หลังจากที่มีการประชุมภายในพรรคเพื่อไทย ที่มีการพิจารณาโทษของ 7 ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่โหวตสวนมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา
โดยมติคณะกรรมการจริยธรรม มีดังนี้ คือลงมติขับ ส.ส. 2 ราย 1. นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ เนื่องจากมีพฤติการณ์พูดกล่าวร้ายให้พรรค ทำให้พรรคเกิดความเสื่อมเสีย ทั้งในห้องประชุมรัฐสภา และในการแถลงข่าว 2. น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี โหวตสวนมติพรรคทุกครั้งและไม่ร่วมกิจกรรมกับพรรค
ก่อนที่จะมีข่าวสะพัดตามมาว่า นางสาวพรพิมล อาจจะไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ไปปรากฎตัวร่วมกับส.ส.พรรคภูมิใจไทย ขณะที่นายศรัณวุฒิ มีแนวโน้มอาจจะไปอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ
ทั้งนี้ในส่วนของนายศรัณวุฒิ หากย้อนไปเมื่อวันที่ 4 ก.ย. ได้แถลงที่รัฐสภา ก่อนการลงมติในญัตติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลใน ว่า ตนจะโหวตสวนมติพรรค เพราะรับไม่ได้กับข้อมูลที่ได้ทราบมาว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านบางพรรคทำมาหากินกับการอภิปราย โดยการนำชื่อรัฐมนตรีที่ไม่มีความผิดจริง รวมถึงข้อมูลไม่ชัดเจนมาใส่ในการอภิปรายครั้งนี้อย่างน้อย 3 คน แล้วในการใส่ชื่อรัฐมนตรี 3-4 คนนั้น ทำเพื่อการต่อรอง คือ 1.การต่อรองทางการเมือง
2.ต่อรองเรื่องผลประโยชน์ และ 3.เก็บไว้เป็นตัวประกัน นี่คือพฤติกรรมที่ไม่ชอบมาพากล ซึ่งตนรับไม่ได้ และไม่เคยคิดว่าในประเทศไทยหรือสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้จะมาเป็นเครื่องมือของบุคคเหล่านี้ และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งเดียว ทำมาหลายครั้งแล้ว นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น
ประเด็นที่สอง ตนได้ฟังการอภิปรายแล้วรัฐมนตรีหลายคนตอบก็มีเหตุผล แล้วการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน การซักถามประเด็นไม่ชัดเจน หลักฐานก็ไม่เพียงพอ แต่ก็มีการคลุมถุงชน สั่งให้ลงมติซ้ายหันขวาหันซึ่งเป็นอะไรที่ไม่ใช่ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ ไม่ใช่ ส.ส.ของปวงชนชาวไทย
เมื่อผู้สื่อข่าว ได้ถามย้ำว่า หากทางพรรคมีบทลงโทษและคาดโทษกับ ส.ส.ที่ไม่ทำตามมติพรรค นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า คาดโทษก็คาดไป แต่เหตุผลของตนมีอย่างนี้ พี่น้องก็ตัดสินเอาเองว่า ถ้าพรรคการเมืองคาดโทษ ส.ส.ของปวงชนชาวไทยแบบนี้ ท่านรับได้หรือ แล้วถ้าตนไปยอมอย่างนั้น ก็ไม่ควรเป็น ส.ส.ของปวงชนชาวไทย สู้สมัครเป็น ส.ส.ของพรรคนั้นแล้วก็ไปประกาศชัดเลยว่าจะขอรับใช้พรรคนั้นเท่าชีวิต จะขอเป็นทาสรับใช้ตลอดไป เอาอย่างนั้นหรือ
เมื่อถามว่า หากถูกขับออกจากพรรคเพื่อไทย มีพรรคสำรองแล้วหรือไม่ นายศรัณย์วุฒิ เปิดเผยว่า ยังไม่ได้อยู่ในความคิดเลย ตนอาจจะไปอาศัยพรรคที่ไหนก็ได้ หากเกิดเหตุการณ์นั้นจริง ๆ แต่ยังไม่ได้อยู่ในความคิด
อย่างไรก็ตามในเพจเฟซบุ๊กของ นายศรัณย์วุฒิ ทันทีที่ทราบการแถลงจากพรรค ได้มีถ้อยคำที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเคาะข่าว ระบุว่า “เพื่อไทยไม่ต้องไล่ ไร้อุดมการณ์ผมไปเอง ศรัณย์วุฒิทำตามกติกาพรรคทุกอย่าง เพราะอยากให้เกิดการเมืองแบบสร้างสรรค์เพื่อพี่น้องประชาชน !” และนายศรัณย์วุฒิ ยังโพสต์ข้อความว่า หากอนาคตจะเป็นอย่างไร ก็พร้อมรับทุกสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก ว่าหลังจากนี้จะย้ายมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ หลังเจ้าตัว แหกมติพรรค งดออกเสียงให้ 5 รมต. แต่เลือกไม่ไว้วางใจแค่ “พลเอกประยุทธ์” คนเดียว