เป็นเรื่องแล้ว!! “รมช.ศึกษา” สอบการ์ตูนล้างสมองเด็ก? ตั้งทีมเฉพาะกิจจับมือฝ่ายความมั่นคง จัดการเด็ดขาด!?
จากกรณีที่ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ได้โพสต์ภาพจากหนังสือนิทานสำหรับเด็ก ที่มีการปลูกฝังแนวคิดของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยภายในหนังสือยกให้ผู้ชุมนุม ที่กระทำความผิดตามกฎหมายหายคดี และบางคนยังถูกคุมตัวอยู่แม้ว่าคดียังไม่สิ้นสุด รวมถึงกลุ่มคนที่ถูกยกให้เป็นเหมือนฮีโร่ และในหนังสือดังกล่าว ยังมีแนวคิดต่อต้านสถาบันชาติอย่างรุนแรง โดยในหนังสือพยายามที่จะวาดให้ออกมา เหมือนบุคคลดังกล่าว เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชน จึงเกิดการตั้งคำถามขึ้นมากมายว่า แนวคิดต่าง ๆ กำลังถูกฝังลงไปในเยาวชนที่ยังไม่มีวุฒิภาวะมากพอ แบบนี้ถือว่าเหมาะสมแล้วจริงหรือ
ต่อมาทำให้ ทางด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ด้วย ปลุกระดมบ่มเพาะฝังรากล้างสมอง ใช้การ์ตูนครอบงำความคิดเด็ก อันตรายมากครับ ผู้มีหน้าที่ในบ้านเมือง นายกรัฐมนตรี รมต.ศึกษา ผบ.ตร. หน่วยงานความมั่นคงอยู่ไหนกันครับ ต้องดูเนื้อหาตรวจสอบข้อกฎหมายและรีบดำเนินคดีโดยเร็วครับ ฝากการบ้าน เข้าข่ายประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ด้วยหรือไม่
ล่าสุด นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย โฆษกประจำตัวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.). คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ได้เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ตามที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ว่าขณะนี้มีการผลิตหนังสือนิทานสำหรับเด็กคล้ายตำราเรียนและนำออกมาจัดจำหน่ายให้กับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 5 ขวบขึ้นไป ที่มีเนื้อหาเข้าข่ายบิดเบือนและอาจให้เด็กเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ หากไม่ได้รับการชี้แนะอย่างถูกต้องโดยครูหรือผู้ปกครอง โดย ดร.คุณหญิงกัลยา ได้ทราบเรื่องนี้แล้ว และมีความเป็นห่วงอย่างมาก จึงได้สั่งให้ตั้งทีมเฉพาะกิจ โดยมีนายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เเละนโยบาย เป็นประธานในเรื่องนี้ พร้อมด้วยตนเอง ในฐานะโฆษกประจำตัวคุณหญิงกัลยา และคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวโดยเร็ว
“คุณหญิงกัลยา ได้ทราบเรื่องนี้แล้ว และไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งเร่งให้ตรวจสอบโดยด่วน ซึ่งหากพบว่าหนังสือดังกล่าวมีเนื้อหาที่ปลุกปั่น สร้างความเกลียดชัง และครอบงำความคิดเด็กโดยเฉพาะเด็กที่ยังไม่สามารถแยกแยะข้อเท็จจริงต่าง ๆ ได้ อันจะก่อให้เกิดผลกระทบตามมาในหลายด้าน จึงอยากให้ครูและผู้ปกครอง รวมถึงประชาชนโดยทั่วไปที่เสพข้อมูลดังกล่าวจะต้องตระหนักถึงข้อเท็จจริง แยกแยะ และไม่ยอมรับหรือสนับสนุนให้เชิดชูความรุนแรง รวมถึงการสร้างข้อมูลเท็จหรือเนื้อหาที่บิดเบือนเพื่อปลุกปั่นเยาวชนให้หลงผิดได้”
นางดรุณวรรณ กล่าวต่ออีกว่า คุณหญิงกัลยา มีมุมมองที่เปิดกว้างสำหรับเยาวชนมาโดยตลอดและเชื่อในหลักสิทธิเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล แต่สิ่งที่สำคัญคือผู้จัดทำข้อมูลต้องไม่มีเจตนาให้ร้าย บิดเบือน หรือสร้างความแตกแยก ยุแหย่ให้เกิดความเกลียดชังขึ้นในสังคมไทย จึงอยากร้องขอให้ผู้ที่มีเจตนาไม่หวังดีต่อประเทศได้ยุติการกระทำดังกล่าว ทั้งนี้ทีมเฉพาะกิจดังกล่าวจะประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงต่อไป หากพบว่าเนื้อหาที่ปรากฎในนิทานดังกล่าวมีเจตนาปลุกระดม ล้างสมอง หรือปลุกปั่นเด็กๆ หรือไม่ และมีใครเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งหากพบว่าผิดจริงถือว่าเป็นอันตรายอย่างมาก และจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป