เงียบผิดสังเกต!? ธนาธร เผ่นแล้วหรือยังอยู่? หลัง”ปิยบุตร”ส่งสัญญาณ ปลุกม็อบบุกวัง! แฉ หาช่องทางออกนอกประเทศ!?
จากกรณีที่กลุ่มเยาวชนปลดแอก ได้ประกาศนัดหมายชุมนุมในวันที่ 7 สิงหานี้ เวลา 14:00 น. โดยจะเริ่มจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เคลื่อนพลไปพระบรมมหาราชวัง ซึ่งทางปิยบุตรได้ออกมาพูดถึงประเด็นของการยกระดับในการปฏิรูปสถาบัน โดยบอกว่า ปฏิรูปแบบปฏิวัติ ไต่เพดานให้มากที่สุด เท่าที่เป็นไปได้ภายใต้ระบอบที่เป็นอยู่ พร้อมกับยืนยัน ยกระดับให้ข้อเสนอนี้เป็นข้อเสนอขั้นต่ำที่เราจะไม่ถอยไปมากกว่านี้ หากข้อเสนอนี้ไม่ได้รับการสนองตอบ สถานการณ์จะสุกงอมจนลื่นไถลให้ปฏิรูปกลายเป็นปฏิวัติ นี่คือ ปฏิรูปแบบปฏิวัติ
ในขณะที่ทางด้านของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆกับเรื่องนี้ ซึ่งทางทีมข่าวเดอะทรูธได้ตั้งข้อสังเกตว่า การเคลื่อนไหวของธนาธร เงียบผิดสังเกต?
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรการวิเคราะห์ธุรกิจและวิทยาการข้อมูลคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กถึงบุคคลหนึ่ง ขณะที่บุคคลหนึ่งได้เดินทางออกนอกไปประเทศไปแล้ว ทั้งนี้ ดร.อานนท์ ได้เปิดเผยข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กว่าจะมีคนโดนคดีเตรียมหนีไปสหรัฐอเมริกาว่า “เตรียมหนีคดี ฝากลูกกับเมียไว้กับญาติเมียที่เชียงใหม่ ไอ้ตี๋คนหนึ่ง ไปเชียงใหม่บ่อยๆ เพราะได้เมียเป็นคนเชียงใหม่ ไอ้ตี๋คนนี้มันมีเป้าหมายในชีวิตสูงสุดอย่างเดียวคือล้มเจ้าให้ได้ ต้องการเปลี่ยนไปเป็นสาธารณรัฐ ไอ้ตี๋คนนี้ได้เมียสวยและฉลาด แต่ญาติทางเมียกลับเป็นคนรักเจ้ากันแทบทั้งหมด ไอ้ตี๋ค่อนข้างเป็นแกะดำในสายตาครอบครัวและญาติทางเมีย ไอ้ตี๋มีคดีเป็นหางว่าว พี่น้องกระทั่งแม่ไอ้ตี๋ก็มีคดีโกงที่ดิน บุกรุกป่าไม้ กันเยอะแยะเต็มไปหมด คดีที่ศาลหนึ่งตัดสินว่าผิดแล้ว กำลังจะไปตัดสินอีกศาลหนึ่งของไอ้ตี๋ก็มีอยู่ คงต้องรอดูกันต่อไป
หลายเดือนก่อน พ่อตาไอ้ตี๋เสียชีวิต ไอ้ตี๋ได้ใจญาติพี่น้องเมียมาก ฉวยโอกาสไปแบกโลงพ่อตาขึ้นบนบ่าเวียนรอบเมรุก่อนเผา ในระหว่างงานศพ ไอ้ตี๋ คงคิดว่าฝากลูกเมีย กับญาติทางเมียได้ เลยมีการสั่งเสียและฝากลูกเมียไว้ เพราะตัวเองอาจจะต้องหนีคดีไปสหรัฐอเมริกา เพราะมีสายสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐอเมริกาและมีธุรกิจที่โน่นด้วย การขอเข้าไปอยู่อเมริกาทำได้ง่ายดาย
ต่อมา ดร.อานนท์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยต่ออีกด้วยว่า “ไอ้ตี๋” หรือที่เราก็รู้ว่าหมายถึง “ธนาธร” เตรียมจะบินออกนอกประเทศ ตามปิยบุตร ไป โดยมีระบุว่า ไอ้ตี๋จะไปไหน จะไปทำอะไร ไปดูไบ ไปเจนีวา ด้วย
ขาไป EK385 18/08/2021
BKK – DUBAI-JENEVA
ออกจาก BKK เวลา 23.45
ขากลับ EK378 21/9/2021
DUBAI-PHUKET เวลา 12.30
ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้านหรือไม่?
ซึ่งน่าเป็นที่สังเกตว่า เหตุใดทางด้านของ “ธนาธร” มีเที่ยวบินเจาะจง “ดูไบ” ซึ่งก็รู้กันดีว่า ทักษิณ ได้หนีคดี และ มีบ้านอาศัยอยู่ที่นั่น การเดินทางครั้งนี้ เลยเป็นที่น่าสงสัยว่า ธนาธร กำลังที่จะไปพบใครเป็นพิเศษหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม ทางทีมข่าวเดอะทรูธ ได้ตั้งข้อสังเกต ว่า ยิ่งเข้าใกล้วันแตกหัก 7 ส.ค.64 สัญญาณก็เริ่มชัดมากขึ้น
เมื่อวันที่ 3 ส.ค.64 ที่ผ่านมา อานนท์ ได้นำม็อบ ปราศัยที่บริเวณหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ แม้ว่าคนจะมีไม่มาก แต่คำปราศรัยสุดหยาบเกินจะรับไหว แถมยังทิ้งท้ายส่งสัญญาณชัด “ให้ทุกคนปลดแอกแล้วเอาไปเผาทิ้งที่กำแพงวัง” ตอกย้ำว่าจะเกิดความรุนแรงอย่างแน่นอน
อีกสัญญาณที่น่าสนใจ คือตัวแปรสำคัญอย่าง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่เรียกได้ว่าหลังจากมีข่าวหลุดจากฝ่ายความมั่นคงว่า เตรียมบินตรงไปดูไบ ในวันที่ 18 ส.ค.64 โดยใช้สายการบิน EK385 ซึ่งเป็นสายการบินประจำชาติของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
โดยสายการบินนี้ เป็นเที่ยวบินที่มุ่งหน้าไป “ดูไบ” โดยออกจากกรุงเทพในเวลา 23.45 น. และบินกลับ ในวันที่ 21 ก.ย.64 โดยใช้สายการบิน EK378 โดยตีตั๋วจาก “ดูไบ” มา “ภูเก็ต” แต่สุดท้ายก็ต้องยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าวในภายหลัง จากที่ได้มีการเปิดเผยไปก่อนหน้านี้ ยิ่งตอกย้ำความชัดเจนว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความจริง เพราะ ธนาธร ไม่ขยับออกมาแก้ข่าว หรือแก้ต่างแต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ธนาธร กำลังเตรียมการเดินทางไปดูไบอยู่ ซึ่งกำลังหาช่อง และโอกาส
จะขยับอะไรผลีผลามไม่ได้ เพราะรู้ตัวว่าถูกจับจ้องจากฝ่ายความมั่นคง แต่ความเงียบผิดปกติ ของ ธนาธร ก่อนที่จะถึงการชุมนุม 7 ส.ค.64 ก็คือสัญญาณที่สำคัญ เพราะทุกครั้งก่อนจะมีการชุมนุม มักจะเคลื่อนไหวควบคู่ไปกับ ปิยบุตร อยู่ตลอดเวลา
หากสังเกตความเงียบครั้งนี้ จะคล้ายกับ การชุมนุม วันที่ 8 พ.ย.63 ซึ่ง ธนาธร ไม่เคลื่อนไหวบนโลกโซเชียล ก่อนจะแอบเข้าไปร่วมชุมนุม โดยอ้างว่าแค่มาให้กำลังใจ ซึ่งเป็นวันที่ม็อบมีการใช้ระเบิดป่วนครั้งแรก และเป็นครั้งเดียวที่สามารถเข้าใกล้สำนักพระราชวังมากที่สุด โดยมีเซอร์ไพรส์ คือ ตู้ไปรษณีย์ ซึ่งอัดแน่นด้วยข้อความโจมตีสถาบันฯ
สะท้อนให้เห็นว่าความเงียบของ ธนาธร ในครั้งนี้ก็คงไม่ต่างจากครั้งที่แล้ว บ่งบอกถึงความระมัดระวังตัวของ ธนาธร เพื่อไม่ให้เข้าเกณความผิดตามกฎหมาย หากการชุมนุมมีการยกระดับความรุนแรง แสดงให้เห็นชัดว่า การชุมนุมใหญ่ที่ใกล้จะถึงนี้กำลังจะเกิดเหตุใหญ่ใช่หรือไม่ นับตั้งแต่นาทีนี้ก็ต้องจับตาดู ธนาธร ที่ยังคงอยู่ในประเทศ ขณะที่ ปิยบุตร อยู่นอกประเทศ ถึงขนาดชื่นชม อานนท์ จนน้ำตาไหล เมื่อฟังปราศรัย ว่า “หากปฏิรูปสำเร็จแล้ว จะมีสถาบันฯหรือไม่ก็ได้” ชัดเจนมากว่าขบวนการนี้ต้องการอะไร
ในขณะที่ทางด้าน นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ก็ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวว่า