ม็อบ 7สิงหา ถือฤกษ์ “วันเสียงปืนแตก” เดินหน้าก่อความรุนแรง เริ่มต้นสงครามประชาชนเต็มรูปแบบ!?

2454

ม็อบ 7สิงหา ถือฤกษ์ “วันเสียงปืนแตก” เดินหน้าก่อความรุนแรง เริ่มต้นสงครามประชาชนเต็มรูปแบบ!?

จากกรณีที่ เยาวชนปลดแอก ประกาศนัดหมายชุมนุมในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ โดยอ้างว่า เวลาของประยุทธ์ จันทร์โอชา หมดลงแล้ว ประเทศชาติต้องการนายกรัฐมนตรีที่ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ในขณะที่นายอานนท์ นำภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “เตรียมตัวให้พร้อมกว่าเดิม ชุดกันน้ำผสมแก๊สน้ำตา หน้ากากกันแก๊ส และน้ำเกลือ#ม็อบ7สิงหา ฝ่าแนวกั้นให้ได้ ให้มันจบที่รุ่นเรา” และล่าสุดก็ได้บอกว่า กลับจากม็อบ กด shoppee สั่งน้ำเกลือขนาด 1,000 มิลลิตรไป 120 ขวด เจอกันแน่ 7 สิงหาคมนี้

ทางด้านของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ก็ได้ปลุกระดมม็อบว่า “ปฏิรูปแบบปฏิวัติ ทำข้อเสนอให้ราดิคัลที่สุด ก้าวหน้าที่สุด ไต่เพดานให้มากที่สุด เท่าที่เป็นไปได้ภายใต้ระบอบที่เป็นอยู่ พร้อมกับยืนยัน ยกระดับให้ข้อเสนอนี้เป็นข้อเสนอขั้นต่ำที่เราจะไม่ถอยไปมากกว่านี้ หากข้อเสนอนี้ไม่ได้รับการสนองตอบ สถานการณ์จะสุกงอมจนลื่นไถลให้ปฏิรูปกลายเป็นปฏิวัติ นี่คือ ปฏิรูปแบบปฏิวัติ”

ซึ่งหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า เหตุที่ม็อบเยาวชนปลดแอกเลือกวันที่ 7 สิงหาคม เป็นวันชุมนุมในการล้มรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา เนื่องจากเหตุการณ์ในวันที่ 7 สิงหาคม 2508 หรือที่เรียกกันว่า “วันเสียงปืนแตก”

ย้อนไปเมื่อ 7 สิงหาคม 2508 หรือ 56 ปีที่แล้ว คือวันที่กองกำลังของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ได้ตัดสินใจเปลี่ยนยุทธวิธีจากหลีกเลี่ยงการปะทะกับฝ่ายรัฐบาล เป็นเผชิญหน้าต่อสู้ด้วยอาวุธ จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธซี่งเรียกว่า “กองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย” (ทปท.) เข้าโจมตีกองกำลังของรัฐบาลตามยุทธศาสตร์ “ป่าล้อมเมือง” ปลุกชาวไร่ชาวนาเข้ายึดชนบทโดยรอบ เพื่อจะเข้ายึดเมืองต่อไป

วันเสียงปืนแตก เกิดขึ้นที่บ้านนาบัว ตำบลโคกหินแฮ่ อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม เมื่อทางราชการได้รับรายงานว่าขบวนการของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งทางการเรียกว่า “ผู้ก่อการร้าย” (ผกค.) กลุ่มหนึ่ง มาซ่องสุมอยู่ในป่าใกล้แม่น้ำโขง ปลุกปั่นชาวบ้านในย่านนั้น พ.ต.อ.สงัด โรจนภิรมย์ ผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม จึงนำกำลังตำรวจ 20 คนไปด้วยตัวเอง และเดินทางตลอดคืน จนราว 7.00 น.ของวันที่ 8 สิงหาคม 2508 จึงเกิดการปะทะกันขึ้น ส.ต.อ. ชัยรัตน์ สิงห์ด้วง เสียชีวิต

พ.ต.อ.สงัดถูกยิงเหนือราวนมขวา 1 นัด ขาขวา 1 นัด ส.ต.ต.มนต์ชัย โพธิ์ดอกไม้ ถูกยิงขาขวา 1 นัด ก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะล่าถอยไป ทิ้งศพสหายเสถียรไว้ 1 คน ซึ่งทางการระบุว่า คือ นายยน คำเผือก ส่วน 2 นายตำรวจที่บาดเจ็บถูกลำเลียงออกจากที่เกิดเหตุส่งต่อให้เฮลิคอปเตอร์นำเข้าโรงพยาบาลตำรวจ และรอดชีวิตทั้ง 2 คน

เหตุการครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ฝ่ายพรรคคอมมิวนิสต์เข้าต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาลด้วยอาวุธ ซึ่งถูกเรียกว่าเป็น ‘วันเสียงปืนแตก” ถือเป็นวันเริ่มต้นสงครามประชาชน

อย่างไรก็ตาม เมื่อกลางดึกวันที่ 30 ก.ค.2564 มีรายงานข่าวแปลก ๆ เผยแพร่ในโซเซียล โดยอ้างว่า มีการก่อรัฐประหาร โดยพล.อ.ณรงค์พันธุ์ จิตต์แก้วแท้  ผู้บัญชาการทหารบก แถมมีการบุกจับตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และตั้งนายกฯ คนใหม่เรียบร้อย ทางโฆษกกองทัพบก ต้องออกมาแถลงด่วนว่า ไม่เป็นความจริง และข่าวดังกล่าวนั้นเป็น “เฟคนิวส์” อย่าได้หลงเชื่อ

ต่อมา พล.อ.ณรงค์พันธุ์ ได้มอบให้ พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้อํานวยการสํานักงานพระธรรมนูญทหารบก (ผอ.สธน.ทบ.) เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข่าวอันเป็นเท็จ ซึ่งกองทัพบก ได้ตรวจสอบพบว่า  มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊คชื่อ “Nathapong Akkara” ได้กระทำการนำเข้าสู่ระบบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ ข่าวปล่อยเรื่องรัฐประหาร มีมาเป็นระยะๆ แต่ที่น่าสนใจ ตรงที่มีการโหมกระแสยึดอำนาจ ในวันที่ม็อบ นัดหมายลงถนน 7 สิงหา วันเสียงปืนแตก