เปลี่ยนจากผู้รับ เป็นผู้ให้! พระมหาพร้อมพงษ์ ตั้งกลุ่ม “พระไม่ทิ้งโยม” สวมชุด PPE ทับจีวร ลงพื้นที่ตรวจโควิด ดูแลผู้ป่วย เปลี่ยนวัดเป็นศูนย์พักคอย!
จากกรณีที่วัดสุทธิวรารามได้เปลี่ยนพื้นที่บางส่วนเป็นศูนย์พักคอยและรักษาผู้ป่วยโควิด (สีเขียว) ตลอดจนเผาเมื่อเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด โดยมีการเปิดโรงครัว ทำอาหารมอบให้แก่ผู้ป่วยโควิดที่พักอาศัยอยู่ในศูนย์พักคอยวัดสุทธิวราราม และผู้ป่วยที่กักตัวอยู่ที่บ้าน รวมทั้งแจกอาหารและยากับผู้คนในชุมชนที่ล้วนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด โดยทางเฟซบุ๊กของวัดสุทธิวรารามได้โพสต์ข้อความระบุว่า
เปลี่ยนจากเส้นทางผู้รับ (บิณฑบาต) เป็นเส้นทางผู้ให้
#พระเดชพระคุณพระสุธีรัตนบัณฑิต,รศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม มอบหมายให้ พระมหาพร้อมพงศ์ ปภสฺสรจิตฺโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม พร้อมด้วย #ทีมงานพระไม่ทิ้งโยม #วัดสุทธิวราราม นำอาหาร น้ำดื่ม และยาเวชภัณฑ์ ที่มีผู้ใจบุญนำมาร่วมทำบุญบริจาค ไปแจกให้กับญาติโยมหลังวัดสุทธิวราราม ซึ่งถ้าในสถานการณ์ปกติ จะเป็นเส้นทางที่พระภิกษุ สามเณร วัดสุทธิวราราม ออกรับบิณฑบาตจากญาติโยมเป็นประจำทุกวัน
แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โรคระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) จึงทำให้วิถีชีวิตของญาติโยมเปลี่ยนไป บางครอบครัวตกงาน บางครอบครัวติดเชื้อโควิด บางครอบครัวค้าขายไม่ได้ และหลากหลายปัญหา จึงทำให้คณะสงฆ์วัดสุทธิวราราม ไม่นิ่งดูดาย ตอบแทนบุญคุณข้าวน้ำอาหาร ที่ญาติโยมคอยใส่บาตรให้เป็นประจำ ดั่งคำที่ว่า “เมื่อยามสถานการณ์ปกติญาติโยมไม่เคยทอดทิ้งพระ แล้วยามที่ญาติโยมเดือดร้อนจะให้พระทิ้งโยมได้อย่างไร” ขออนุโมทนา
นอกจากนี้ ยังปรากฎภาพที่ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ เป็นภาพ พระสวมชุด PPE ทับจีวร และใส่หน้ากาก ลงพื้นที่ในชุมชนเพื่อ Swab ตรวจหาเชื้อโควิดแบบ Rapid Antigen Test ให้กับกลุ่มเสี่ยง พร้อมเยี่ยมบ้านให้กำลังใจผู้ติดเชื้อ Home Isolation แม้ในชุมชนบ้านครัวเหนือ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม เพราะความเป็นความตายไม่มีการแบ่งแยกชนชั้น วรรณะ ศาสนา เมื่อโรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้วยความเป็นมนุษย์
โดยพระมหาพร้อมพงศ์ เล่าว่า ยังมีคนติดเชื้อโควิดในชุมชนอีกมากที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการของรัฐ
“ตอนอาตมาเจอกลุ่มแรงงานต่างด้าว แถวองค์การสะพานปลา เราช่วยกันใช้ชุดตรวจ Rapid Test คัดกรองผู้ติดโควิดจาก 50 คนมีผู้ติดเชื้อ 29 คน ตอนนั้นพวกเขาไม่สามารถเข้าระบบได้ เราก็คุยกับเจ้าของว่า มีสถานที่กักตัวให้ไหม เรานำอาหาร และยาเข้าไปช่วย บางครั้งก็มีบุคลากรทางการแพทย์ไปด้วย ถ้าเจอเคสอาการหนักๆ จะประสานไปที่แพทย์”
เมื่อเห็นสภาพความเป็นอยู่ พระมหาพร้อมพงศ์ เล่าว่า “บ้านพักอาศัยส่วนใหญ่ทั้งแคบและเล็ก บางบ้านมีพื้นที่แค่ 15 ตารางเมตร อยู่รวมกันหลายคน จึงไม่แปลกที่ติดเชื้อยกครอบครัว และส่วนใหญ่ไม่มีความรู้ในการดูแลตัวเอง เราพยายามแยกผู้ป่วยโควิดสีเขียวออกจากครอบครัวและชุมชน เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อ พยายามให้กักตัวที่บ้านหรือศูนย์พักคอยที่วัดจัดไว้ มีแพทย์อาสาดูแลเป็นช่วงๆ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ”
ทั้งนี้ ยังรวบรวมทีมอาสามาช่วยทำโครงการ พระไม่ทิ้งโยม ทางวัดสุทธิวราราม ได้ทำศูนย์พักคอยไว้ 122 เตียง ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2564 มีพยาบาล และทีมงานช่วยกันดูแล