จากกรณีที่วันนี้ (3 กันยายน 2564) ที่อาคารรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้าร่วมการประชุม การพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล
เมื่อถามว่าอยากให้นายกฯพูดถึงกรณีที่ฝ่ายค้านอภิปรายเปิดเผยมีการแจกเงิน 5 ล้านบาทซื้อโหวตส.ส. ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า กรณีที่มีส.ส.กล่าวหาว่ามีการแจกเงินในสภาตนคิดว่าเป็นการพูดที่ไม่มีสติสัมปชัญญะพอที่จะพูดแบบนี้โดยไม่มีหลักฐานอะไรทั้งสิ้น คาดว่าฝ่ายกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการต่อไป ตนคิดว่าปล่อยไว้ไม่ได้เรื่องแบบนี้ เพราะคนแบบนี้ก็มีพฤติกรรมแบบนี้หลายครั้งแล้ว ช่วงก่อนก็มีการกรีดเลือดในสภา
ในขณะเดียวกัน นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ที่ยืนอยู่ข้างๆนายกฯได้กล่าวขึ้นมาว่า ตอนนั้นเขาจะหาเสียงให้ลูกเขาสมัครนายก อบจ. ขณะที่นายกรัฐมนตรีกว่าว่า เห็นไหม มีคนช่วยพูดแล้ว ก็ดูพฤติกรรมแล้วกันแต่ละคนที่พูดออกมาว่าเป็นอย่างไร ความน่าเชื่อถือระหว่างเขากับนายกฯเป็นอย่างไร ไม่ว่าใครก็ตามไอ้คนที่ล้มนายกฯเขาก็ต้องการล้มอยู่แล้ว ก็ต้องมาดูว่าตัวนายกฯกับเขาความน่าเชื่อถือมันมีแค่ไหน
เมื่อถามว่าแสดงว่าแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ กรณีที่จะล้มหรือไม่ล้ม นายกฯ กล่าวว่า มันขึ้นอยู่กับว่าใครทำ เขาทำจริงหรือเปล่า และเขาจะทำต่อหรือไม่ และเขาเชื่อมโยงอยู่กับใคร เมื่อถามว่าแนวทางโหวตเป็นอย่างไร นายกฯกล่าวว่า ตนจะรู้หรือไม่ เขาก็โหวตของเขาเอง เมื่อถามว่าที่นายกฯบอกว่าแล้วแต่หัวหน้าพรรคพปชร.ได้มีการพูดคุยกันอย่างไรหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า คุยกันตลอด ตนคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. ทุกวัน เข้าใจหรือไม่
“ในเรื่องเหล่านี้อยากจะกราบเรียนทุกคนและสื่อ ก็เป็นคนตั้งเองใช่หรือไม่ 3 ป. ไม่มีใครมาทำลายผมได้หรอก ทุกคนอาจจะไม่รู้ ทุกคนอาจจะไม่รักเพื่อนรักคนอื่น เหมือนผมรักกัน 3 คน ผมร่วมเป็นร่วมตายกันมา ชายแดนผมก็อยู่ ท่ามกลางสนามรบผมก็เคยอยู่ด้วยกัน และท่านเป็นผู้บังคับบัญชาของผมมาตั้งแต่ก้าวแรกที่ผมมารับราชการ อยู่บ้านเดียวกัน กินนอนด้วยกัน สั่งสอนกัน ฝึกอบรมด้วยกันและโตขึ้นมาก็ยังคบ ยังเคารพกันอยู่ ทุกอย่างผมเป็นวันนี้ได้เพราะพี่ทั้งสองคนได้สั่งสอนผมมา และผมจำได้ว่าพี่ทั้งสองคนจะสอนมาให้ผมทุจริตโกงไม่มี”
นายกฯกล่าวว่า การที่ส.ส.มาพบตน เป็นการมาถามสารทุกข์สุกดิบ และทุกคนก็ยืนยันว่าอยู่กับนายกฯ เพราะเขาเป็นคนที่เลือกนายกฯในรายชื่อ ก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ใครดีก็ดี ใครไม่ดีก็ค่อยว่ากัน เรื่องนี้ก็เป็นด้วยข้อเท็จจริง อย่าไปหวั่นไหวด้วยคำพูดของคนนั้นคนนี้ มันจะเดือดร้อน วุ่นวาย ตนไม่อยากให้ทุกอย่างวุ่นวายในช่วงการอภิปราย
“ในส่วนของความสัมพันธ์ ผมบอกไปแล้วทั้ง 3 คนไม่ว่าจะตีผมอย่างไร ผมไม่มีแตกกันอยู่แล้ว รักกันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน จำคำพูดของผมไว้แล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช. เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพลังประชารัฐ ยังมีความกังวลใจอะไรกันอีกหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ”ผมไม่เคยมีประเด็นอะไรกับเขา เพราะผมเป็นคนให้เขาเข้ามาทำงานเอง แล้วผมจะไปมีอะไรกับเขาล่ะ ผู้ใหญ่จะไปมีปัญหากับเด็กได้อย่างไร ผมไม่ได้พูดเฉพาะถึงแค่รายนี้”
เมื่อถามว่า จะตามหาไอ้ห้อยไอ้โหนที่กล่าวอ้างหรือไม่ นายกฯกล่าวย้อนถามว่า ใครล่ะ ตนไม่เห็นมีใครมาโหนตนเลย และตนไม่ชอบคนโหนอยู่แล้ว “ไอ้คนที่ชอบโหน ตั้งแต่เด็กมาแล้วบอกว่าไอ้ที่เข้ามาแล้วบอกว่า ”ได้ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับนาย” ไปไกลๆ ไม่โตหรอก
เมื่อถามว่า นายกฯหวั่นไหวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่หวั่นไหวด้วยการทำงานของตน ถึงแม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง อาจจะยังไม่สำเร็จหรือสำเร็จไปบ้างแล้ว แต่หลายอย่างที่สำเร็จก็ไม่มีการออกเอามาพูดกัน หลายคนได้ประโยชน์พอใจ แต่บางคนยังไม่ได้ก็เลยไปเอาส่วนที่ยังไม่ได้ออกมาพูดกัน มาโจมตี สื่อต้องช่วยขยายความให้
นายกฯบ้าง
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะผ่านการลงมติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯบอกว่ามันเป็นเรื่องของสภา เป็นเรื่องของส.ส.เป็นเรื่องความเชื่อถือและเชื่อมั่น
เมื่อถามว่า ยังมั่นใจที่จะเดินหน้าต่อไปในการทำงานใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ก็ต้องเดินสิ ถ้าตราบใดที่ประชาชนยังต้องการตน ซึ่งตนก็ต้องเดินต่อ
เมื่อถามว่า รำคาญกับข่าวปล่อยที่เกิดขึ้น จะทำให้นายกฯเสียสมาธิในการทำงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่หรอก ถ้าทำให้เสียสมาธิ คงเสียมานานแล้วอยู่มา 6-7 ปี แล้ว เมื่อถามว่าที่บอกว่าจะไปต่อรวมถึงสมัยหน้าด้วยหรือไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มันอยู่ที่สภา