แฉ ขบวนการปลดแอก ถูกพรรคการเมืองเทคโอเว่อร์?? พบขนคนจากโรงงาน-ตจว.ร่วมม็อบกว่า 5 พันคน!?!
จากกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 64 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. แถลงสรุปผลการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกและภาคีเครือข่าย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิงอีก 1 คน พร้อมด้วยรถกระบะนาวาร่า สีชมพู ที่ปรากฏตามภาพมีการมาร่วมชุมนุม และรถกระบะคันนี้เป็นรถรับจ้างนำส่งคนมาร่วมชุมนุม เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากบุคคลหนึ่ง เพื่อจะขนคนมายังที่ชุมนุม อัตราค่าจ้างครั้งละประมาณ 1,200 บาท โดยรับจ้างขนคนมาส่งที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และรอรับกลับ ขากลับจึงถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทำการจับกุมและควบคุมตัว
หากย้อนไปเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 ที่มีการประชุมวุฒิสภา โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในการประชุม ในช่วงหารือนั้น นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา หารือว่า ตนหนักใจเมื่อทราบข่าวว่าม็อบประชาชนปลดแอกมีพรรคการเมืองเทคโอเวอร์ เพราะมีมวลชนจำนวนมากเข้าร่วมเวที การข่าวระบุว่าการชุมนุมมี ส.ส.คนหนึ่งนำประชาชนมาจากย่านสายไหม มีนบุรี และบางซื่อ เข้าร่วมชุมนุม พร้อมสนับสนุนรถห้องน้ำติดเครื่องปรับอากาศ 4 คัน รถน้ำและเครื่องดื่มแบบบาร์พร้อมเวทีแสง สี เสียง
ขณะที่อีกพรรคการเมืองหนึ่งนำคนจากโรงงานจำนวน 2,000 คนร่วมชุมุนุม โดยสารมากับรถบัส และส่งที่โรงแรมรัตนโกสินทร์และเสาชิงช้า รวมทั้งนำชาวบ้านจากวัดย่านมีนบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี จำนวน 3,000 คนเข้าร่วม นอกจากนี้ยังพบการทะเลาะกันของการ์ดและชายชุดดำ ดังนั้นขอให้รัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการกับผู้ที่ละเมิดกฎหมายด้วย
นายสมชาย กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดเวทีที่รัฐบาลมอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการนั้น ขอให้พิจารณาจัดเวทีโดยมีตัวแทนจากอธิการบดีของสถาบันการศึกษา ตัวแทนประธานนิสิต นักศึกษา ประมาณ 400 คน ที่ห้องประชุมสุริยัน รัฐสภา โดยประชุมร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ นายพรเพชร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย กรรมาธิการของสภา และกรรมาธิการของวุฒิสภา เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกับกลุ่มเยาวชน โดยตั้งโจทย์ อาทิ แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราใด การแก้ไขปัญหาความยากจน คอร์รัปชั่น ยาเสพติด ความเหลื่อมล้ำ และการคุกคามสิทธิเสรีภาพนั้นจะทำอย่างไร รวมถึงข้อเสนอให้ยุบสภาฯ จะเดินต่อไปอย่างไร
ผู้ใหญ่ควรแลกเปลี่ยนสิ่งที่เป็นปัญหากับเด็ก และให้เด็กคิด อย่ากังวลว่าจะครอบงำ ขณะนี้ครู ผู้ปกครอง ปรับตัวไม่ทัน ผมมองว่าการชู3นิ้วระหว่างร้องเพลงชาตินั้นไม่เหมาะสม เพราะการเข้าแถวคือการสร้างวินัย ส่วนการผูกโบว์สีขาวนั้นทำได้ การแก้ปัญหากับครูที่ชินกับการสอนแบบเก่านั้น ต้องหารือร่วมกัน โดย สพฐ.เชิญตัวแทนครูหารือร่วมกันต่อการใช้สิทธิเสรีภาพและการสื่อสารภายใต้กฎเกณฑ์ ซึ่งการเคลื่อนไหวของเยาวชนนั้นมีความพยายามทำให้เป็นเหมือนกับการชุมนุมที่ฮ่องกง และตนเป็นห่วงการชุมนุมว่าอาจจะเป็นจุดแพร่เชื้อโควิด-19ได้” นายสมชาย กล่าว