พิษโควิดเดลต้าทำมะกันอ่วม!?! เข้ารพ.กว่าแสนราย ใกล้จุดสูงสุดรับมือผู้ป่วยล้น

1320

การแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ทำให้การคาดการณ์สถานการณ์ที่เริ่มมองว่าสามารถผ่านไปได้เริ่มเปลี่ยนไป สถิติการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วประเทศทะลุเกิน 100,000 รายในสัปดาห์นี้ นับเป็นครั้งที่สองของสถานการณ์การระบาดใหญ่ตั้งแต่รอบแรก สถานพยาบาลทั้งหลายใกล้ถึงขีดสูงสุดความสามารถในการดูแลผู้ป่วยซึ่งล้นหลามในหลายมลรัฐ ทั้งผู้ป่วยโรคภัยตามปกติและผู้ป่วยโควิดที่เพิ่มขึ้นสูง

วันที่ 29 ส.ค.2564 สำนักข่าววอลสตรีทเจอร์นัลรายงาน การรักษาให้ทันความต้องการในขณะนี้ยากกว่าในช่วงการระบาดโควิด-19ก่อนหน้านี้ ตามที่แพทย์ พยาบาล และผู้บริหารโรงพยาบาลกล่าว ผู้ป่วยโรคอื่น ๆทั่วไป ได้กลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลในปีนี้ ทำให้มีเตียงเปิดน้อยลง เนื่องจากผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น ความต้องการเป็นแบบเฉียบพลันมากที่สุดใน ICUs ซึ่งดูแลผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีความสำคัญและจำเป็นต้องมีบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการฝึกฝนอย่างมาก โรงพยาบาลมีบุคลากรไม่เพียงพอ และไม่สามารถรับสมัครพยาบาลและนักบำบัดโรคระบบทางเดินหายใจได้ทันกับสถานการณ์ ที่มีอยู่ก็เหนื่อยล้าจากการรับมือกับระบาดใหญ่ติดต่อยาวนาน

ฮิวจ์ แทปปัน(Hugh Tappan) ผู้ดูแลโรงพยาบาล11 แห่งของHCA Healthcare Inc. ในฟลอริดา จอร์เจีย และเซาท์แคโรไลนา กล่าวว่าการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยได้รับแรงหนุนจากตัวแปรโควิด-เดลต้าที่แพร่เชื้อได้สูงอย่างรวดเร็ว เขากล่าวว่า “การพุ่งสูงขึ้นนั้นอาจดูเกินจริงแต่คนไข้ปกติก็เข้ามารักษาตัวด้วย” ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา  พวกเขาได้หยุดการผ่าตัดที่อาจล่าช้า โอนรถพยาบาล และหยุดรับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลอื่น เนื่องจากความสามารถรับเคสคนป่วยโควิดที่ลดลง

ตามข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อตอนเช้าวันศุกร์ (27 ส.ค.) ระบุว่า คนไข้ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 101,433 คน ทั้งนี้ จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) พบว่าจำนวนคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวในเดือนที่แล้ว และสัปดาห์ที่แล้ว มีคนไข้โควิด-19 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเฉลี่ยแล้ว 500 คนในแต่ละชั่วโมง

ยอดคนไข้โควิด-19 เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ ของสหรัฐฯ เคยแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในวันที่ 14 มกราคม ครั้งนั้นมีจำนวนคนไข้โควิด-19 ครองเตียงตามโรงพยาบาลต่างๆ 142,000 ราย แต่หลังจากโครงการฉีดวัคซีนขยายวงกว้างมากขึ้นในช่วงต้นปี 2021 จำนวนคนไข้ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลก็ลดลง และแตะระดับต่ำสุดของปี 2021 ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน เหลือเพียงแค่ 16,000 ราย

อย่างไรก็ตาม จำนวนคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันในเดือนกรกฎาคม หลังตัวกลายพันธุ์เดลตากลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐฯ แม้ทางภาคใต้จะเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดระลอกล่าสุด แต่จำนวนคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลกำลังเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ

ฟลอริดา เป็นรัฐที่มีจำนวนคนไข้โควิด-19 รักษาตัวในโรงพยาบาลสูงที่สุด ตามมาด้วยรัฐเทกซัส และรัฐแคลิฟอร์เนีย จากข้อมูลของกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐฯ ขณะที่ในรัฐแอละแบมา รัฐฟลอริดาและรัฐจอร์เจีย ปัจจุบันมีคนไข้ครองเตียงไอซียูแล้วมากกว่า 95%

ตัวกลายพันธุ์เดลตาซึ่งกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในหมู่ประชากรสหรัฐฯ ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนเป็นส่วนใหญ่ ยังทำให้จำนวนเด็กที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกด้วย ปัจจุบันเด็กที่ได้รับการยืนยันหรือต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 ที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล มีมากกว่า 2,000 คน

3 รัฐ ประกอบด้วยแคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา และเทกซัส คิดเป็นสัดส่วน 32% ของคนไข้เด็กทั้งหมดที่ได้รับการยืนยันหรือต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 ที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลในสหรัฐฯ ในภาพรวมของสหรัฐฯ เวลานี้เด็กๆ คิดเป็นราว 2.3% ของผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อระดับสูงของสหรัฐฯ ระบุในสัปดาห์ที่แล้ว ว่า อเมริกาอาจจะสามารถควบคุมโควิด-19 ได้ในช่วงต้นปีหน้า หากยกระดับการฉีดวัคซีน ขณะที่ข้อมูลของซีดีซีพบว่าเวลานี้มีชาวอเมริกันเข้าฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มแล้วราวๆ 61% ของจำนวนประชากร

จากการรายงานของรอยเตอร์ สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วมากกว่า 38.5 ล้านคน และเสียชีวิต 634,000 รายนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว นับว่าสูงที่สุดในโลกทั้งสองกรณี วัคซีนเทพ 3 ชนิดช่วยอะไรไม่ได้มาก และคนมะกันดึงดันทุรังกับเสรีภาพส่วนตัวไม่รับผิดชอบส่วนรวม