CarMob บ่นอุบคลับเฮาส์!! ชุมนุมอโศก จุดไม่ติด เซ็งวนรถ 5 รอบจนเบื่ออยากจะเลิก!?

2243

CarMob บ่นอุบคลับเฮาส์!! ชุมนุมอโศก จุดไม่ติด เซ็งวนรถ 5 รอบจนเบื่ออยากจะเลิก!?

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (7 กันยายน 2564) ทางกลุ่มราษรถ อาทิ นายมีนย์ จันทราวุฒิกร นายเด่นชัย เอมเอี่ยม และนายพรเทพ ชมทอง ได้มีการเสวนาในคลับเฮ้าท์ โดยมีการประเมินกันว่า การจัดชุมนุมป้อมค่ายที่บริเวณสี่แยกอโศก ที่มีนายสมบัติ บุญงามอนงค์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นแกนนำ จนถึงในวันนี้ มีมวลชนมาร่วมน้อยมาก นายพรเทพบอกว่า เท่าที่ไปสังเกตการณ์ มีคนไม่เกิน 200 คนเท่านั้น และกิจกรรมนี้น่าจะหยุดในวันศุกร์ที่ 10 กันยายน นี้

ทางด้าน นายมีนย์เห็นว่า ปัจจัยที่ทำให้มวลชนมาร่วมชุมนุมน้อยว่าที่คาดไว้ ก็น่าจะมาจากมีฝนตก และบริเวณสี่แยกอโศกเป็นสถานที่คับแคบ การที่นายณัฐวุฒิและนายสมบัติพยายามดึงกลุ่มคาร์ม็อบมาร่วมด้วย นั้น ในวันนี้ปรากฎว่ามีคาร์ม็อบมาน้อยมาก นอกจากนี้ ปัจจัยที่ดึงมวลชนไปจากบริเวณอโศก ก็คือ การที่กลุ่มทะลุฟ้าได้ประกาศที่จะตอบโต้ฝ่าย คฝ.ในวันนี้ จนทำให้มวลชนส่วนหนึ่งไปสังเกตการณ์บริเวณดินแดงแทน นายมีนย์บอกว่าแม้แต่ตนเองก็อยากจะไปร่วมกับม็อบทะลุฟ้ามากกว่า

ส่วนกรณีที่นายสมบัติมอบหมายให้กลุ่มราษรถ (มีนายยุทธเลิศ สิปปภาค เป็นแกนนำ) จัดคารม็อบเพื่อให้ไปร่วมกิจกรรมกับการชุมนุมป้อมค่ายนั้น นายมีนย์บอกว่าตนได้รับมอบหมายจากนายสมบัติ ให้เป็นผู้จัดขบวนคาร์ม็อบ “กลุ่มราษรถ” โดยไปจอดขบวนรถที่บริเวณสวนเบญจกิติ ปรากฏว่า มีพวกเรามาร่วมกิจกรรมลดลงทุกวัน แม้แต่ในการร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันอังคารที่ 2 กันยายน ซึ่งเป็นวันแรก ปรากฏว่าคนในคาร์ม็อบได้วนรถไปครบ 5 รอบและรู้สึกเบื่อหน่ายมาก จนอยากจะเลิก สำหรับในวันนี้มีเหลือเพียงตนคันเดียว นายมีนย์รู้สึกว่า การจัดกิจกรรมเสริมให้คาร์ม็อบไปร่วมชุมนุมป้อมค่ายจะไม่ “work” เพราะบริเวณสี่แยกอโศก มีสภาพไม่กว้างพอ

ซึ่งต่อมาในช่วงเช้าของวันที่ 8 กันยายน ก็ได้มีการเสวนาในคลับเฮาส์ ต่อเนื่องจากวันที่ 7 กันยายน โดยมีผู้ร่วมเสวนา นายมีนย์ จันทราวุฒิกร นายเด่นชัย เอมเอี่ยม นายพรเทพ ชมทอง นางสาวนพเก้า ทิวารี นายเกวลัง ธัญญเจริญ (เก่ง อาชีวะ) และนายชัยพัฒน์ (ยังไม่ทราบนามสกุล) ในประเด็น “สู้ต่อไหม ถามใจเธอดู” การจัดขบวนคาร์ม็อบกลุ่มราษรถ ที่จะเข้าร่วมชุมนุมที่สี่แยกอโสก

มีการปรึกษาในเรื่องการจัดขบวนคาร์ม็อบกลุ่มราษรถ ซึ่งยังไม่อาจระดมขบวนได้ โดยสังเกตว่าการชุมนุมที่สี่แยกอโศก เมื่อวานนี้ มีคาร์ม็อบของกลุ่มเพียง 4 คัน เท่านั้น ส่วนกลุ่มรถจักรยานยนต์เป็นการกำกับดูแลของนายณัฐวุฒิ ดังนั้น ส่วนสาเหตุที่การจัดคาร์ม็อบมีปัญหา เนื่องจากสี่แยกอโศกเป็นพื้นที่คับแคบและอยู่ใจกลางเมืองเกินไป จนทำให้การจัดขบวนคาร์ม็อบทำได้ยาก นายมีนย์เห็นว่า หากในวันนี้ไม่สามารถจัดคาร์ม็อบได้ ก็จะไปร่วมชุมนุมม็อบแทน จากการที่ม็อบมีมวลชนมาร่วมน้อยลง

อีกทั้งนายณัฐวุฒิได้ทราบว่า ฝ่ายตำรวจกำลังขอหมายจากศาล หากศาลอนุมัติทันในช่วงเย็น ก็อาจถูกควบคุมตัวในพื้นที่ชุมนุม ซึ่งจะส่งภาพลบกับพวกเรา ทำให้นายณัฐวุฒิประกาศยกเลิกการจัดม็อบที่อโศกใน 8 กันยายน 2564 เพื่อติดตามสถานการณ์

ด้านนายประสิทธิ์ ซึ่งสนิทกับนายณัฐวุฒิ เห็นว่า สาเหตุที่ทำให้มวลชนในม็อบมีน้อยลง เนื่องจากฝ่ายเราไม่สามารถปิดถนนได้ เนื่องจากตำรวจมาขอพื้นที่จราจรอีก 1 เลน เพราะตำรวจอ้างว่า หากมวลชนเยอะจะปิดเลนจราจรให้ ผู้ร่วมเสวนาสรุปความเห็นวา พร้อมจะต่อสู้กันไป แต่จะมีการพักรบระยะหนึ่ง

นอกจากนี้ มีผู้เสนอให้มีการจัดคาร์ม็อบและจอดบริเวณสี่แยกหรือจุดต่าง ๆ เพื่อให้การจราจรเป็นอัมพาตทั้งกรุงเทพ แต่นายชัยพัฒน์เห็นแย้งว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะทำกิจกรรมดังกลาว เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่สุกงอม อีกทั้งพวกเรายังกังวลกันว่า หากทำให้การจราจรเป็นอัมพาตทุกเส้นทาง อาจเสียแนวร่วมมากกว่า เพราะว่า ขณะนี้มีสถานการณ์โควิด ซึ่งมีรถพยาบาล และรถส่งยา ต้องวิ่งไปทั่วกรุงเทพ รวมถึงกระทบต่อผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปด้วย

นายชัยพัฒน์เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มราษรถซึ่งเป็นแนวร่วมสำคัญของนายสมบัติ และเป็นตัวหลักในการจัดคาร์ม็อบ มีแผนที่จะขยายแนวร่วมด้วยการตระเวณไปตามพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อดึงกระแสการต่อสู้ไม่ให้ตกไป เนื่องจากคาร์ม็อบหลายจังหวัดที่ยังเข้มแข็ง และทางกลุ่มราษรถประเมินว่า การที่แต่ละจังหวัดจัดคาร์ม็อบเพียงลำพังนั้น จะไม่สามารถสร้างพลังได้มาก จึงควรจะต้องมีการร่วมมือกันจัดคาร์ม็อบโดยให้แต่ละจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงกัน มาร่วมมือกันจัดคาร์ม็อบและนำขบวนรถมาร่วมเพื่อให้เกิดภาพใหญ่ขึ้น

โดยในวันที่ 11 กันยายน 2564 นายธนัตถ์ ธนากิจอำนาย และเพื่อน ๆ จำนวนหนึ่งจะเดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมกิจกรรมกับคาร็ม็อบจังหวัดเชียงใหม่ใน 12 กันยายน 2564 โดยนายชัยพัฒน์ประเมินว่า ขณะนี้การจัดคาร์ม็อบในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานยังมีความเข้มแข็ง ส่วนในภาคใต้มีลดลง เนื่องจากแกนนำถูกคุกคามและถูกหมายเรียก

ผู้ร่วมเสวนาเห็นว่าการจัดม็อบในขณะนี้ มีมวลชนกลุ่มเดียวกัน ดังนั้น การจัดม็อบในแต่ละวันหลายกลุ่ม จะทำให้เกิดภาพมวลชนมีจำนวนน้อย โดยนายเกวลังเสนอว่า แต่ละกลุ่มมีวิธีการเป็นของตัวเอง การมาจัดร่วมกันก็อาจมีปัญหาบ้าง แต่การจัดชุมนุมทุกวันจะเกิดผลดีและสร้างกดดันรัฐบาลได้ รวมทั้ง ควรมีการหารือในระดับแกนนำกลุ่มด้วยเพื่อวางแผนร่วมกัน นายชัยพัฒน์ยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่มีการประสานงานเพื่อวางกันร่วมือกันทุกกลุ่ม และขอให้นายเกวลังเป็นผู้ประสานกับแกนนำกลุ่มต่างๆ อาทิ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ กลุ่มรีเดม กลุ่มทะลุฟ้า กลุ่มราษฎร และกลุ่มนักเรียนชั่ว มาร่วมหารือผ่านระบบคลับเฮาส์เป็นห้องลับ ในเร็วๆ นี้