เปิดลึก ซีรี่ส์ดัง สอดไส้การเมืองโจ๋งครึ่ม? ที่แท้ “ปราบดา หยุ่น” ผู้แก้ ม.112″ คนทำ! วิจารณ์สนั่นฝีมือไม่ถึง
จากกรณีที่วันนี้ (25 กันยายน 2564) ทางเพจรีวิวภาพยนต์ชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับซีรี่ส์ที่กำลังเป็นที่สนใจอยู่ในขณะนี้ นั่นก็คือ “Bangkok Breaking มหานครเมืองลวง” ที่นำโดยเวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ และ ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง โดยมีเนื้อหาบางส่วนที่น่าสนใจว่า Bangkok Breaking คอนเทนท์ไทยอีกเรื่องหนึ่งใน Netflix ที่ไม่น่าจะไปถึงดวงดาว…
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าการรีวิว Bangkok Breaking นี่ควรจะเป็นรีวิวคอนเทนท์ในมาตรฐานระดับโลกที่มันได้โอกาสในการนำมาลงใน Netflix ภายใต้สโลกแกนจั่วหัวซีรีส์เรื่อง Bangkok Breaking ว่า อยู่เมืองนี้อย่ารู้เยอะ
แน่นอนว่าเราคาดหวังให้มันเป็นเรื่องราวตีแผ่ด้านมืดของกรุงเทพ แต่พอได้ดูจริงๆก็พบว่ามันก็ยังเป็นการตีแผ่ด้านมืดจริงๆนั่นแหละ แต่มันแตะแค่ผิวเผิน และปัญหาต่างๆที่นำเสนอมันก็มีแต่ความตื้นเขินไร้ชั้นเชิงในการนำเสนอ มันนำเรากลับไปพบกับปัญหาเดิมๆของละครไทยหนังไทยที่สุดท้ายมันล้มเหลวมากโดยเฉพาะในเรื่องบท และการพยายามที่อยากจะเอาแบบฝรั่งจนบางครั้งก็ไม่ได้ดูบริบทและความสมจริง
เมื่อสิ่งนั้นๆจะมาปรากฏในผลงานที่มีฉากหลังเป็นประเทศไทย Bangkok Breaking คือความล้มเหลว (โดยส่วนมาก) ในแง่ของการนำเสนอ น่าเสียดายที่โปรดักชั่นที่ดี งานภาพที่สวยและฝีมือการแสดงของเวียร์เองแม้จะทำได้ค่อนข้างดี แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้หนังมันมีความน่าประทับใจเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก เช่น พูดความจริงในประเทศไม่ได้หรือเพราะไม่มีชั้นเชิงในการนำเสนอ หลายๆอย่างถ้าทีมงานคนเขียนบทมีชั้นเชิงและมีความกล้าหาญแถมหนังลง Netflix ทำไมมันจะพูดไม่ได้
สำหรับคนที่บอกว่า พูดความจริงไม่ได้แปลว่าที่บ้านไม่เคยเปิด Voice TV ดูนะครับ พูดได้ครับ ทำไมจะพูดไม่ได้ และไม่ได้จำเป็นต้องพูดโต้งๆครับทำหนังทำละคร บางทีถ้าฉลาดในการนำเสนอมันพูดได้แน่นอนครับ
เปิดดู Voice TV ครับ ด่าหูดับตับไหม้สะใจมาก , จริงค่ะ คนชอบพูดกันว่าจะโดนแบนแต่จริงๆทำได้ แต่บทมันไม่มีชั้นเชิงเอง เหมือนใส่ๆไปงั้นแหละ ละครไทยต้องพัฒนาบท โปรดักชั่นดีกว่าละครไทยทั่วๆไปนิดนึงเท่านั้นแหละ อย่าง Voice , พฤติการณ์ที่ตาย ก็แตะทุกประเด็นอ่อนไหว ยังไม่โดนแบนเลย
squid game คือการพูดถึงเรื่องชนชั้น ความเหลื่อมล้ำ ปัญหาของระบบราชการแบบมีชั้นเชิงมาก ดูสนุกด้วย
ใช่ครับ เค้าไม่ได้แตะรัฐบาลเลย แต่เค้าก็พูดได้
voice tv พูดได้แต่มีราคาที่ต้องจ่ายครับ สมัยอยู่ทีวีดิจิตอลเคยถูกจอดำ30วัน ต่อมาต้องออกจากทีวีดิจิตอล ตอนนี้ไม่มีช่องดาวเทียมอยู่ต้องผ่านทางยูทูปอย่างเดียว บางคนเขาไม่มีต้นทุนให้จ่ายครับ ใครการันตีความปลอดภัย อย่าโลกสวย
สำหรับซีรี่ส์เรื่อง “Bangkok Breaking มหานครเมืองลวง” เป็นซีรี่ส์สัญชาติไทย แนวแอ๊กชั่น-ระทึก ความยาว 6 ตอน เป็นการเสาะหาความจริงกับภารกิจมืดภายใต้เงาของคนดีในเมืองหลวง พร้อมด้วยทัพนักแสดงมากฝีมือนำทีมโดย เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ และ ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง ภายใต้การกำกับของ ก้องเกียรติ โขมศิริ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของทีมข่าวเดอะทรูธ พบว่า ซี่รีส์เรื่องดังกล่าว ได้มีการสอดแทรกเกี่ยวกับเรื่องของการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฉากในซีรี่ส์ รายละเอียดต่างๆที่สะท้อนให้ถึงความเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฉากบริเวณหน้า มูลนิธิที่ได้มีปรากฎบ้านเลขที่ว่า 112 รวมไปถึง มีการปรากฎตัวของชายคนหนึ่ง ซึ่งมีการสวมเสื้อสีเหลืองและกางเกงสีแดง
และยังมีการใช้ชื่อสำนักข่าวในซีรี่ส์ว่า มติมวลชน ซึ่งเหมือนเป็นการล้อกับชื่อสำนักข่าวชื่อดังอีกด้วย
ทั้งนี้ยังพบว่า ผู้ที่เป็นผู้จัดและผู้อำนวยการผลิตก็คือ ปราบดา หยุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งใน คณะรณรงค์แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา112 หรือ “ครก.112” ซึ่งกลุ่มที่ประกอบด้วยบุคคลจากหลายสาขาอาชีพ โดยเริ่มล่ารายชื่อประชาชนให้ได้กว่า 1 หมื่นชื่อ เพื่อแก้ไขมาตรา 112 ทำให้หลายคนได้ตั้งข้อสังเกตว่า การสร้างซีรี่ส์เรื่องดังกล่าวนั้น มีเจตนาที่จะเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองของอีกฝ่ายหรือไม่
ทั้งนี้ ปราบดา หยุ่น ในฐานะผู้จัดและผู้อำนวยการผลิต ได้กล่าวว่า ผู้ชม Netflix ทั่วโลกจะได้เห็นความร่วมสมัยและความหลากหลายของกรุงเทพฯ ทั้งความเป็นเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยอาคารสถานที่ใหญ่โตโออ่า และวิถีชีวิตในชุมชนตามตรอกซอกซอยผ่านเรื่องราวและพัฒนาการของตัวละครในซีรีส์เรื่อง Bangkok Breaking มหานครเมืองลวง ซึ่งจะสะท้อนถึงความเป็นไปของสังคมในแง่มุมต่าง ๆ ทั้งด้านที่เป็นสีขาว สีดำ และสีเทา ผสมผสานอยู่ในทุก ๆ อณูของกรุงเทพฯ
