กลุ่มต่อต้านรัฐบาล-สถาบันเปิดตัวกลุ่มต่อต้านจีนในนาม ‘Anti One Chaina TH’ ชวนกันก่อม็อบต้านจีนวันชาติจีน แต่ไม่ประสบผลคนไม่สนใจเท่าที่หวัง เพื่อพยายามผลักดันไทยเข้าสู่ความขัดแย้งมหาอำนาจสหรัฐและจีน โดยอ้างความชอบธรรมของประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ ทั้งๆที่ไทยและอาเซียนประกาศจุดยืนเป็นกลาง ไม่ขอตกหล่มในความขัดแย้ง พร้อมสร้างสัมพันธ์ในทางสร้างสรรค์กับทุกฝ่าย คนไทยจึงต้องรู้เท่าทันขบวนการเชื่อมโยงเหล่านี้ การเดินหมากเกมส์ทางการเมืองโลกเปิดฉากเข้มข้นในไทยมากขึ้นทุกที สะท้อนว่าสหรัฐฯเปิดฉากโฆษณาชวนเชื่อเรื่องอุดมการณ์ “เผด็จการคอมมิวนิสต์-ประชาธิปไตยเสรี” หวังสังคมไทยต้านจีนเหมือนอดีต การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้รับการตอบสนองจากสังคมไทยและสังคมประชาชาติทั่วโลกอย่างที่หวัง แต่เป็นสัญญาณเตือนว่าต่อไปนี้เมืองไทยจะไม่สงบร่มเย็นอีกแล้ว ท่ามกลางโรคระบาดโควิด-19 กำลังมีโรคระบาดทางความคิดแพร่เข้ามาในอัตราเร่ง
อีเว้นท์สำคัญของขบวนการต่อต้านจีน
วันที่ 1 ตุลาคมเป็นวันชาติจีน และปีนี้สำคัญเป็นพิเศษเพราะครบรอบ 71 ปีของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน
เปรียบเทียบปี 2562 กับ 2563 -มีการประท้วงแต่ต่างกันในด้านผลตอบรับ
ทุกวันที่ 1 ต.ค. ปักกิ่งจะเตรียมการฉลองใหญ่โต ให้สถานทูตจีนทั่วโลกทำกิจกรรมเฉลิมฉลองเพื่อประกาศความเกรียงไกรของตน แต่ที่ฮ่องกงบรรยากาศยังตึงเครียด ไม่ว่าจะปี 2562 หรือ 2563
-ตุลาคม ปี 2562โจชัว หว่อง แกนนำตัวชูโรงเดินสายไปประเทศตะวันตกเพื่อกดดันให้รัฐบาลสหรัฐฯ, เยอรมนี, อังกฤษ และสหภาพยุโรปต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อทำให้จีนยอมรับเงื่อนไขของฝ่ายตน แต่ตุลาคม ปี 2563 ถูกจับและประกันตัว
-ปี 2562 ปธน.สี จิ้นผิงยังไม่ต้องการใช้วิธีการแข็งกร้าวจัดการกับผู้ประท้วง ผู้บริหารฮ่องกงพยายามจัดเวทีให้ผู้ประท้วงและประชาชนทั่วไป พูดจาแต่ไม่เป็นผลจนเกิดความรุนแรง เผชิญหน้าของกลุ่มต้านและกลุ่มสนับสนุนรัฐบาล บานปลายเป็นจลาจล ปี 2563 ทางการฮ่องกงใช้กฎหมายความมั่นคง ควบคุมแกนนำและการประท้วงเป็นระยะ และวันชาติ 1 ตุลาคม 2563 แครี แลมถึงกับเอ่ยปาก เพราะกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ทำให้ฮ่องกงสามารถกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง
จากฮ่องกงถึงประเทศไทย-แพร่ความคิดชังชาติอาฆาตจีน
พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เนื่องในวันชาติจีน 1 ตุลาคม ว่า ถึงแม้จะมีการชุมนุมต่อต้านจีนเกิดขึ้นในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง แต่ในส่วนของไทยยังมีการดูแลความปลอดภัยเข้มตามปกติ โดยเป็นความรับผิดชอบของตำรวจสันติบาลเป็นหลัก ร่วมกับตำรวจท้องที่ ตำรวจสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 ซึ่งโดยทั่วไปสถานการณ์ยังคงเรียบร้อย
การเคลื่อนไหว-ใครเจ้าของงาน-ใครอยู่เบื้องหลัง?
–ilaw-พันธมิตรชานมเป็นกลุ่มเดียวกับผู้สนับสนุนม็อบปลดแอกและประกาศชัดว่าเกี่ยวโยงสัมพันธ์กับกรณีฮ่องกง ไต้หวัน ทิเบตและชาวอุยกูร์ ทั้งหมดนี้อยู่บนเส้นทางนโยบายต่อต้านจีนของฝั่งพันธมิตรอินโด-แปซิฟิก กล่าวคือเดินตามแนวคิดของมหาอำนาจสหรัฐเพื่อต่อต้านจีนใช่หรือไม่?
-นักกิจกรรมหญิงผู้ก่อตั้งกลุ่ม Anti One China อ่านแถลงการณ์ระบุว่า การมารวมตัวเนื่องในวันชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีนวันนี้ ไม่ใช่การประท้วงประชาชนจีน แต่เป็นการประท้วงรัฐบาลจีน ที่ดำเนินนโยบายอำนาจนิยมอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่คนไทยกำลังประท้วงเผด็จการในประเทศ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมองการต่อสู้ข้ามพรมแดนเพราะโลกมีความเชื่อมโยงกันข้ามพรมแดน การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในไทยจะยากยิ่งขึ้น หากยังอยู่ภายใต้มหาอำนาจที่เป็นอำนาจนิยมดังเช่นจีน เพราะระบบการเมืองโลกโยงใยกัน
–พันธมิตรชานม บอกว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นไปเพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวระหว่างชาวไทย ฮ่องกง ไต้หวัน ทิเบต และชาวอุยกูร์ รวมทั้งคนอื่นๆที่ถูกกดขี่โดยรัฐบาลภายใต้การนำของสีจิ้นผิง และทางกลุ่มขอประนามการกระทำของรัฐบาลจีนที่มีหลักฐานว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชน และความรุนแรงกับผู้คน ทั้งนี้ทางกลุ่มจะไม่ยอมเป็นเครื่องมือของมหาอำนาจ โดยในวันนี้ทางกลุ่มวิจารณ์ทางการจีนแต่ในวันต่อๆไปก็อาจวิจารณ์การละเมิดสิทธิคนชาติพันธุ์โดยสถาบันตำรวจของอเมริกาได้เช่นกัน