เปิดคลิป”นัท” รับแต่งกายเหมือนในหลวงร.9 !ย้อนแย้ง อยากให้ขำเล่น ไม่ได้ล้อเลียน?
จากกรณีที่นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา จนดวงตาข้างขวาบอดสนิท ปรากฎตัวเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มทะลุฟ้า โดยแต่งกายใส่สูท สะพายกล้อง ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก
ต่อมา นายธนัตถ์ ก็ได้โพสต์ถึงกรณีเข้าร่วมการชุมนุมและได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการแต่งกายเข้าร่วมม็อบว่า ความตลกคือ: สรุปว่า กู ตั้งใจไปทำตัวเองตาบอด เพื่อที่จะใส่สูท ถือกล้อง ล้อเลียน..? คือทำไม การใส่สูท ที่เป็นเครื่องแต่งกายปกติ ตามรสนิยม แต่ละคน + ถือกล้อง ที่มีไว้ถ่ายรูป ถึง = ล้อเลียน? มึงบ้าปะ? ชอบใส่สูทแล้วอยากจะถ่ายรูปพร้อมกันไม่ได้ งี้หรอ?
ต่อมาทางด้าน นางทยา ทีปสุวรรณ ภรรยา นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกมาโพสต์ข้อความว่า เต้นเลยจ้าาา…ออกมาแถ แก้ตัวเป็นพัลวัน กล้าทำ ไม่กล้ารับ…โถ่ นึกว่าแน่ ที่แท้ก้ออีแอบ แถวบ้านเรียก “โจรกระจอก” พอเจอจัดเต็ม feed เลยถึงกับอึ้ง ไปไม่เป็น!! ไปเรียนให้จบก่อนดีกว่าไอ้น้อง เขียนป้ายภาษาไทยยังไม่ถูก ใส่สูท แต่ ไม่มีงานทำ เงินซื้อกล้อง ก้อคงขอพ่อแม่มา…ว่าไปแล้วก้อน่าสมเพชนะ!! อ้อ อย่าลืมทานยาตามจิตแพทย์สั่งด้วยนะ เดี๋ยวอาการกำเริบอีก!!
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (26 สิงหาคม 2564) ได้มีการเปิดเผยคลิปเสียง โดยระบุว่า เป็นเสียงของนายธนัตถ์ ถึงกรณีการแต่งตัวล้อเลียนในหลวง ร.๙ โดยรายละเอียดการสนทนา นายธนัตถ์ อ้างว่า ตนเองไม่ได้มีเจตนา แต่คึกคะนองไปหน่อย เพราะแค่จะเล่นสนุก ให้คนขำเล่น ให้บันเทิง ไม่ได้ต้องการเยาะเย้ยในหลวง ร.๙ แค่แต่งตัวเหมือน ไม่เคยคิดว่าอยากจะให้มองว่าเป็นการล้อเลียน หรือ หมิ่นเกียรติท่าน อีกทั้งตนเองก็ได้ตัดสูทหลายตัวตามท่าน เพราะแฟชั่นท่านสวยดี ซึ่งการสะพายกล้องไป ตนก็รู้ว่าจะใช้ข้ออ้างว่าจะใช้กล้องไปถ่าย และตนรู้อยู่แล้วว่าจะถูกมองแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้รู้สึกภูมิใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่คงไม่สามารถออกสื่อได้ว่า ตนเองเสียใจ เพราะทำไปแล้ว ซึ่งก็ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น และหากใครมาฟ้องเอาผิดมาตรา 112 ก็ต้องสู้คดี
สะพายกล้อง ผมไม่ได้ภูมิใจกับตัวเองนะที่ข่าวเขาเอาไปเล่นกันขนาดนั้น คือ ด้วยเจตนานะ นี่ผมพูดกับท่านแมนๆ นะ ผมพูดตรงๆ คือ คึกคะนองไปหน่อย กะว่าแค่เล่นสนุก เพราะว่าผมเอง ต้องบอกอย่างงี้สูททุกตัว สูทหลายตัวมากที่ผมตัด ผมก็ตัดตามท่าน ตามเซนต์ของแฟชั่น เพราะว่าแฟชั่นท่านก็สวย ดี เท่ ผมก็ชอบ ผมเอามาใส่สะพายกล้องไป ผมก็รู้ โอเค ผมรู้แล้วละ เดียวผมก็ใช้ข้ออ้างว่าเอารูปไปถ่าย แต่ผู้ก็รู้อยู่แล้วว่าทุกคนคงมอง เฮ้ย แต่งตัวเป็นแบบนี้ คอสเพลย์ หรือคำว่าล้อเลียน มันเกินเลยความตั้งใจของผมไปเยอะมาก ผมแค่อยากจะให้มันมีความแบบให้คนขำเล่น ขำเล่นไม่ใช่เยาะเย้ยท่านนะ ขำเล่นเนี่ยคือแค่แบบ ให้มันเป็นแบบบันเทิงอะ ผมแค่แต่งตัวเหมือน แต่ผมไม่เคยคิดอยากจะให้ถูกมองว่าเป็นการล้อเลียน เป็นการดูหมิ่น หมิ่นเกียรติท่าน หรือว่าเป็นการ เขาเรียกว่าอะไร เป็นการหมิ่น
ผมไม่ได้ชอบเลย แล้วก็พอคนเอาไปเล่นกันสะใจแบบนั้น ผมไม่ได้ภูมิใจที่มันเกิดขึ้นนะ แล้วพูดกับท่านตรงๆ นะ ผมไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น แต่ผมคงไม่สามารถมาออกสื่อว่าผมเสียใจได้นะ เพราะทำไปแล้ว เราก็ต้องยอมรับ แล้วก็ยอมรับกับผลที่เกิดขึ้น ถ้าใครมาฟ้อง 112 ผม ผมก็ต้องสู้ต่อไป ผมก็ต้องสู้คดีไปตรงนั้น มันก็แค่แต่งตัว แต่ว่าพูดกับท่านตรงๆ คือ ผมอยากให้ท่านเข้าใจผม ผมอยากรู้จักสนิทกับท่าน อยากให้ท่านรู้จักกับผม ว่าผมทำตรงนี้ ทำเพื่ออะไร และผมก็เชื่อว่าพวกเราทุกคนก็ทำเพื่อประชาชนเหมือนกัน