จากการจัดชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรูปแบบคาร์ม็อบ ในช่วงบ่ายวันที่ 1 ส.ค. 2564 และบานปลายเกิดการปะทะกันขึ้น จนถูกนำมาวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ม็อบที่จะจัดวันที่ 7 สิงหานี้ว่าจะยิ่งเกิดความรุนแรงนั้น?!?
ขณะที่ พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กถึง สถานการณ์ทางการเมืองในการชุมนุมเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม และเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นว่า
“คน 0.0001%ใหญ่กว่าคนทั้งประเทศ 70 ล้านคน วันนี้หลายคนคิดกันว่า พวกเราอยู่กันในภาวะที่มีการประกาศพรก.ฉุกเฉิน และอีกสารพัดกฏหมายหรือเปล่า
ถ้าอยู่ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์ซ้ำซากแบบนี้ขึ้นมาได้ และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถามหา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ท่านสบายดีอยู่หรือเปล่า เพราะคนทั้งประเทศมีถึง 70 ล้านคน
กำลังโดนคนประมาณ 0.0001 % ของจำนวนพลเมืองไทย คุกคามรุกล้ำ สิทธิเสรีภาพของพวกเค้าอยู่ คุกคามสิทธิเสรีภาพที่จะไปเรียนหนังสือของเด็กๆ คุกคามสิทธิเสรีภาพในการทำมาค้าขาย หาเลี้ยงชีพของประชาชนทั่วไป ฯลฯ
คนจำนวน 0.0001% นี้ละเมิดกติกาของสังคมในยามวิกฤติโรคระบาด คุกคามสิทธิเสรีภาพของพลเมืองอีกนับล้านๆ ที่ยอมสละสิทธิ์กักตัวอยู่บ้าน คนจำนวน 0.0001% นี้ปฏิเสธที่จะช่วยส่วนรวมและทำให้โควิดมันจบไปเร็วๆ เพื่อรักษาชีวิตคนอื่นอีกนับหมื่น นับแสน
ม็อบ 5 กลุ่ม มารวมตัวกันเหมือนม็อบใหญ่โต แต่จริงแล้วจำนวนคนนิดเดียว ราว 600 -700 คนได้ มาภายใต้เกราะคือ”รถยนต์” ที่สำคัญ คือ อยู่ภายใต้แหล่งเงินทุนจัดม็อบจากที่เดียวกัน
การอ้างว่าไม่มีแกนนำ..คงไม่ได้ แล้วคนขึ้นปราศรัยจะอ้างว่าไม่ต้องรับผิดชอบ ก็คงไม่ได้อีกเช่นกัน หลักฐานมีอยู่เพียบ แต่ทำไมเจ้าหน้าที่ไม่ทำอะไร เข้าทำนอง
“ขี่มอเตอร์ไซด์มาคนเดียว ด่าตำรวจได้ทั้งกรม” แล้วยังเปิดเพลงของตำรวจเยาะเย้ยอีก แบบนี้น่าจะถูกข้อหาหมิ่นเจ้าพนักงานนะครับ คงไม่ใช่การใช้สิทธิพลเมืองตามที่อ้าง
วันนี้ ใครคุมกฏหมายแล้วไม่บังคับใช้กฏหมาย ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุอะไร จะทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาลงอย่างรวดเร็ว ท่านจะโดนกล่าวหาว่า ทอดทิ้งประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
การเฝ้าเอาใจแค่คน 0.0001% ครั้งแล้วครั้งเล่า มันสร้างความอึดอัด หงุดหงิดให้กับคนหมู่มาก และจะยิ่งทำให้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการ”สร้างม็อบ” สมหวังดั่งตั้งใจเร็วยิ่งขึ้น
ผมผ่านม็อบมามากมาย ตั้งแต่การชุมนุมเล็กๆ มาถึง 14 ตุลา เรื่อยมาทุกเหตุการณ์จนถึงปัจจุบันนี้ พอมองออกถึงอนาคตของม็อบวันนี้ว่า มีแนวโน้มจะไปจบลงตรงไหน อย่าให้ถึงจุดที่ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยเลยครับ”