“มหาไพรวัลย์” เผยเป็นลูกคนจน ขอพึ่งใต้ร่มศาสนา ได้รับพระเมตตา จาก “ในหลวงร.9” บวชวัดพระแก้ว

3393

“มหาไพรวัลย์” เผยเป็นลูกคนจน ขอพึ่งใต้ร่มศาสนา ได้รับพระเมตตา จาก “ในหลวงร.9” บวชวัดพระแก้ว

จากกรณีพระนักเทศน์ชื่อดัง พระมหาไพรวัลย์ และ พระมหาสมปอง ที่ไลฟ์สอนธรรมะผ่านเพจเฟซบุ๊กด้วยบรรยากาศสนุกสนาน และขำขัน ซึ่งหลังมีการไลฟ์พร้อมกัน 2 รูป จนทำให้เกิดปรากฎการณ์สนั่นโซเชียล ในขณะเดียวกันก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย

ล่าสุดทางด้าน นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีของพระมหาไพรวัลย์ โดยระบุว่า พระมหาไพรวัลย์ นาคหลวงรูปสุดท้ายในรัชกาลที่ 9

1. เมื่อวานนี้ พระมหาสมปอง และพระมหาไพรวัลย์มาเยี่ยม ได้สนทนากัน เกี่ยวกับลีลาการสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทรงสอนตามสถานการณ์ และอัชฌาศัยผู้ฟัง จากนั้นก็จะทรงดึงเข้ามายังพุทธธรรม และแสดงอริยสัจ และได้มอบหนังสือ”ศาสดาปฏิภาณ” ซึ่งท่านบุศย์ ขันธวิทย์ อดีตประธานสภากรรมการสำนักธรรมนิติ ซึ่งเป็นสหายในธรรมของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวรได้แต่งขึ้นเมื่อ50ปีก่อน เป็นเรื่องวิธีและลีลาตรัสสอนของพระพุทธเจ้า ให้ท่านรับไปพิจารณาศึกษา
2.พระมหาไพรวัลย์เล่าให้ฟังว่า ท่านเป็นลูกชาวบ้านยากจน ไม่มีโอกาสศึกษาเล่าเรียน จึงได้อาศัยร่มเงาพุทธศาสนา บวชเป็นสามเณร ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอย่างจริงจัง ครั้นถึงเกณฑ์สอบนักธรรม และเปรียญธรรม ท่านก็สอบได้นักธรรมเอกรวดเดียว และสอบรวดเดียวได้เปรียญธรรม 9 ประโยคตั้งแต่ยังเป็นสามเณร
3.เมื่อท่านสำเร็จเปรียญธรรม 9 ประโยค ตั้งแต่เป็นสามเณร ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 รับเป็นนาคหลวง และเป็นเจ้าภาพอุปสมบทที่วัดพระแก้ว
ท่านเป็นลูกชาวบ้านยากจน ไม่เคยคิดว่า จะมีโอกาสได้รับพระมหากรุณาธิคุณอนุเคราะห์เป็นเจ้าภาพงานบวชเป็นนาคหลวงในขณะที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9ทรงประชวร
ในการนั้นท่านก็ได้รับธุระประกาศพระพุทธศาสนา นับเป็นนาคหลวงรูปสุดท้ายในรัชกาลที่ 9 ท่านสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และทราบซึ้งใจที่สุดในชีวิตและตั้งใจสนองพระเดชพระคุณตามที่ทรงอาราธนาเสร็จการแล้ว ทรงโปรดให้รถยนต์หลวงเชิญเครื่องอัฐบริขารที่ทรงพระราชทาน และรับพระมหาไพรวัลย์ไปส่งถึงวัด
พระมหาบอกว่า ในการเทศนาของท่าน บางครั้งท่านก็ติเตียนการสร้างกรรมทำชั่วของนักการเมืองผู้มีอำนาจ แต่ท่านยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ คิอชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
พระมหาบอกว่า บ้านเมืองทุกวันนี้มีความแตกแยกอย่างมากโดยเฉพาะคนต่างวัย พูดจากันไม่รู้เรื่อง เป็นหน้าที่ของท่านที่จะต้องพูดจากันให้เข้าใจ โดยอาศัยหลักพุทธธรรม และชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
จึงนำความมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นที่ตั้งแห่งความสามัคคี ปองดองภายในชาติ

สำหรับพระมหาไพรวัลย์ เดิมชื่อ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ปัจจุบันอายุ 29 ปี เป็นชาวอำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พ่อกับแม่มีอาชีพก่อสร้าง เมื่อเรียนจบชั้น ป.6 จึงตัดสินใจบวชอยู่ที่จังหวัดสุโขทัย กระทั่งเรียนนักธรรมและภาษาบาลีจนถึงอายุ 18-19 ปี จบเปรียญธรรม 7 ประโยค

พ.ศ. 2555 อายุใกล้บวชพระแล้ว พระมหาไพรวัลย์จึงย้ายมาเรียนที่วัดสร้อยทองจนจบนักธรรมเอกและเปรียญธรรม 9 ประโยค กลายเป็นสามเณรเปรียญธรรม 9 ประโยครูปแรกของจังหวัดสุโขทัย

จากนั้นศึกษาต่อปริญญาโทพุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เพราะเปรียญธรรม 9 ประโยคเทียบเท่ามีปริญญาตรี ขณะนี้กำลังศึกษาปริญญาเอก สาขาวิชาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ