“สงครามสิ้นสุดลงแล้ว กองกำลังสุดท้ายของอเมริกาเพิ่งออกจากสนามบินคาบูล”มูราด กาซดิเยฟ ผู้สื่อข่าว RT ทวีตจากกรุงคาบูล และเสริมว่าสงครามกินเวลา“19 ปี 10 เดือน 25 วัน ” เครื่องบินขนส่งทางทหารของสหรัฐฯ 3 ลำสุดท้ายออกจากสนามบินฮามิดคาร์ไซก่อนเส้นตาย 31 สิงหาคม ซึ่งเป็นการยุติการถอนทหารของสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถานอย่างเป็นทางการ กองบัญชาการกลางสหรัฐ (CENTCOM) ยืนยันแล้ว
เดิมถูกมองว่าเป็นการจากไปอย่างเป็นระเบียบของทหารสหรัฐและนักการทูตคนสุดท้ายกลายเป็นการแย่งชิงกันอย่างสิ้นหวังเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม เมื่อรัฐบาลอัฟกานิสถานที่สหรัฐหนุนหลังละลายหายไป และกลุ่มตอลิบันได้เข้ายึดครองประเทศอย่างรวดเร็ว รวมทั้งคาบูลด้วย ฝูงชนชาวอัฟกันมุ่งหน้าเข้าสู่สนามบิน โดยบางส่วนได้เข้าไปอยู่ในเครื่องบินขนส่งซึ่งสหรัฐฯเตรียมมา ส่วนคนอื่นๆยึดล้อและปีกขณะที่เครื่องบินออกเดินทาง เพียงเพื่อจะเสียชีวิตอย่างอนาจ
สหรัฐฯและพันธมิตรกว่า 130,000 คนโผบินออกจากอาฟกานิสถานในช่วงสองสัปดาห์ โดยส่วนใหญ่เป็นชาวอัฟกันที่ต้องการลี้ภัยในฝั่งตะวันตก
การขนส่ง C-17 Globemaster ครั้งล่าสุดออกจากคาบูลเมื่อเวลา 15:29 น. ตามเวลาชายฝั่งตะวันออก นายพล Kenneth McKenzie หัวหน้า CENTCOM ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ว่า”การถอนตัวของเราจากอัฟกานิสถานเสร็จสิ้น” เมื่อเที่ยวบินสุดท้ายของกองทัพสหรัฐฯ ออกเดินทาง McKenzie กล่าวว่าพันธมิตรของสหรัฐฯทุกคน ได้ออกจากอัฟกานิสถานแล้ว อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าสหรัฐฯ ไม่สามารถอพยพทุกคนที่ต้องการได้
Just listen to the intensity of the celebratory gunfire in Kabul.
I get the sense the Taliban expended more ammunition on celebration than on actual combat over the past month
Going to be fun trying to sleep tonight pic.twitter.com/Jbq48O5WIg
— Murad Gazdiev (@MuradGazdiev) August 30, 2021
ได้ยินเสียงปืนเฉลิมฉลองทั่วเมืองหลวงของอัฟกานิสถานเพื่อทำเครื่องหมายการถอนกองกำลังอเมริกันโดยสมบูรณ์หลังจากความขัดแย้งนองเลือด 20 ปีโดยรัฐบาลตอลิบันประกาศ “อิสรภาพอย่างเต็มที่”
ทุกหนทุกแห่ง มีแสงไฟจากปลายปืนขึ้นไปในอากาศเป็นพัน ๆครั้ง กลุ่มตอลิบานกำลังฉลองชัยชนะหลังจาก 19 ปี 10 เดือนและ 25 วันของสงครามอัฟกัน สงครามสหรัฐในอัฟกานิสถาน
การเฉลิมฉลองที่ดังกึกก้องปะทุขึ้นเมื่อความพยายามอพยพครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ เป็นเวลาหลายสัปดาห์ได้ยุติลง เป็นการยุติสงครามที่ยาวนานที่สุดของอเมริกา ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนนับหมื่นและสูญเงิหลายล้านล้านดอลลาร์ในระยะเวลาเกือบสองทศวรรษ เมื่อการถอนกำลังของสหรัฐฯ เสร็จสมบูรณ์ คาบูลและส่วนใหญ่ของอัฟกานิสถานก็อยู่ภายใต้การปกครองของตาลิบันอีกครั้ง เช่นเดียวกับก่อนการรุกรานของสหรัฐฯ ในปี 2544
Celebratory gunfire #Kabulairport #Afghanistan pic.twitter.com/behl9ZRPU0
— lyse doucet (@bbclysedoucet) August 30, 2021
เสียงปืนดังกล่าวได้ยินมาหลายไมล์รอบๆ เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ขณะที่ผู้คนโห่ร้องยินดีที่อเมริกาออกจากแผ่นดินอาฟกานิสถาน
โฆษก Zabiullah Mujahid ประกาศว่า”ผู้ครอบครองชาวอเมริกันคนสุดท้ายถอนตัว… และประเทศของเราได้รับเอกราชอย่างเต็มที่” ก่อนหน้านี้ ตัวแทนชี้แจงว่า“เสียงปืนในกรุงคาบูลเป็นภาพที่น่ายินดีเมื่อทหารสหรัฐฯ ถอนตัว” โดยให้ความมั่นใจแก่ชาวอัฟกันว่าพวกเขาไม่ต้องวิตกกังวล
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพลเมืองและพันธมิตรของสหรัฐฯ บางส่วนยังคงติดอยู่ในอัฟกานิสถานหลังจากเตรียมการอพยพอย่างเร่งรีบ กลุ่มตอลิบานได้รับรองว่าพวกพลัดหลงเหล่านี้จะได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศได้เมื่อเที่ยวบินพลเรือนกลับมาทำงานตามปกติที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด คาร์ไซ รวมถึงชาวอัฟกันที่ทำงานร่วมกับกองกำลังสหรัฐ แม้จะถือว่ารัฐบาลใหม่ของตอลิบานถือว่าเป็นผู้ทำงานร่วมกันก็ตาม แม้ว่าจนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่ากลุ่มจะอำนวยความสะดวกในการอพยพ แม้ว่าจะมีความวุ่นวายและความสับสนที่จุดตรวจของตอลิบานรอบสนามบินก็ตาม แต่ก็ยังต้องรอดูกันต่อไปว่ากลุ่มนี้จะออกมาดีหรือไม่
คำถามใหญ่สำหรับก้าวต่อไปของอาฟกานิสถานภายใต้การนำของตาลิบัน ซึ่งมีภาพพจน์เป็นกลุ่มติดอาวุธ ตะวันตกเรียกพวกเขาว่ากลุ่มก่อการร้าย คนตาลิบันและชาวอัฟกันอีกไม่น้อยมองว่าเขาคือผู้กู้ชาติ
ทางการด้านเมือง-การต่างประเทศ
เมื่อเร็วนี้อิหร่านและตุรกีซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน และยังเป็นอยู่ต่างประกาศพร้อมรับรองรัฐบาลผสมใต้การนำของตาลิบันแล้ว จีนและรัสเซียตลอดจนปากีสถาน เหล่าพันธมิตรเซี่ยงไฮ้หรือพันธมิตรตะวันออก ต่างก็มีท่าทีเป็นบวกเหลือแต่ฝั่งสหรัฐและพันธมิตรตะวันตก ที่ประกาศคว่ำบาตรและข่มขู่ตลอดเวลาทั้งยึดเงิน ทั้งคว่ำบาตรเศรษฐกิจ พวกเขาจะฝ่าสถานการณ์นี้ได้อย่างไร
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ส.ค.2564 หวาง ยี่ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์ตามคำร้องขอของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน เกี่ยวกับสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์
หวางกล่าวว่า “ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์อีกครั้งว่าสงครามอัฟกานิสถานไม่เคยบรรลุเป้าหมายในการกำจัดกองกำลังก่อการร้ายในอัฟกานิสถาน การถอนกำลังอย่างเร่งรีบของกองทัพสหรัฐฯ และนาโต้มีแนวโน้มที่จะเปิดโอกาสให้กลุ่มก่อการร้ายต่างๆ ในอัฟกานิสถานฟื้นคืนชีพ” และให้คำแนะนำว่า ทุกฝ่ายต้องติดต่อกับกลุ่มตอลิบานและชี้นำอย่างแข็งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหรัฐฯ จำเป็นต้องทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ การดำรงชีวิต และมนุษยธรรมที่จำเป็นอย่างเร่งด่วนในอัฟกานิสถาน ช่วยโครงสร้างทางการเมืองใหม่ของอัฟกันรักษาการดำเนินงานตามปกติของสถาบันของรัฐ รักษาความมั่นคงและความมั่นคงทางสังคม ควบคุมการลดค่าเงิน และอัตราเงินเฟ้อ และเริ่มดำเนินการบนเส้นทางของการฟื้นฟูอย่างสันติ
วันจันทร์ที่ 30 ส.ค.2564 สื่อต่างประเทศหลายสำนักเปิดเผยว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ยกเลิกการอ้างอิงกลุ่มตอลิบาน-อัฟกันออกจากกิจกรรมการก่อการร้ายในอัฟกานิสถาน และกล่าวว่านี่เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแนวทางของประเทศสมาชิกสหประชาชาติต่อกลุ่มตอลิบันในอัฟกานิสถาน
โฆษกตาลิบันได้เปิดเผยว่า จะมีการจัดตั้งรัฐบาลผสมในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าแต่ยังไม่มีรายละเอียดว่ามีใครบ้าง คงต้องจับตาดูต่อไปว่า ตาลิบันจะจัดความสัมพันธ์กับสหรัฐอย่างไร ส่วนด้านพันธมิตรตะวันออกพร้อมยื่นมือช่วยชัดเจนในการสร้างชาติ ผ่านโครงการเศรษฐกิจขนาดใหญ่จากหลายฝ่าย
ทางด้านเศรษฐกิจ แม้ถูกยึดเงินที่ฝากไว้ในอเมริกาและยุโรป ตลอดจนถูกคว่ำบาตรระงับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ แต่ทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นจุดเด่นของอาฟกานิสถานยังมี การค้าขายชายแดนยังมีความหวัง หลังจากพบว่าชายแดนอาฟกานิสถานกับปากีสถาน การค้าเพิ่ม 40% แม้ในเมืองหลวงยังวุ่นวาย
ปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นที่กังวลของทั่วโลก คณะบริหารตาลิบันยืนยันต้องการกำจัดอุตสาหกรรมยาเสพติดเพราะส่งผลให้คนอัฟกันจำนวนกว่า 3 ล้านคนติดยาและขอความช่วยเหลือจากนานาชาติเพื่อช่วยดำเนินการอย่างจริงจัง นั่นคือการประกาศปฏิเสธรายได้มหาศาลจากยาเสพติดซึ่งในระหว่างสงคราม ทั้งกับสหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกา มีผู้เกี่ยวข้องโยงใยถึงสหรัฐ-ตะวันตกอย่างซ่อนเร้นไม่อยู่
โอกาสที่จะเห็นโครงการ BRI (Belt and Rode Initiative)ของจีนในอาฟกานิสถาน และการฟื้นฟูการค้าการลงทุนที่มีแววว่า อาจเป็นทางเลือกที่สมเหตุผลในการหยุดกลียุคในอาฟกานิสถาน ซึ่งส่งผลต่อสหรัฐ-และตะวันตกด้วยโลกเชื่อมโยงกันเป็นหนึ่ง ด้วยเส้นทางนวตกรรมยุคใหม่ เรื่องราวความจริงในอาฟกานิสถานจะไม่ถูกปิดอยู่ภายใต้ควันปืนอีกต่อไป เมื่อเทคโนโลยีล้ำสมัยจะถาโถมลงสู่แผ่นดินที่แห้งผากมายาวนาน ใครก็ขวางไม่อยู่!!
