จากเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษเผยแพร่ทางเพจไทยคู่ฟ้า ซึ่งมีหลากหลายประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขปัญหาโรคระบาด รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวบางช่วงที่สำคัญ คือได้สอบถามสำนักงบประมาณว่ามีงบประมาณเพียงพอหรือไม่ ซึ่งสำนักงบประมาณรายงานว่ายังมีงบประมาณอยู่เพียงพอ โดยได้มีการใช้งบประมาณก้อนแรกไปแล้ว 1 ล้านล้านบาท เหลือประมาณ 2,000กว่าล้านบาท แต่งบประมาณรอบใหม่ 5 แสนล้านบาทที่กู้มายังไม่ได้ใช้ ตนจึงบอกว่าให้เตรียมมาตรการเหล่านี้ให้พร้อม ทั้งมาตรการเดิมที่มีอยู่และมาตรการใหม่ โดยอาจจะต้องมีการพุ่งเป้าลงไปในบางกิจการ หรือบางกลุ่มเป็นพิเศษให้ทั่วถึง
“ขอร้องฝ่ายการเมืองที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลในขณะนี้ ว่าเป็นตัวแทนของประชาชนเพราะฉะนั้นก็จะต้องมีหลักการคิดวิเคราะห์ ในบางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องการเมืองที่จะต้องมาสร้างความเกลียดชัง โดยใช่เหตุเพราะประเทศชาติกำลังมีปัญหา ให้เข้าใจให้ตรงกัน การเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่าใช้โอกาสนี้มาทำให้ทุกอย่างมีปัญหา”
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึงความรู้สึก เห็นใจ เสียใจ กับสถานการณ์ในขณะนี้ ยืนยันว่าพยายามแก้ปัญหาอุปสรรคที่มีอยู่มาก และยินดีที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อีกทั้งการแก้ไขปัญหาต้องอาศัยความร่วมมือ ข้อมูล และข้อเท็จจริงที่ตรงกัน ถึงจะแก้ปัญหาได้ ซึ่งตนในฐานะนายกรัฐมนตรีไม่เคยทิ้งงานซักงาน และยังคงขับเคลื่อนงานด้านอื่นด้วย พร้อมยืนยันว่าไม่เคยท้อ แสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสีย ให้กำลังใจกับคนทำงาน ขออย่าท้อแท้เพราะเวลานี้เป็นสิ่งที่ต้องทำร่วมกันเพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน
“ส่วนมาตรการที่จะล็อคดาวน์เข้มข้นหรือไม่นั้น ทางคณะแพทย์โดยความเห็นของทีมแพทย์และทีมสาธารณสุขก็ยังคงเห็นชอบในมาตรการเดิมอยู่ และการที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ยังไม่ลดลงเกิดขึ้นจากหลายประการด้วยกัน คือ ถ้าสามารถปฏิบัติตามมาตรการที่ประกาศไปแล้ว ทุกคนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมันก็อาจจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง และอุปสรรคอยู่บ้าง แต่สิ่งสำคัญคือความร่วมมือในการปฎิบัติตามมาตรการดังกล่าวที่ห้ามตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง ก็ขอให้อย่าทำเลย ถ้าหากยังมีการทำอยู่ มันก็ทำอะไรไม่ได้
เมื่อมองดูการแพร่ระบาดของไทยรวมถึงจำนวนผู้เสียชีวิตก็มองดูแล้วน่าตกใจแต่ขอให้ทุกคนสนใจและดูตัวเลขของต่างประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งหลายประเทศก็แพร่ระบาดมากกว่าไทยหลายเท่าแต่ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น”
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่าเดือนสิงหาคมจะมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น เพราะเท่าที่ถามดูพบว่าหลายประเทศก็มีปัญหาเรื่องวัคซีนเช่นกันการสั่งจองยังคงมีปัญหาขีดความสามารถการผลิตไม่ทัน ซึ่งไทยแม้มีบริษัทผลิตโดยการถ่ายทอดเทคโนโลยีรับออเดอร์มาซึ่งทั้งหมดยอดการผลิตบริษัทแม่จะเป็นผู้บริหารจัดการ และจัดส่งในอาเซียนและวัคซีนที่เข้ามาต้องมีการตรวจสอบมาตรฐานทุกยี่ห้อก่อนจะกระจายส่งมอบ ขออย่ามัวจับผิดกันเลย ยืนยันว่าศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อในระดับผู้บริหารไม่มีปัญหาอะไรกันมีปัญหาภายนอกคือประชาชนมาแออัดยืนรอจำนวนมาก
“หมู่บ้านสีฟ้าเกิดขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนโดยชุมชนดูแลซึ่งกันและกันให้เกิดความเข้มแข็ง โดยใช้ทั้งสมุนไพรไทยและระบบความเข้มแข็งในท้องถิ่นแต่ละแห่ง รวมถึงการเร่งการเบิกจ่ายช่วยเหลือบุคลากรและส่วนที่จะต้องเร่งดำเนินการซึ่งวันนี้ต้องขอขอบคุณ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ประชาสังคม จิตอาสา รวมถึงนักการเมืองที่มาช่วยกันดูแลสถานการณ์ ต้องขอบคุณด้วย
เรื่องวัคซีนยังได้ให้กระทรวงการต่างประเทศและทูตแต่ละประเทศช่วยเร่งเจรจาอีกทางหนึ่ง กับบริษัทผู้ผลิตที่จะติดต่อจัดหาซื้อเพิ่มเติม หากสามารถนำเข้าได้จริงและมีคุณภาพพร้อมที่จะปลดล็อคการนำเข้าและให้ผ่านมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข โดยเปิดรับทุกยี่ห้อ ยืนยันว่าวัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐอเมริกาจะมาในวันที่ 30 ก.ค.ไม่ได้ซ่อนไว้ที่ไหนตามที่เป็นข่าว ขอให้ประชาชนเข้าใจข้อมูลที่ตรงกัน โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่ที่สุด ฝากสื่อมวลชนทำความเข้าใจประชาชนด้วย ซึ่งนายกฯก็ไม่ได้มีปัญหากับสื่อ”
สุดท้ายเมื่อถามว่า สถานการณ์ต่างๆในขณะนี้คิดถอดใจลาออกหรือยุบสภาในช่วงเวลานี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ใช่เวลา วันนี้ทำงานหนักทุกวัน หลายคนก็บอกว่าทำงานหนักแล้วไม่เห็นได้งาน ก็ขอไปหาให้เจอว่ามีงานอะไรที่ออกมาแล้วบ้าง ซึ่งคิดว่าตนก็พยายามทำอย่างที่สุดแล้วด้วยการฟังเสียงประชาชน พร้อมติดตามสถานการณ์จากคณะแพทย์ และสาธารณสุข
ขณะที่วันเดียวกันนี้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันการเข้าร่วมการชุมนุมคาร์ม็อบ ที่จัดโดย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด เพื่อขับไล่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้
“เจอกันที่คาร์ม็อบ ผมไปแน่นอน สู้เถิดพี่น้อง เพื่อนมิตรผู้ร่วมอุดมการณ์ มาเคียงไหล่ใกล้บ่ากันอีกครั้ง สู้เถิดประชาชน ไม่เปลี่ยนแปลงมีแต่รอความตาย ให้มันจบที่รุ่นมัน ไล่ประยุทธ์”