เผยโฉม6งูเห่าพท.? ศรัณย์วุฒิ ยืดอกรับ โหวตสวนมติพรรค! แถมแฉ ฝ่ายค้าน หากินกับการอภิปราย!
จากกรณีที่ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม – 4 กันยายน 2564 เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน “ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล” โดยผลการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จำนวนผู้ลงมติทั้งหมด 475 เสียง ไม่ไว้วางใจ 208 เสียง ไว้วางใจ 264 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียง พร้อมกับ 5 รัฐมนตรี สภามีมติไว้วางใจ
โดยเมื่อวานนี้ ( 3 กันยายน 2564) ได้เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกลางสภา โดยทางด้านของนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวว่า “พรรคเพื่อไทยปิดกั้นแบบนี้ อุดมการณ์จะเหลือเหรอครับ กราบเรียนท่านประธาน เจ็บปวดมากนะครับ ทำการบ้านมา เอกสารเต็มไปหมดเลย ผมจะเอาออก 90% เหลือ 10% ก็ยังไม่ได้อภิปราย แบบนี้จะทำได้ยังไงล่ะครับ กราบเรียนพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ศรัณย์วุฒิถูกปิกกั้นไม่ให้อภิปราย ทั้งๆที่ทำการบ้านมาอย่างดี นี่คืออุดมการณ์พรรคเพื่อไทยครับ” ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก
ล่าสุดวันนี้ (4 กันยายน 2564) นายศรัณย์วุฒิ ได้กล่าวถึงการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในวันนี้ว่า วันนี้ตนจะโหวตสวนมติพรรค ในส่วนที่ทุกคนไม่คาดคิด ตนรับไม่ได้กับข้อมูลที่ได้รับมาว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านบางพรรคทำมาหากินกับการอภิปรายโดยการนำชื่อรัฐมนตรีที่ไม่มีความผิดจริง รวมถึงข้อมูลไม่ชัดเจนมาใส่ในการอภิปรายครั้งนี้อย่างน้อย 3 คน ซึ่งเขาทำเพื่อการต่อรองคือ 1.การต่อรองทางการเมือง 2.ต่อรองเพื่อผลประโยชน์ และ 3.เก็บไว้เป็นตัวประกัน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่ชอบมาพากล ตนรับไม่ได้และไม่เคยคิดว่าในประเทศไทย สภาอันทรงเกียรติแห่งนี้จะมาเป็นเครื่องมือคนเหล่านี้ ซึ่งก็มีการทำมาหลายครั้งแล้ว
นายศรัณย์วุฒิกล่าวอีกว่า ตนได้ฟังการอภิปรายในครั้งนี้ รัฐมนตรีหลายคนก็ตอบมีเหตุผล ฝ่ายค้านประเด็นการซักถามก็ไม่ชัดเจน หลักฐานไม่เพียงพอ แต่ก็มีกดและการสั่งลงมติแบบซ้ายหันขวาหัน ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่ใช่ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติของปวงชนชาวไทยทำกัน และขอย้ำว่าตนไม่ใช่ ส.ส.ของใครแต่เป็น ส.ส.ของปวงชนชาวไทยทุกคน ไม่ใช่ใครจะมาจูงจมูกลากไปลากมาก็ได้หรือลงมติที่พรรคต้องการก็ได้ ตนอยากให้พรรคการเมืองเป็นพรรคของปวงชน ไม่ใช่พรรคของเจ้าของหรือเป็นบริษัท อย่างนี้มันผิดระบบ
“สิ่งที่ผมรับไม่ได้ มีบางพรรคมีหนังสือออกมาและให้ ส.ส.พรรคของตัวเองไปเซ็นว่าต้องให้ลงมติตามพรรค ตั้งแต่ยังไม่ได้อภิปรายเลย กรณีที่ผมจะขออภิปรายไม่ให้อภิปรายแต่มาบังคับให้ลงมติตามพรรค คนอย่างผมจะยอมหรือ เป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้ ขอประกาศกร้าวต่อประชาชนทั้งประเทศผมอยากเห็นการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงและดีกว่านี้ สิ่งเหล่านี้ผมรับไม่ได้และจะไม่ปฏิบัติตามมติพรรค และผมจะโหวตสวนมติพรรค” นายศรัณย์วุฒิกล่าว
เมื่อถามว่าทางพรรคมีบทลงโทษและคาดโทษกับ ส.ส.ที่ไม่ทำตามมติพรรค นายศรัณย์วุฒิกล่าวว่า สอบถามประชาชนว่าท่านรับได้หรือ แล้วถ้าตนเป็นแบบนั้น ตนคงไม่ทำสู้ตนไปสมัครกับพรรคนั้นแล้วไปประกาศว่าตนจะเป็นทาสรับใช้พรรคนั้นตลอด เอาเช่นนั้นหรือ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหากถูกขับออกจากพรรค มีพรรคสำรองแล้วหรือไม่ นายศรัณย์วุฒิกล่าวว่า ยังไม่ได้อยู่ในความคิด ตนอาจจะไปอาศัยอยู่พรรคไหนก็ได้ หากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริงๆ
ถามต่อว่ายังคนที่คิดอย่างนายศรัณย์วุฒิมีอีกหรือไม่ นายศรัณย์วุฒิกล่าวว่า ก็มีแต่ไม่กล้าที่จะมาแสดงตัว เพราะบางคนต้องเห็นใจเขาเพราะเพิ่งเป็น ส.ส. บทบาทและผลงานยังไม่แข็งกร้าวที่จะออกมาประกาศเช่นนี้และกลัวว่าครั้งหน้าพรรคจะไม่ส่งลงเลือกตั้ง ทำเป็นกระแสพรรคนั้นดี
เมื่อถามว่าหากครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยไม่ส่งนายศรัณย์วุฒิลงจะไปลงพรรคอื่นหรือไม่ นายศรัณย์วุฒิกล่าวว่า ตนยังไม่มีความคิดเช่นนั้นและยังไม่พร้อมที่จะตอบ แต่การเป็นนักการเมืองต้องมีความพร้อมในทุกมิติและทุกเวลา ไม่เช่นนั้นอย่ามาเป็น ส.ส.ของปวงชนชาวไทย ตนเป็น ส.ส.เขตมา ตนสาบานได้ว่าไม่เคยซื้อเสียงมา การได้รับเลือกตั้งเข้ามาก็เพราะความรักและศรัทธาของประชาชน ตนทำงานหนักมากทั้งในสภาและนอกสภา
ทั้งนี้ นายศรัณย์วุฒิเปิดเผยภายหลังการลงมติว่า ตนลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีคนเดียว นอกนั้นตนงดออกเสียงรัฐมนตรีคนอื่นทั้งหมด
ในขณะที่ทางด้านของนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า วันนี้ถือเป็นวันสุดท้ายที่จะจบสมบูรณ์สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประชุมเช้าวันนี้ พรรคเพื่อไทยนัดประชุม ส.ส.ก่อนการลงมติ เพื่อทบทวนแนวทางการลงมติ
ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านได้มีการประชุมหัวหน้าพรรค เมื่อวานนี้ แต่ทุกคนยังอยู่ในแนวทางเดียวกันของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยังคงไม่ไว้วางใจ และเมื่อพบสถานการณ์บางเรื่องยิ่งไม่ไว้วางใจมากกว่าเดิม พร้อมยอมรับว่าอาจจะมีคนแตกแถวหรือที่เรียกว่างูเห่าบ้าง แต่มั่นใจว่ามีน้อย และคงเป็นเจ้าเก่า ทั้งนี้ประมาทไม่ได้ เพราะมีปัจจัยที่มากระทบ และเหตุจูงใจมากกว่าทุกครั้ง เพราะการตัดสินใจทางการเมืองถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ ส.ส.
ส่วนกรณีนายศรัณย์วุฒิที่แสดงความไม่พอใจ หลังจากไม่มีชื่อร่วมอภิปรายนั้น นายสุทิน กล่าวว่า เห็นใจและเข้าใจ เพราะเป็นคนที่ตั้งใจดี โดยจะพยายามทำความเข้าใจกับนายศรัณวุฒิ มาเป็นสื่อกลางที่จะประสานพูดคุย ให้โดยเชื่อว่านายศรัณย์วุฒิคงไม่คิดไกลถึงขั้นจะย้ายออกจากพรรค แต่อาจมีความรู้สึกน้อยใจอยู่บ้าง
สำหรับส.ส.ที่เป็นกลุ่มงูเห่าของพรรคเพื่อไทย คาดว่าน่าจะมี 6 คนได้แก่
1. นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ
2. นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์
3. นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์
4.นายธีระ ไตรสรณกุล
5.นางสาวพรพิมล ธรรมสาร
6.นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร