ในวันอาทิตย์ที่ 1 ส.ค.2564 ที่เยอรมนี นครเบอร์ลินได้เห็นฉากที่โกลาหลและการทะเลาะวิวาทอย่างรุนแรง ระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจปราบจลาจล ที่พยายามสลายม็อบต่อต้านการปิดเมืองที่ทางการสั่งห้ามอย่างแข็งขัน หลังจากประชาชนหลายพันคนออกมาเดินบนถนนในเมืองหลวงของเยอรมนี ทั้งนี้การประท้วงติดต่อกันยืดเยื้อมากว่า 2 สัปดาห์แล้วบางวันมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 2.2 หมื่นคน
ความสงสัยเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรน่า ทำให้เกิดการรวมตัวกันในใจกลางเมืองหลวงของเยอรมนี แม้ว่าทางการเยอรมนีจะสั่งห้ามการประท้วงมากถึง 16 ครั้ง
กลุ่มผู้ประท้วงที่ไม่ได้รับอนุญาตกลายเป็นความรุนแรงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ตำรวจสวมชุดปราบจลาจลเต็มรูปแบบพยายามปิดกั้นฝูงชนไม่ให้เดินไปตามถนนในเมืองผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ไม่สวมหน้ากากอนามัยและไม่สนใจกฎการเว้นระยะห่างทางสังคมที่ยังคงมีอยู่ในเยอรมนี โฆษกตำรวจอ้างข้อมูลเบื้องต้นว่ามีผู้ถูกจับกุมราว 600 คนในวันนั้น
Punching little children. German police #Berlin pic.twitter.com/4EN9uBCDHH
— ㋡Ｘ𝓡ᵖ𝔞𝐮Ĺ_ⓓ.𝒸.💯🚀 (@matrix_explorer) August 1, 2021
การเคลื่อนไหวต่อต้านการล็อกดาวน์และต่อต้านการฉีดวัคซีนต่างๆ เรียกกันทั่วไปว่ากลุ่ม ‘นักคิดด้านข้าง’ (‘querdenken’) ในเยอรมนี ได้ดำเนินกิจกรรมตลอดการระบาดใหญ่ พวกเขาต้องการยุติข้อจำกัดที่รัฐบาลกำหนดเพื่อต่อสู้กับไวรัส และสงสัยเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนว่าไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพในระยะยาว
การประท้วงของพวกเขามักถูกห้ามโดยทางการ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความจริงที่ว่าผู้ประท้วงดังกล่าวปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามกฎที่มีอยู่สำหรับการประท้วง การประท้วงที่ไม่ได้รับอนุญาตครั้งล่าสุดทำให้โวล์ฟกัง เชอเบิล ประธานสภาล่างของรัฐสภาเยอรมันบุนเดสทาก (Wolfgang Schaeuble, president of the German parliament’s Lower House, the Bundestag)โกรธเกรี้ยว เขากล่าวกับหนังสือพิมพ์ NOZของเยอรมนีว่า
“ถ้าผู้เชี่ยวชาญเกือบทุกคนทั่วโลกบอกว่าโควิด-19 เป็นอันตรและการฉีดวัคซีนช่วยได้ แล้วใครจะมีสิทธิ์พูดว่าฉันฉลาดกว่านั่นเป็นระดับความเย่อหยิ่งที่แทบจะทนไม่ได้ โปรดดูการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ อย่าปล่อยให้คำขวัญราคาถูกหลอกลวงพวกคุณ!”
ในช่วงเวลาเดียวกันที่ฝรั่งเศส ผู้คนนับหมื่นเดินขบวนต้านบัตรสุขภาพโควิดของมาครงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันเข้าไปแล้ว
ในกรุงปารีสและเมืองอื่น ๆ ของฝรั่งเศสตั้งแต่วันเสาร์ที่ 31 ก.ค.2564จนถึงปัจจุบันเพื่อต่อต้านการบังคับใช้บัตรสุขภาพที่เรียกว่า coronavirus health pass เพื่อเข้าสู่สถานที่สาธารณะที่หลากหลายซึ่งสั่งโดยรัฐบาลเพื่อกดดันให้คนฉีดวัคซีนมากขึ้น ขณะต้องต่อสู้กับการติดเชื้อระลอกที่4
เจอรัลด์ ดาร์มานิน รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย แห่งฝรั่งเศสกล่าวในทวิตเตอร์ว่ามีผู้ประท้วง 19 คนถูกจับ รวมทั้ง 10 คนในปารีส นับเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันที่ผู้คนไม่เห็นด้วยกับมาตรการโควิด-19 ใหม่ของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงได้ออกมาประท้วงตามท้องถนน ซึ่งเป็นการแสดงความมุ่งมั่นที่ไม่ธรรมดาในช่วงเวลาผู้คนจำนวนมากมุ่งความสนใจไปที่การพักผ่อนช่วงฤดูร้อน
จำนวนผู้ประท้วงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มการประท้วง เช่นเดียวกับการเคลื่อนไหว”เสื้อกั๊กเหลือง”ที่เริ่มขึ้นเมื่อปลายปี 2018 โดยต่อต้านภาษีน้ำมันและค่าครองชีพ เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยรายหนึ่งกล่าวว่าจำนวนผู้ประท้วงประมาณ 204,090 คนทั่วประเทศฝรั่งเศส ในปารีสเพียงแห่งเดียวประมาณ 40,000 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 3,000 นายถูกประจำการในเมืองหลวง โดยเจ้าหน้าที่ปราบการจลาจลพยายามที่จะให้ผู้ชุมนุม เดินตามเส้นทางที่ได้รับอนุญาต
และพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้มีเหตุการณ์ซ้ำซากเมื่อเกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจและผู้ประท้วงที่ชองเอลิเซ่(Champs-Elysees) ผู้ประท้วงยังขยายการเคลื่อนไหวในเมืองอื่นๆ เช่น มาร์กเซย ลียง มงต์เปลิเยร์ น็องต์ และตูลูส พร้อมตะโกนว่า “อิสรภาพ!” และ “ไม่เอาบัตรสุขภาพโควิด!”