ผู้นำสิงคโปร์แสดงวิสัยทัศน์กล่าวในเวทีการประชุมทางไกลด้านความมั่นคง แอสเพน ซีเคียวริตี ฟอรัม ซึ่งจัดโดยสถาบันแอสเพน ว่าสหรัฐอเมริกาได้เปลี่ยนรูปแบบปฏิสัมพันธ์กับจีน จากการแข่งขันกันด้วยดีไปสู่แนวทางใหม่ภายใต้มุมมองที่ดุดันแข็งกร้าวว่าสหรัฐจะต้องชนะ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และเตือนว่าการท้าทายอย่างดุดันของสหรัฐในภูมิภาคนี้ เป็นเรื่องที่อันตรายมาก และจะเป็นหายนะต่อทั้งสองฝ่ายและต่อโลก หากจีนและสหรัฐปะทะกัน
เมื่อวันที่ 3 ส.ค.สำนักข่าวเอเอฟพีและสเตรทไทมส์รายงานว่า นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง แห่งสิงคโปร์(Lee Hsien Loong) กล่าวต่อที่ประชุมแอสเพน(the virtual Aspen Security Forum on 3 August 2021)ว่า สหรัฐได้เปลี่ยนจากการใช้แนวทางการแข่งขันที่ดีกับจีนไปสู่มุมมองที่ว่า อเมริกาต้องชนะ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และขณะนี้มีความเห็นพ้องกันในสองพรรคการเมืองใหญ่ของสหรัฐอย่างชัดเจน เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับจีน แต่จุดยืนที่ตรงกันของพวกเขาก็คือ ใช้แนวทางแข็งกร้าวเป็นศัตรู ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าเป็นความเห็นพ้องที่ถูกต้องหรือไม่
“ผมไม่รู้ว่าพวกอเมริกันตระหนักหรือไม่ว่า พวกเขาจะต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามขนาดไหน หากพวกเขาตัดสินใจว่าจีนเป็นศัตรู” นายกฯ ลีแสดงทัศนะ “ในสถานการณ์นี้ ผมอยากบอกกับทั้งสองฝ่ายว่า หยุด แล้วคิดให้รอบคอบ ก่อนที่จะพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว มันอันตรายมากกับทั้งคู่และทุกฝ่าย”
นายกฯ ลีกล่าวเตือนว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่สหรัฐและจีนต้องพยายามให้หนักในการเสริมสร้างความสัมพันธุ์ซึ่งกันและกันเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ ซึ่งจะเป็นหายนะต่อทั้งสองฝ่าย และต่อโลก เขาชี้ว่า ทัศนะที่แข็งกร้าวเป็นศัตรูของรัฐบาลสหรัฐที่มีต่อจีน กำลังทำให้จีนเชื่อว่า สหรัฐไม่น่าไว้วางใจและต้องการสกัดกั้นการเจริญเติบโตขึ้นของจีนอย่างเด่นชัด
อย่างไรก็ตาม ลีสนับสนุนที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กลับมาใช้นโยบายต่างประเทศตามแบบแผนมากขึ้น หลังจากความยุ่งเหยิงในสมัยของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยบอกว่าประเทศต่างๆ ต้องการความคงเส้นคงวาทางยุทธศาสตร์ระยะยาวจากสหรัฐ และนโยบายที่เชื่อถือได้และคาดเดาได้
ผู้นำสิงคโปร์เตือนประเด็นไต้หวันด้วย โดยมองว่าจีนคงไม่ได้ต้องการเคลื่อนไหวฝ่ายเดียว ในทำนองการรุกรานไต้หวัน แต่ตัวเขาเชื่อว่ายังมีอันตรายจากการคิดคำนวณที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ของสหรัฐในการเล่นเกมอันตรายนี้
ผู้นำสิงคโปร์ยังวิพากษ์วิจารณ์ท่าทีแข็งกร้าวของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในการประชุมทวิภาคีระดับสูงครั้งแรกกับจีนในเมืองแองเคอเรจ รัฐอะแลสกาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยชี้ให้เห็นว่า “ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถทิ้งอีกฝ่ายหนึ่งลงได้”
ลีกล่าว และย้ำในตอนท้ายว่า เวลานี้ทุกคนต่างอยู่ในช่วงเวลาที่ค่อนข้างยากลำบากไม่มากก็น้อย ต้องรับมือกับการระบาดใหญ่ไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่รู้ว่าจะจบสิ้นเมื่อไหร่