั่งไหนก็ตาม ประเทศเราเคยมีความสุขกว่านี้
และรู้สึกดีที่ 3 รู้สึกดีที่สุด เพราะว่าวันนี้ ร้านนิตยามอบของที่ระลึก ให้กับคนที่มาอุดหนุนร้านด้วย เป็น พระบรมสาทิสลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงกำลังปิดทองหลังพระ ทำให้เราเลยโชคดี ที่ไปวันนี้ได้รับภาพเป็นที่ระลึกด้วย วันนี้ก็เลยอุดหนุนน้ำพริกมาหลายถุง แม้ว่าหลายอย่างจะหมดเกลี้ยงเลยก็ตาม เลยบอกพี่ปราณีไปว่า ให้กำลังใจ และพี่ไม่ต้องกลัวกระแสดราม่าในโลกโซเชียลหรอก ร้านพี่เป็นตำนานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 ตั้งแต่ผมยังไม่เกิด และอีกหลาย ๆ คนยังไม่เกิดมาด้วยซ้ำ น้ำพริกพี่อยู่มาด้วยคุณภาพ ความอร่อย และความจงรักภักดี ต่อ 3 สถาบันของชาติ ยังไงก็อยู่เป็นตำนานไปอีกนานเท่านาน
สุดท้าย เผื่อมีคนแชร์โพสต์ของผมไปก็ขอปิดด้วยข้อเขียนดี ๆ ที่อยู่ใต้ภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ เป็นบันทึกความทรงจำของ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร เขียนว่า “ที่ให้ปิดทองหลังพระก็เพื่อเตือนตนเองว่า การทำความดีไม่จำเป็นต้องทำอวดใครหรือประกาศให้ใครรู้ ให้ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ และ ถือว่าความสำเร็จในหน้าที่ เป็นบำเหน็จรางวัลที่สมบูรณ์แล้ว” เป็นพระบรมราชาธิบายถึงการปิดทองหลังพระ พระราชทาน ณ พระราชวังไกลกังวล พ.ศ.2530 อย่าลืมว่าหน้าที่ของเราคืออะไร แล้ววันนี้ เราทำดีเพื่อตนเอง เพื่อแผ่นดินแล้วรึยัง?
อย่างไรก็ตามพบว่าในเพจเฟซบุ๊กของร้านน้ำพริกนิตยา มีลูกค้าแห่เข้ามาติดตามและจองออเดอร์น้ำพริกเป็นจำนวนมาก จากยอดกดไลค์เพจสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 50,000 ตอนนี้เพิ่มมาเป็น 80,000 กว่า ใกล้จถึงหลักแสน รวมทั้งยังมีคอมเม้นต์ชื่นชมในจุดยืนที่ภักดีต่อสถาบันฯ และคาดว่าเจ้าของร้านกับพนักงานคงเหนื่อยกว่าเดิม ที่โดนแบนจากกลุ่มหนึ่ง แต่ยอดขายสินค้ากลับขายดีกว่าเดิมหลายเท่าตัว
