หลังจากที่กลุ่มทะลุฟ้าได้นัดชุมนุมบริเวณแยกนางเลิ้ง เป็นเวลา 2 วันติดต่อกัน ทั้งวันที่ 26-27 ก.ย. 64 และจะมีการนัดหมายในเย็นนี้อีกครั้ง
โดยทั้ง 2 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว ทั้งรถยนต์กระบะ รถ จยย.ได้เข้าสลายการชุมนุม ทำให้กลุ่มที่จะฝ่าเข้ามาในแนวกั้นแตกหนีกระเจิง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถยึดพื้นที่แยกนางเลิ้งไว้ได้ทั้งหมด พร้อมกับตรึงกำลังเอาไว้ได้
โดยวันที่ 26 ก.ย. จับผู้ก่อเหตุได้ 15 คน ในจำนวนนี้พบว่า เป็นเยาวชนจำนวน 4 คน ยึดรถจักรยานยนต์จำนวน 6 คัน และวันที่ 27 ก.ย. ถูกจับกุมตัวอีก 5 ราย ทั้งนี้การรวมตัวชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า และกลุ่มทะลุแก๊ซ ที่ย้ายจากแยกดินแดงมาเป็นแยกนางเลิ้ง ได้ออกมาเคลื่อนไหวตลอด 2 วันติด แต่ถูกเจ้าหน้าที่คฝ.ยึดพื้นที่ได้ในเวลารวดเร็ว ทำให้ต้องมีการยุติการชุมนุมก่อนเวลา
ขณะที่ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจยังรายงานข้อมูลว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงปัจจุบัน มีคดีความที่เกี่ยวกับการชุมนุม จำนวน 232 คดี มีผู้กระทำผิด จำนวน 843 คน จับดำเนินคดีไปแล้ว จำนวน 598 คน ส่วนที่เหลือตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับต่อไป ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ทั้งกลุ่มทะลุแก๊ซ – ทะลุฟ้า และกลุ่มย่อยอื่น ๆ ด้วย
ล่าสุดได้มีผู้สนับสนุนเงินให้กับม็อบ เข้าไปคอมเม้นต์ให้เพจทะลุฟ้า ว่า การสู้ของน้อง ๆ เละไม่เป็นท่า ไปป่วนแล้วทำไมไม่หนีให้ทัน ยิ่งโดนจับตัวรายวันแบบนี้ เหนื่อยจะระดมหาเงินไปช่วยประกันตัว ซึ่งเงินกองทุนที่ช่วยเหลือม็อบ จะมีบัญชีใหญ่คือกองทุนราษฎรประสงค์ เหลือเงินยอดปัจจุบันที่ 2 ล้านกว่า โดยกองทุนนี้จะใช้ในกาประกันตัวแกนนำทางฝั่งกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ เป็นหลัก และกลุ่มทะลุฟ้าก็มีบัญชีแยกต่างหากที่ไม่ได้แจกแจงยอด และรายละเอียด ขณะที่กลุ่มทะลุแก๊ซ ก็แยกกลุ่มย่อยกระจายไปอีกหลายกลุ่ม ไม่ได้รับเงินหนุนมากเท่าที่ควร หากเกิดเหตุถูกจับกุมก็จะไม่มีเงินประกันตัว
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายปิยบุตร เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้ออกมาแสดงตัวหนุนและชื่นชมม็อบทะลุแก๊ซ ชื่นชมการรวมตัวที่แยกดินแดง จนทำให้มวลชนจำนวนหนึ่งเข้าไปขอแรงให้นายปิยบุตร พูดกับกลุ่มอื่น ๆ ให้มาหนุนกลุ่มดังกล่าว และออกมานำขบวนแทนน้อง ๆ ด้วย