นัทโผล่รับข้อหา! แจ้งต้องการพบจิตแพทย์ รับตัวเองเริ่มไม่ปกติ

2785

จากที่เป็นเหตุการณ์ถูกโจมตี ตำหนิเป็นอย่างมากกับการที่ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือนัท ออกมาเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มราษฎร ที่ต้องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่พยายามจาบจ้วงอย่างรุนแรง รวมทั้งธนัตถ์ ที่ถึงขนาดว่าแต่งกายล้อเลียนอย่างไม่สมควรยิ่งนั้น!!!

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2564 นายธนัตถ์  ได้โพสต์ข้อความบอกเล่าถึงอาการป่วยของตนเอง หลังจากเคยให้สัมภาษณ์ว่าเป็นโรคซึมเศร้าว่า

“ตอนนี้รู้สึกว่ามีอาการ เกรี้ยวกราด โมโหแรง กับเรื่องโง่ๆที่ไม่ถูกใจ ต้องการหาจิตแพทย์ เรื่อง anger management แล้ว ใครมีความรู้แนะนำได้มั้ยครับ ไม่รู้เพราะเครียดสะสม หรือ bipolar หรืออะไร แต่คิดว่าเริ่มไม่ปกติ

ใครมี จิตแพทย์ ด้านนี้แนะนำ ช่วยส่งให้หน่อยนะครับ ปกติพบแพทย์เรื่อง ซึมเศร้า + สมาธิสั้น (ADHD) อยู่

ปล. ไม่ได้เครียดเรื่องการเมืองนะครับ โดยเฉพาะสลิ่มโจมตี (ทำอะไรกูไม่ได้หรอก) 55”

ล่าสุดวันนี้ 28 สิงหาคม 2564 นายธนัตถ์ ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพ ที่มีผู้ต้องหานั่งอยู่ในห้องขัง โดยมีข้อความที่ระบุถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า

“วันนี้ที่ผมไปรับทราบข้อกล่าวหา ที่สน.ดอนเมือง ขณะที่กำลังพิมพ์ลายนิ้วมือได้เจอกับผู้ต้องหาที่ถูกกักขังในคดียาเสพติด ได้มีโอกาสพูดคุยกันนิดหน่อย

แต่จากข่าวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาคดีค้ายาฯ จนถึงแก่ความตายนั้น ทำให้ผมลอบมองชายหนุ่มตรงหน้าผ่านลูกกรงด้วยใจไม่สู้ดีนัก ทั้งผมและเขาเองไม่อาจทราบเลยว่าหลังจากนี้เขาจะต้องเผชิญหน้ากับอะไรบ้าง…

กฎหมายอาญายึดหลัก “ทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษา” แต่ในขณะเดียวกัน พอเป็นคดีที่เกี่ยวกับยาเสพติด เรามักได้ยินคำว่า จับแพะ, บังคับรับสารภาพ ฯลฯ การขู่เข็ญ คุกคาม และใช้ความรุนแรงโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจดูจะเป็นสิ่งที่คนไทยคุ้นเคยกันไปแล้ว

กระบวนการยุติธรรมที่พิกลพิการตั้งแต่ชั้นสอบสวนแบบนี้ มันผิดตั้งแต่กระดุมเม็ดแรก ผมไม่แปลกใจที่ประชาชนไทยจะกังขาในกระบวนการยุติธรรม

ปัญหายาเสพติดเป็นภัยร้ายแรงสำหรับสังคมในหลายมิติก็จริง แต่วิธีการรับมือปัญหาดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย เราสามารถถอดบทเรียนจากต่างประเทศได้นะครับ

แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้น เราอาจต้องกลับมาพิจารณาการใช้โทษจำคุกก่อน ผมไม่เห็นว่าการบังคับใช้โทษจำคุกอย่างพร่ำเพื่อจะก่อผลดีแก่ใคร ไม่ว่าผู้กระทำความผิด, สังคม, ประเทศชาติ การผลักประชาชนเข้าเรือนจำ นอกจากจะเพิ่มความพะรุงพะรังให้งบประมาณจากภาษีของประชาชนแล้ว อาจเป็นการถีบผู้หลงผิดให้หันเข้าสู่เส้นทางไม่สุจริตตลอดไปเลยก็ได้ คนที่เคยเข้าคุกครั้งหนึ่ง จะถูกตราหน้าเป็น “ไอขี้คุก” ตลอดไป แล้วพวกเขาเหล่านี้ก็ไม่อาจกลับไปหาอาชีพที่สุจริตทำได้อีก เพราะสังคมไม่ยอมรับ ไม่ให้อภัย

ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าแบบนี้กระบวนการยุติธรรมไทยกำลังพยายามแก้ไขปัญหายาเสพติด หรือกำลังพยายามจะผลักประชาชนให้หันไปสู่กระบวนการค้ายาฯ ซึ่งจะต้องวนลูปกลับมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขู่เข็ญ คุกคาม วนเวียนแบบนี้ต่อไป เพราะมีใครได้ประโยชน์จากวงจรอุบาทว์นี้รึเปล่า

ท้ายที่สุด เค้าได้ให้กำลังใจผมและพวกเราทุกคนในการต่อสู้ เค้าหวังว่า วันที่เค้าออกมา จะได้พบกับสังคมประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ ที่ประชาชนเป็นใหญ่ และหวังว่าสังคมจะให้อภัยเค้า ไม่แน่ เค้าอาจจะออกมาแล้วได้กลับมาเป็น รัฐมนตรี”

อย่างไรก็ตามทีมข่าวเดอะทรูธ จึงตรวจสอบถึงอาการป่วย ที่นายธนัตถ์ ระบุว่ามีความเป็นมาอย่างไร เกี่ยวกับอะไร ก็พบว่า

Anger Management ก็คือ การจัดการความโกรธหรือควบคุมโทสะ คือแสดงความฉุนเฉียว พุ่งความร้อนออกมาภายนอกเกือบตลอดเวลา ตามการเปลี่ยนแปลงที่มาเร้า หรือ โมโหจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

ขณะที่โรคไบโพลาร์ (bipolar)  หรือ โรคไบโพลาร์ (bipolar disorder) หรือโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว เป็นโรคที่มีความผิดปกติทางอารมณ์สองแบบเปลี่ยนแปลงไปมาสลับกัน คือ อารมณ์ดีหรือก้าวร้าวผิดปกติ