สืบเนื่องจากกรณีการชุมนุมวันที่ 7 ส.ค. 64 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุชุลมุน มีการปะทะเดือดระหว่างกลุ่มมวลชนและเจ้าหน้าที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ แม้จะมีการประกาศให้มวลชนแยกย้ายกลับบ้าน ในเวลา 17.40 น.
แต่หลังจากการประกาศยุติชุมนุม ถือว่าเป็นการเริ่มต้นการปะทะเดือด เพราะยังพบผู้ชุมนุมบางส่วนอารมณ์ค้าง ไม่ยอมเดินทางกลับ และไปรวมตัวกันอยู่ที่ตัวอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อีกทั้งยังพบว่าเกิดเหตุเผารถควบคุมผู้ต้องหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดอยู่บริเวณถนนพญาไทขาเข้าด้วย
ต่อมาในโลกโซเชียล ได้มีการแชร์ภาพที่กลุ่มมวลชนในม็อบ นำสีสเปรย์ไปพ่นใส่แผ่นรายชื่อของเหล่าทหารกล้า ที่เคยร่วมรบและได้รับการสดุดีรายชื่อ มาประทับไว้ยังบริเวณรอบตัวอนุสาวรีย์ โดยพ่นเป็นข้อความถ้อยคำหยายคาย และทำลายทรัพย์สินในพื้นที่ด้วย จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าม็อบเริ่มผิดจุดประสงค์ของการออกมาเรียกร้อง , เราสนับสนุนม็อบในการเรียกร้องสิทธิมาตลอด แต่หลังมาเริ่มคุมกรอบตัวเองไม่อยู่ เละเทะบานปลายหมดแล้ว บางอันก็ทำแค่สะใจ ทำให้ภาพชุมนุมอย่างสันติตอนแรก กลายเป็นรุนแรงมากขึ้น ทั้งที่ก็รู้ว่าเขาต้องการให้เราหลุดเขาไปในความโกลาหล จะได้ใช้ความรุนแรงเพิ่ม ไปเปิดทางให้เขามีข้ออ้างมากขึ้น อีกคนที่อยากร่วมชุมนุมตอนแรกหลายคนก็เริ่มไม่อยากไปเริ่มก็เพราะแบบนี้
และล่าสุดในเพจเฟซบุ๊กของกองทัพบก SMART Soldiers Strong ARMY ได้โพสต์ข้อความถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ระบุว่า “โพสต์นี้ ฝากไปถึงมือพ่นสีที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อวาน นี่คือการแสดงออกถึงอะไร รายชื่อทหาร ตำรวจ พลเรือน ที่สละชีพเพื่อชาติเมื่อครั้งสงครามในอดีต ทั้งสงครามอินโดจีน, สงครามมหาเอเชียบูรพา และสงครามเกาหลี เพื่อปกป้องรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิของชาติไทย ที่ถูกจารึกไว้เพื่อให้ครอบครัว ลูกหลานและทายาทของพวกเขา รวมไปถึงอนุชนคนรุ่นหลังได้มารำลึกและสดุดีในวีรกรรมกล้าหาญเป็นประจำทุกปี ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับเหตุการณ์ปัจจุบัน กลับต้องมาถูกกระทำแบบนี้ ภูมิใจมากไหมกับสิ่งที่ทำลงไป”
นอกจากนี้ในเพจเฟซบุ๊ก ปราชญ์ สามสี ยังได้แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ ระบุด้วยว่า “เหมือนม็อบจะพลาด เพราะทหารเขาไม่โอเคนะครับ”