Truthforyou

พล.ท.นันทเดชวิเคราะห์ 4 ปมสำคัญทำไมม็อบปลดแอก ปลุกระดม14 ตุลา 63 เทียบไม่ได้ พลังนศ.14 ตุลา 16

จากกรณีที่ นายอานนท์ นำภา โพสต์ข้อความว่า ทั้งนี้ นับจาก 14 ตุลาคม จะเป็นการลงถนนอย่างแท้จริง และไม่มีอะไรต้องห่วงอีกต่อไป ขณะที่ทางด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า 14 ตุลาคม ม็อบแห่ชุมนุมมืดฟ้ามัวดิน

“ผมเคยย้ำมาหลายครั้งว่ารัฐธรรมนูญอาจไม่ได้แก้สักมาตรา หรือถ้ารับแก้เพียงร่างเดียว ก็ไม่ทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ดีขึ้นมา อีกอย่างการตัดสินใจยื้อ แก้รัฐธรรมนูญไปอีก 1 เดือน ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง เมื่อผสมกับตัวรัฐบาลเองยังมีปัญหามากอยู่แล้ว ท้ายที่สุดจะกลายเป็นเงื่อนไขเรียกคนให้ไปบรรจบกันในวันที่ 14 ตุลาคม และอาจออกมาสู่ถนนโดยไม่จำเป็น” นายจตุพร กล่าว

ล่าสุด พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ได้โพสต์แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า ม็อบ 14 ตุลา จะเบิ้ม ๆ จริงหรือไม่ บทนำหน้า 2 ของ ประชาชาติธุรกิจ ฉบับล่าสุดอ้างคำพูดเสกสรรค์ ประเสริฐกุล เกี่ยวกับเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 แล้วสรุปถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันว่า “ฉากจบของผู้นำเผด็จการ และ เครือข่าย ใน
วาระ 4.4 ทศวรรษไกล้มาถึงแล้ว” (ตามข้อความในรูปที่แนบมา)

ผมคิดว่าผู้เขียนคงใส่แว่นตาสีส้ม บ่อยเกินไป จึงมีมุมมองแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่มติชนและนสพ.ในเครือ เป็นดั่งคลังความรู้ของสถานการณ์ต่าง ๆ และต้องมีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ 14 ตุลา 16

ข้อแตกต่างระหว่างเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 กับปัจจุบัน ตุลาปี 2563 มีมากมายนับสิบเรื่อง (คอยอ่านหนังสือ ผ่านฟ้าลืลาศ) จุดจบไม่มีทางท่ีจะเหมือนกันได้ จึงขอยกตัวอย่างมาสัก 3-4 เรื่องครับ เช่น

2516 นศ.เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล มาจากสาเหตุ เพื่อช่วยเพื่อนนักศึกษาด้วยกันเอง ในขณะที่การเรียกร้อง รัฐธรรมนูญเป็นประเด็นรอง และเรื่องไล่รัฐบาลนั้นเกิดขึ้นโดยบังเอิญ

การเคลื่อนไหว ตุลา ปี 16 นั้น นศ.พึ่งพาสถาบันพระมหากษัตริย์ แบบเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ปัจจุบบัน นศ.จ้องล้มล้างสถาบันแบบเบิ้ม ๆ ต่างกันแบบฟ้ากับดิน

16 นักศึกษาไม่มีนักการเมืองสนับสนุน ไม่ต้องจ้างการ์ดมาคุมกัน มีประชาชนและนักศึกษาอาชีวะมาคุ้มกันทั้งประเทศ ส่วนในปัจจุบัน มี นศ.นิดเดียว กะม็อบการเมืองอาวุโสมากกว่าร้อยเท่าตัว และการ์ดเสื้อแดง

ผู้นำ นศ.รุ่น 14 ตุลา ล้วนแต่เป็นคนมีคุณภาพ ดูได้จาก สถานภาพของแต่ละคนปัจจุบันนี้ (ดูให้ดีก่อนว่าคนไหน 14 ตุลา คนไหน 6 ตุลา ) ไม่มีหยาบคาย ไม่มีก้าวร้าวต่อเจ้าหน้าที่ พอเจ้าหน้าที่ ฝ่าย 2 จอมพล 1 พันเอกจะยิง คุณจิรนันท์ พิตปรีชาก็สั่งให้ผู้ชุมนุมร้องเพลง สรรญเสริญพระบารมี ทหาร ตำรวจต้องหยุดยิง จึงไม่มีใครเข้าคุก ไม่เหมือนผู้ชุมนุมรุ่นนี้ ดูจะร้องได้แค่คำว่า”คุกๆๆๆๆ” เท่านั้น

เอาแค่นี้พอรู้ละกันครับ เดียวนี้อ่านอะไรต้องคิดกันมากหน่อย เพราะเรื่องไม่ซับซ้อนอะไร แต่พวกชอบเอาใจนาย(ทุน)มีแยะครับ

Exit mobile version