ปมลึก “ธรรมนัส”กลับลำ!! เฉลยเหตุประวิตรตั้ง “พล.อ.วิชญ์” สกัดบิ๊กตู่ส่งคนเข้าคุมพปชร.?

2573

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (15 กันยายน 2564) ได้มีการประชุมส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นัดส่งท้ายก่อนปิดสมัยประชุมสภา ที่ห้องพรรคพลังประชารัฐ ชั้น 6 อาคารรัฐสภา

ทางด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค เดินทางมาเป็นประธานการประชุมด้วยตัวเอง โดยวันนี้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรค และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค มาร่วมประชุมเป็นครั้งแรกหลังจากถูกปลดออกจากรัฐมนตรี ขณะที่แกนนำพรรคคนอื่นๆ โดยเฉพาะที่เป็นรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

ก่อนเริ่มประชุมพล.อ.ประวิตร ได้มีการแนะนำ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐคนใหม่ ที่มาร่วมประชุมกับพรรคเป็นครั้งแรกให้ ส.ส.รู้จัก โดยหลังจบการแนะนำ ปรากฏว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และกรรมการบริหารพรรค ที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร จะมอบหมายให้นายสมศักดิ์ทำหน้าที่ ได้ลุกขึ้นกล่าวในที่ประชุมว่า “มีคนถามผมว่าน้อยใจมั้ยที่ไม่ได้เป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์ เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวท่านหัวหน้าพรรคจะให้ผมเป็น ผมไม่น้อยใจ ความสำคัญของผมเทียบไม่ได้กับความมั่นคงของพรรค ผมไม่ติดใจ น้อมรับ และผมพร้อมทำงานเคียงข้างประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค” ทั้งนี้เมื่อนายสมศักดิ์พูดจบ บรรดาส.ส.ต่างพร้อมใจกันปรบมือให้กำลังใจนายสมศักดิ์

จากนั้น ในที่ประชุมได้พูดถึงกระแสข่าวความขัดแย้งและการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเลขาธิการพรรค โดย พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวถึง ร.อ.ธรรมนัส ที่นั่งอยู่ด้านข้างๆ ให้ ส.ส.ฟังว่า เป็นคนที่เสียสละมาตลอด ควรจะอยู่ด้วยกันต่อ พร้อมกับถาม ร.อ.ธรรมนัสว่า จะอยู่ต่อ หรือจะเอาอย่างไร ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส ได้กล่าวยืนยันในที่ประชุมว่า ”ตอนแรกผมจะไม่อยู่ ใจอยากกลับไปอยู่ที่บ้านทำธุรกิจ เป็นราษฎรธรรมดา มากกว่าทำการเมือง ซึ่งท่านประวิตรขอให้อยู่ช่วยกันทำงาน ถ้านายรัก อนุญาตให้ทำงานต่อ ก็จะไม่ออกไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ ถ้าท่านประวิตรอยู่ผมก็ยินดีที่จะอยู่ต่อ ผมเกิดจากพรรคนี้ก็พร้อมจะอยู่ตรงนี้ ถ้าจะจบชีวิตการเมืองก็ขอให้จบที่พรรคพลังประชารัฐ ยึดที่นี่เป็นที่พึ่งพิง ขอให้พลังประชารัฐเป็นบ้านสุดท้ายของผม”

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ยังย้ำกับ ส.ส. เรื่องการสลายก๊กและมุ้งต่างๆ ในพรรคว่า ขอให้ช่วยกันทำให้พรรคมั่นคง ขอให้รักกัน สามัคคีกัน ช่วยกัน “อย่ามีกลุ่ม มีก๊วน ต่อไปจะมีแต่กลุ่มหัวหน้าพรรค แล้วห้ามไปตั้งก๊วน ตั้งมุ้ง ส่วนมุ้งต่างๆ ที่เคยดูแล ส.ส.กันอยู่ ขอให้หยุด ต่อไปถ้าจะดูแล มาเอาที่ผม ผมรับผิดชอบคนเดียวเอง”

อย่างไรก็ตาม มีช่วงหนึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้ปลุกขวัญกำลังใจ ส.ส.ว่า จะดูแลทั้งพรรคและการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่จะใช้บัตรเลือกตั้งสองใบ จะทำให้พรรคได้ไม่น้อยกว่า 150 เสียงให้ได้ ทุกอย่างเหมือนเดิม หลังจากนั้น ส.ส.หลายคนได้แสดงความคิดเห็นหลากหลาย โดยมีข้อเสนอหนึ่ง ขอให้นายกรัฐมนตรีมาดูโครงการพัฒนาของส.ส.ด้วย เพื่อส.ส.จะได้มีผลงาน ขณะเดียวกัน ยังได้มีการเสนอว่า ให้รัฐมนตรีของพรรคไปช่วยดูแล ส.ส.เวลาลงพื้นที่ด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมเสร็จสิ้น ช่วงที่นายสมศักดิ์เดินมาส่งพล.อ.ประวิตร ที่ลิฟท์ ปรากฏว่า นายสมศักดิ์ ได้เข้าสวมกอด พล.อ.ประวิตร โดย พล.อ.ประวิตร ได้กระซิบข้างหูว่า “ขอบใจมาก”

มีรายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ พล.อ.วิชญ์ที่ พล.อ.ประวิตรเพิ่งลงนามคำสั่งแต่งตั้งไปเมื่อวันที่ 14 ก.ย. นอกจากจะเป็นอดีตนายทหารคนสนิทที่ถูกจัดเป็นน้องรักอันดับต้นๆ ของ พล.อ.ประวิตรแล้ว ยังรู้จักเป็นการส่วนตัวกับ ร.อ.ธรรมนัส โดย ร.อ.ธรรมนัสเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.25 ของนายทหารคนสนิทของ พล.อ.วิชญ์ ซึ่งเป็นก๊วนทหารม้าเช่นเดียวกับ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบกผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นอดีตนายทหารผู้ใหญ่ที่ ร.อ.ธรรมนัสนับถือที่สุด ทั้งนี้ การที่ พล.อ.ประวิตรแต่งตั้ง พล.อ.วิชญ์ขึ้นเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค ทั้งที่แต่เดิมเคยจะแต่งตั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตรนั้น ต้องการแสดงในเชิงสัญลักษณ์ว่าพรรค พปชร.ยังเป็นของ พล.อ.ประวิตร

เนื่องจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เตรียมจะให้รัฐมนตรีในพรรค พปชร.ที่ระยะหลังมีความใกล้ชิดนายกฯ เข้ามามีบทบาทในพรรคแทน ร.อ.ธรรมนัส นอกจากนี้ การแต่งตั้ง พล.อ.วิชญ์เข้ามาเพื่อจะให้เป็นบุคคลที่คอยดูแลประสานกับ ส.ส.ในพรรค เพราะบทบาทของ ร.อ.ธรรมนัสอาจจะไม่มากเหมือนแต่ก่อน รวมถึง ส.ส.บางกลุ่มในพรรคอาจไม่สบายใจที่จะต้องประสานกับ ร.อ.ธรรมนัส จึงให้ พล.อ.วิชญ์ซึ่งเป็นผู้ใหญ่สายตรงของ พล.อ.ประวิตรเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้