เบื้องหลัง “บิ๊กอาย” หมากสำคัญทำ 2 ป.แตก?? นายกฯสายตรง โทร.ถามก่อนปลด อยู่กับใคร!!

3014

เบื้องหลัง “บิ๊กอาย” หมากสำคัญทำ 2 ป.แตก?? นายกฯสายตรง โทร.ถามก่อนปลด อยู่กับใคร!!

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (15 กันยายน 2564) ได้มีการประชุมส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นัดส่งท้ายก่อนปิดสมัยประชุมสภา ที่ห้องพรรคพลังประชารัฐ ชั้น 6 อาคารรัฐสภา ทางด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค เดินทางมาเป็นประธานการประชุมด้วยตัวเอง โดยวันนี้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรค และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค มาร่วมประชุมเป็นครั้งแรกหลังจากถูกปลดออกจากรัฐมนตรี ขณะที่แกนนำพรรคคนอื่นๆ โดยเฉพาะที่เป็นรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

ก่อนเริ่มประชุมพล.อ.ประวิตร ได้มีการแนะนำ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐคนใหม่ ที่มาร่วมประชุมกับพรรคเป็นครั้งแรกให้ ส.ส.ในพรรคได้รู้จัก

ล่าสุดวันนี้ (16 กันยายน 2564) บุญระดม จิตรดอน นักข่าวชื่อดัง ได้เปิดเผยในรายการเจาะข่าวเด้ง ทางสถาบันทิศทางไทย ถึงกรณีของนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ว่าเธอเป็นจิ๊กซอร์สำคัญที่ทำให้ธรรมนัสฮึดสู้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยได้กล่าวว่า

ภายหลังจากที่มีการปลด ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า และนางสาวนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 15 กันยายน ได้การประชุมพรรคพลังประชารัฐ ถือว่าเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของทั้งสองคน พร้อมๆกับการยืนยันอย่างชัดเจนในการประชุมพรรคว่า ทางพรรคพลังประชารัฐนั้น จะไม่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรคใหม่และจะไม่มีการเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคและเหรัญญิกพรรคคนใหม่ด้วย ตามที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้

ตัวของร้อยเอกธรรมนัส ก็ถึงกับกล่าวเลยทีเดียวว่า ถ้านายรักให้ทำงานต่อ ก่อจะไม่ออกไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ หากจะจบชีวิตการเมือง ก็ขอให้จบที่พรรคพลังประชารัฐและก็ขอให้พลังประชารัฐนั้น เป็นที่สุดท้ายของผม ก็ถือว่าเป็นคำยืนยันออกมาจากปากของร้อยเอกธรรมนัสว่า จะไม่ออกจากพรรคพลังประชารัฐแน่ แม้ว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 กันยายน ร้อยเอกธรรมนัสจะออกมาพูดในวันแถลงข่าวลาออกแล้วเขาว่า อาจจะไปอยู่บ้านหลังใหม่ ที่มีความสุข โดยตอนนี้มีพรรคมาจีบผมเยอะแยะ อาจจะเป็นพรรคพะเยาหรือว่าพรรคพลังพะเยา หรือว่าอาจจะเป็นอีสานล้านนาทุกอย่างนั้น ผมเตรียมเอาไว้หมดแล้ว

ในขณะที่อีกด้านนึง ก็คือตัวของนางสาวนฤมล ภิญโญสินวัฒน์นั้น นับตั้งแต่ที่เธอนั้นถูกปลดออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี นางสาวนฤมลก็เก็บตัวเงียบ ไม่มีข่าว ไม่มีความเคลื่อนไหว แม้แต่กระทั่งใน Facebook แล้วก็ในทวิตเตอร์ของเธอ ที่ปกติแล้วจะโพสต์อยู่เป็นประจำ ก็หยุดทุกอย่างไปโดยสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตาม จากภายนอกที่เรามองดูเหมือนกับว่า นางสาวนฤมลนั้น ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แต่ว่าแท้ที่จริงแล้ว เธอเองยังคงเคลื่อนไหวแล้วก็ไปทำงานอยู่ทุกวัน โดยไปนั่งทำงานอยู่ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ เรียกว่าทำงานอยู่ข้างกายพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ทุกวันเลยทีเดียว และก็ยังมีหน้าที่ในการดูแลพรรคพลังประชารัฐในฐานะที่เป็นเหรัญญิกพัก และยังมีข่าวอีกด้วยว่า นางสาวนฤมลนั้น ยังคอยช่วยงานทางด้านการประชาสัมพันธ์ให้กับตัวพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อีกด้วย

เรียกว่า บทบาทของนางสาวนฤมลนั้น ต้องบอกเลยว่า ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและก็ไม่ธรรมดาซะด้วย ใครที่คิดว่าเธอหายเงียบไป ไม่มีความเคลื่อนไหว ก็ขอบอกเลยว่าคิดผิด ในความไม่ธรรมดาของนางสาวนฤมลนั้น ก็มีการเล่าขานต่อๆกันมาว่า ในช่วงก่อนที่จะมีคำสั่งปลดนางสาวนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้โทรศัพท์เข้าไปหาเธอ เพื่อที่จะสอบถามแล้วก็หาความชัดเจนจากปากของเธอว่า เธอนั้นเป็นหนึ่งในขบวนการโค่นล้มตัวนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ ก็ปรากฏว่า เธอไม่ได้ฟังเสียงนายกรัฐมนตรีทางโทรศัพท์เพียงคนเดียว เพราะเธอนั้นได้เปิด speakerphone เพื่อให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ร่วมรับฟังเสียงคำพูดนายกรัฐมนตรีในวันนั้นด้วย แล้วก็ว่ากันว่าคำตอบของเธอในวันนั้น ก็คือ “แล้วจะให้ตอบว่ายังไงคะ”

นี่คือนางสาวนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่ต้องบอกคำเดียวเลยว่า เธอนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น จากเหตุการณ์ที่เล่าขานกันมานี้ จะจริงจะเท็จก็ไม่ทราบได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปของตัว นางสาวนฤมล ว่าเธอนั้นเป็นอย่างไรเพราะฉะนั้น นับจากนี้ไป เธอเองนางสาวนฤมล ก็คงจะเป็นตัวจักรหนึ่งที่สำคัญในทีมของพลเอกประวิตร

ซึ่งล่าสุด พลเอกประวิตรเอง ก็ได้ทำการแต่งตั้งพลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เข้าไปเป็นประธานยุทธศาสตร์ของพรรคพลังประชารัฐและบุคคลคนนี้ก็ถือว่าเป็น บุคคลที่มีความสนิทสนมเป็นพิเศษกับตัวของร้อยเอกธรรมนัส เพราะว่าพลเอกวิชญ์ เป็นคนที่ฝากฝังร้อยเอกธรรมนัสเอาไว้กับพลเอกประวิตร จนกระทั่งทำให้ร้อยเอกธรรมนัสเข้าไปอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ จนกระทั่งมามีตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคแล้ว ก็มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นรัฐมนตรี นั่นก็หมายความว่า ในการรวมพลังตั้งป้อมค่ายของพลเอกประวิตรในครั้งนี้ ซึ่งมีมือไม้สำคัญอย่างตัวร้อยเอกธรรมนัสและยังรวมไปถึงตัวนางสาวนฤมลนั้น อะไรจะเกิดขึ้นตามมาจากนี้ไป

การสร้างป้อมค่ายของพลเอกประวิตรนั้น มันจะเป็นไปเพื่อที่จะเอาไว้สู้ศึกเลือกตั้งหรือจะมีเอาไว้เพื่อที่จัดการพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องถือว่า เป็นประเด็นเลยทีเดียวที่ถูกตั้งข้อสังเกตอยู่ในระยะนี้ เพราะฉะนั้น จากนี้ไปเราเองก็คงต้องรอจับตา อย่าได้กระพริบตาเลยทีเดียวว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับพรรคพลังประชารัฐและอะไรจะเกิดขึ้นกับ 2 ป. ระหว่างบิ๊กตู่กับบิ๊กป้อม