จากที่ วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อ้างนายกฯแจกเงิน 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการลงคะแนนโหวตไว้วางใจ ต่อมาฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา ออกมาชี้แจง พร้อมแนวทางในการดำเนินคดีกับส.ส.คนดังกล่าวนั้น
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวถึงเรื่องนี้เมื่อถูกถามว่าจะมีการแจ้งความหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็เป็นการพูดในสภาก็พูดไป ผมคุยกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภา แล้วบอกว่าไม่มีอะไร
“ขออย่าไปออกข่าวอะไรที่เสียหาย เราก็บอกท่านชวนให้ตรวจสอบ ว่ามีอะไรหรือไม่แต่ท่านชวนบอกว่า มันมีกล้องอยู่แล้ว มันไม่มีใครไปทำอะไรหรอกมันทำไม่ได้ ผมไม่ใช่คนแบบนั้น ทุกคนมาทักทายผม มาคารวะ เพราะไม่ได้เจอกับเขา ก็มาให้กำลังใจให้นายกฯ ผมไม่ทำบ้าๆบอๆ แบบนั้น ผมไม่ทำถุงขนม อยู่แล้ว”
ล่าสุดวันนี้ 3 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งให้ฝ่ายกฎหมายไปดำเนินคดีกับ ส.ส. ที่ออกมาปล่อยข่าวกรณีแจกเงิน 5 ล้านบาทแล้ว เนื่องจากเป็นการกล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐาน ซึ่งการจะลงมติไว้วางใจหรือไม่เป็นเรื่องของ ส.ส. ตนเองไม่สามารถรู้แนวทางโหวตได้
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าด้วยว่า ไม่มีใครสามารถมาทำร้ายตนเองได้ และพี่น้อง 3 ป. ร่วมเป็นร่วมตายกันมาตลอด ที่ตนเองเป็นอย่างนี้ได้ในทุกวันนี้ เพราะมีพี่ทั้ง 2 ป. ทั้งบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และบิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้สั่งสอนมา แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมาอาจจะทำงานเยอะ จนไม่ได้ใกล้ชิดกับ ส.ส. ดังนั้นจากนี้ก็จะหาโอกาสพบปะกับ ส.ส.ให้มากขึ้น
ส่วนกรณีกระแสข่าวความขัดแย้งกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นั้น ทางพล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า ไม่มีปัญหา เพราะผู้ใหญ่จะมีปัญหากับเด็กได้อย่างไร และตนเองก็เป็นคนแต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส เข้ามาเอง ซึ่งถ้ามีปัญหาจริงก็จะแก้ไขปัญหาเอง
“ถ้าในวันพรุ่งนี้จะมีการโหวตล้มนายกจริงๆ ก็ต้องไปดูข้อกฎหมายด้วย ตนเองไม่หวั่นไหว และแม้จะเบื่อการเมืองอยู่บ้าง ก็ต้องทำให้ดีที่สุด และต้องปฏิรูปการเมืองให้ได้ เพราะหากยังมีวิธีการที่จะล้ม จะเลื่อยขากันอยู่ ก็ถือว่าไม่ใช่การปฏิรูป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งนี้ ก็ไม่แตกต่างจากที่ผ่านมา เพราะข้อมูลก็ข้อมูลเดิม ตัวเลขก็เดิมๆ ทั้งที่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว และฝ่ายค้านพยายามบิดเบือนตลอด ส่วนกรณีการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ยืนยันว่า ไม่เคยปิดบัง แต่กฎหมายกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ระบุเองว่า ไม่ต้องเปิดเผย จึงขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช.เอง