Truthforyou

รัฐเตรียมแจกเงิน 24 ล้านคน กระตุ้นเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19

สศช. เตรียมเสนอ ครม. เห็นชอบสัปดาห์นี้ อนุมัติวงเงิน 5.1 ล้านบาท โครงการคนละครึ่ง กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ จากการได้รับผลกระทบจากโควิด-19

28 ก.ย. 2563 นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยว่า สภาพัฒน์ได้พิจารณาการใช้เงินกู้4 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอมา วงเงิน 5.1 หมื่นล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในสัปดาห์นี้

สำหรับรายละเอียดของโครงการ เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ศูนย์บริหารสถานการเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือ ศบศ. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยแบ่งเป็นให้วงเงินซื้อของใช้ของกินจากร้านค้าขนาดเล็กให้กับประชาชนทั่วไป จำนวน 10 ล้านคน คนละ 3,000 บาท และการเติมเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มอีกคนละ 500 บาท จำนวน 14 ล้านคน ในเดือน ต.ค.-ธ.ค. 2563

ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ซึ่งประกอบด้วย โครงการคนละครึ่ง และโครงการเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เสนอ ครม. พิจารณาล่าช้ากว่าเดิม 1 สัปดาห์ แต่ไม่มีผลกระทบกับการดำเนินโครงการ

ทั้งนี้ วันที่ 1 ต.ค. 2563 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. WWW.คนละครึ่ง.com จะเปิดทำการวันแรก เพื่อให้ร้านค้าขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย โดยจะเน้นร้านของกินหรือซื้อของใช้นิดหน่อยตามโชห่วยหรือร้านธงฟ้ามาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ หากผ่านการพิจารณาทางธนาคารกรุงไทย จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยติดตั้งแอปพลิเคชันถุงเงิน พร้อมกับแนะนำวิธีการใช้งานให้กับร้านค้าที่ผ่านการพิจารณา

สำหรับร้านค้าในโครงการชิมช้อปใช้กว่า 1 แสนร้านค้า ที่มีแอปพลิเคชันถุงเงินอยู่แล้ว ทางธนาคารกรุงไทยจะส่งข้อความไปเพื่อให้ยืนยันว่าจะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งหรือไม่ หากประสงค์เจ้าร่วมก็กดยอมรับ ระบบก็จะรำชื่อร้านค้าไปไว้บน WWW.คนละครึ่ง.com โดยที่ร้านค้าไม่ต้องเข้าไปลงทะเบียน เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับร้านค้า และหลังจากนั้นวันที่ 16 ต.ค. 2563 เวลา 06.00-23.00 น. จะเปิดให้ประชาชนอายุ 18 ปี และไม่ถือบัตรผู้มีรายได้น้อย จองสิทธิเข้าร่วมโครงการผ่าน WWW.คนละครึ่ง.com โดยระบบจะเปิดรับต่อเนื่อง 10 ล้านคน หากวันแรกไม่เต็มก็จะเปิดรับวันต่อ ๆ ไปจนเต็ม

“โครงการนี้ให้ร้านค้าขนาดเล็ก ๆ เท่านั้น ต้องการให้ร้านหมูปิ้ง ร้านก๋วยเตี๋ยวเข้าร่วมโครงการ ส่วนร้านค้าขนาดใหญ่ที่เป็นนิติบุคคล ร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ รัฐไม่ได้เปิดให้เข้าร่วมโครงการ” นายลวรณ กล่าว

ทั้งนี้ หลังลงทะเบียนแล้วภายใน 2 วัน ผู้ลงทะเบียนจะได้รับข้อความ SMS ว่าผ่านการพิจารณาหรือไม่ ผู้ที่ผ่านก็ให้โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งรัฐบาลจะโอนวงเงิน 3,000 บาท ให้กับผู้ได้สิทธิ เพื่อนำไปซื้อของกินของใช้จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งร้านค้าจะมีแอปพลิเคชันถุงเงิน โดยผู้ได้สิทธิก็ต้องโอนเงินส่วนที่จะซื้อของเข้าแอปพลิเคชันเป๋าตังของตัวเองด้วย เพราะมาตรการนี้เป็นการร่วมจ่ายกันคนละครึ่ง

สำหรับผู้ได้สิทธิเริ่มใช้จ่ายในโครงการได้ในวันที่ 23 ต.ค. 2563 ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2563 โดยรัฐบาลกำหนดช่วยจ่ายค่าซื้อสินค้าวันละไม่เกิน 100 บาท หรือ ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ซึ่งการไปซื้อสินค้าจะต้องจ่ายเงินผ่าน แอปพลิเคชันเป๋าตังเท่านั้น โดยนำแอปพลิเคชันเป๋าตังไปสแกนกับแอปพลิเคชันถุงเงินของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ

Exit mobile version