ทูตพิเศษประจำเมียนมาจากสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เปิดเผยว่า รัฐบาลทหารของเมียนมาเห็นพ้องต่อข้อเรียกร้องในการหยุดยิงจนถึงสิ้นปี 2564 เพื่อรับรองความปลอดภัยสำหรับการมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ยังหนักหนาสาหัสทั่วประเทศ ไม่ทันขาดคำ วันนี้ฝ่ายต่อต้านที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกได้ประกาศ ให้ทำสงครามทุกพื้นที่โดยไม่สนใจข้อเสนอหยุดยิงแต่อย่างใด จับตาอาเซียนจะทำอย่างไรต่อในเมื่อผลการเจรจาครั้งนี้ไม่เป็นที่ยอมรับของอีกฝ่าย สงครามกลางเมืองในพม่าไม่อาจหลีกเลี่ยง
วันที่ 7 ก.ย.2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลเงาพม่าประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเช้านี้ ให้ประชาชนทั่วประเทศจับอาวุธเพื่อทำสงครามขับไล่รัฐบาลทหาร ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศต่อไป
นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา อาเซียนได้พยายามยุติความรุนแรงในเมียนมาซึ่งมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน และเปิดการเจรจาระหว่างผู้ปกครองฝ่ายทหารและฝ่ายตรงข้าม
นายเอรีวัน ยูซอฟ ทูตพิเศษประจำเมียนมาได้เสนอให้เมียนมาทำการหยุดยิงในระหว่างประชุมทางไกลกับนายวันนา หม่อง ลวิน รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา และกองทัพได้เห็นพ้องกับข้อตกลงดังกล่าว
นายเอรีวันระบุว่า “นี่ไม่ใช่การหยุดยิงทางการเมือง นี่คือการหยุดยิงเพื่อความปลอดภัยและเสถียรภาพของผู้ที่ทำงานด้านมนุษยธรรม” ที่ต้องการมอบความช่วยเหลืออย่างปลอดภัยต่อประชาชนในพื้นที่
นายเอรีวันเสริมว่า “พวกเขาไม่มีข้อขัดแย้งต่อสิ่งที่ผมพูดเกี่ยวกับการหยุดยิง”
นอกจากนี้ นายเอรีวันยังส่งข้อเสนอทางอ้อมให้แก่ฝ่ายต่างๆ ที่ต่อต้านการปกครองโดยกองทัพเมียนมาเช่นกัน
ทั้งนี้ กองทัพเมียนมาได้โค่นล้มรัฐบาลพลเรือนของนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา โดยกล่าวหาว่าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) พัวพันกับการโกงเลือกตั้งในเดือนพ.ย. 2563
ด้านการระบาดโควิด-19 ในเมียนมาค่อนข้างหนักหนาสาหัสรุนแรงมาก ตามตัวเลขสถิติอย่างเป็นทางการจากกระทรวงสุขภาพและการกีฬาของพม่าที่จัดตั้งขึ้นมาภายหลังการรัฐประหาร ใน 330 อำเภอทั่วประเทศ เวลานี้มีถึง 296 อำเภอที่ได้รับความกระทบกระเทือนจากเชื้อโรคร้ายนี้
ตัวเลขข้อมูลที่รวบรวมโดยศูนย์เฝ้าติดตามไวรัสโคโรนา ของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ (Johns Hopkins University) แสดงให้เห็นว่าในพม่ามียอดผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้ว 118,752 คน และยอดผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 3,756 คน (ตัวเลขเมื่อถึงช่วงประมาณเที่ยงคืนวันที่ 20 ก.ค. 2021 เวลาประเทศไทย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 229,521 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเป็น 5,000 คน -ผู้แปล) ทว่าตัวเลขเหล่านี้แม้กระทั่งที่ยึดโยงอยู่กับรายงานของทางการ ก็ยังคงเป็นแค่ส่วนยอดที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ทางการเมียนมาประกาศว่าทั่วประเทศมีเคสผู้ติดเชื้อใหม่ 4,377 ราย แต่นี่เป็นตัวเลขที่อิงอยู่กับการตรวจสอบแบบกวาดหาตัวอย่างเชื้อจากโพรงจมูกเพียงแค่ 15,128 รายซึ่งทำกันในวันดังกล่าว ถ้าหากใช้ตัวเลขเหล่านี้แบบเปรียบเทียบหาความสัมพันธ์กัน มันก็จะหมายความว่าเกือบๆ 1 ใน 3 ของผู้ได้รับการตรวจสอบทีเดียว มีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก
เวลานี้โรงพยาบาลต่างๆ อยู่ในสภาพไม่มีเตียงสำหรับรับเคสโควิดระลอกใหม่ บังคับให้พวกบุคลากรทางการแพทย์ต้องปฏิเสธไม่รับคนไข้รายใหม่ๆ เพิ่มอีก รายงานข่าวกระแสต่างๆ บ่งชี้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในภาวะขาดแคลนอย่างร้ายแรง ตั้งแต่ออกซิเจนไปจนถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปจนถึงวัคซีน
ท่ามกลางความยากลำบากนี้ สหรัฐและชาติตะวันตกยังคงคว่ำบาตรเศรษฐกิจอย่างหนัก แต่ทางการพม่ายังได้รับควาาช่วยเหลือด้านวัคซีนและอุปกรณ์การแพทย์จากจีนและรัสเซียเป็นระยะ ล่าสุดจีนส่งวัคซีนซิโนฟาร์มให้พม่าอีก 1 ล้านโดส และอุปกรณ์การแพทย์มูลค่า 20 ล้านหยวน เพื่อนำไปฉีดและใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในรัฐชานและคะฉิ่นโดยเฉพาะ
วัคซีนซิโนฟาร์มและอุปกรณ์การแพทย์เหล่านี้ เป็นการบริจาคโดยรัฐบาลกลางของจีน ผ่านทางฝ่ายสาธารณสุข มณฑลยูนนาน เพื่อมอบให้กระทรวงสาธารณสุขพม่า นำไปฉีดและใช้รักษาประชาชนในรัฐฃานและรัฐคะฉิ่น ซึ่งกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างหนักรวมยอดวัคซีนที่พม่าได้รับจากจีน ช่วง 2 เดือนที่ระบาดระลอกใหม่ 8.6 ล้านโดส