จากที่วันนี้ 26 กรกฎาคม 2564 เพจ The room 44 ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวีดีโอ ระบุ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์สดกับเพจ เกี่ยวกับการบริหารจัดการโควิดในประเทศไทย โดยมีบางช่วงที่น่าสนใจ
ทั้งนี้นายทักษิณ ระบุถึงช่วงที่ตนเป็นโควิดช่วงนั้นร่างกายเหลือแต่หนังกับกระดูก ต้องขึ้นลิฟต์แต่ตนต้องฝืนเดิน โชคดีได้หมอดี หมอบอกเหนื่อยอย่าไปสนใจ ต้องเดิน ตอนแรกๆ ปอดยังมีน้ำ ก้าวไปสามสี่ก้าวก็เหนื่อย ต้องฝืนส่วนปอดตอนนี้ดีหมดแล้ว เหลืออย่างเดียวคือปอดแหก
“ทำบุญทำกรรมกันมา แต่เราต้องทำดีที่สุดเราต้องยอมรับกับมัน ยอมรับว่าปีแรกที่ตนออกมา ตอนโดนปฏิวัติตนก็โกรธว่าทำดีขนาดนี้โดนขนาดนี้เลยเหรอ แต่ก็คิดว่าอย่ายึดติดอดีต อดีตที่เราเรียนรู้เราต้องอยู่กับปัจจุบัน ตอนหลังมาครบปีหนึ่ง ตนก็นั่งถามตัวเองว่า ตอนไปเรียน ป.โท เงินไม่มี เราก็ไปเป็นพนักงานเคเอฟซี เช่าหอพักอยู่แล้วใช้รถผ่อนส่ง ส่งหนังสือพิมพ์ ตอนนั้นเรายังอยู่ได้ ตอนนี้เงินก็มี เพื่อนก็เยอะ บ้านก็มีหลายหลังหลายประเทศ เราก็คิดว่าเอ๊ะตกลงบ้านเราอยู่ที่เมืองไทยเท่านั้นเหรอ โลกทั้งโลกก็คือบ้านเรา อย่างพระพุทธเจ้าบอกว่า ตั้งอยู่และดับไป
ต้องมีธรรมะกับตนเอง ทุกอย่างคือสิ่งสมมุติ สมมุติว่าบ้านเราอยู่อังกฤษ ดูไบเราก็แฮปปี้มีความสุข ตนก็บอกว่าเราจะไปเสียเวลากับมันทำไม ก็ทำมาหากินดีกว่า เริ่มก็ไปซื้อทีมฟุตบอลแมนฯ ซิตี ซื้อเครื่องบินไปหาเพื่อน ทำมาหากิน ก็อยู่ได้ ลูกหลานก็มาเยี่ยมก็มีความสุข อย่าไปทุกข์กับมัน แต่เมื่อดูเรื่องราวจากประเทศไทยในฐานะเป็นนายกฯ มาก่อน ก็อดไม่ได้ ที่จะห่วงใย มันไม่รู้จะให้อะไรนอกประสบการณ์”
ทั้งนี้เมื่อถามว่า โดนกระทำรู้สึกแค้นหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ความโลภ ความโกร ความหลง ทำให้โง่ คือทำให้เราคิดไม่ออก เราจะมีสิ่งที่มีสิ่งแทรกซ้อนกับทางอารมณ์ จะต้องปล่อยวางทางอามรณ์ให้ได้ ตนมีลูกหลาน ธุรกิจ ดังนั้นตนจะทำอะไรต้องมีสติ โกรธ ก็ด่าคน มันไม่ได้ คนเราอย่าไปหวังว่าจะเติมเต็มทุกอย่างให้กับชีวิต ชีวิตไม่มีคำว่าสมบูรณ์
“อย่างปัญหาภาคใต้ ตนก็รู้ว่าตนทำไม่ถูก ตนใจร้อนไป คือตนใช้ทหารเร็วไป ควรใช้การเมือง และอดทนมากกว่านั้น นี่คือสิ่งที่ผิดพลาด และตอนที่นายกฯ ปู เป็นนายกฯ ตนก็พยายามแก้ไขคุยกับหัวหน้าก่อการทั้งหลายที่หนีไปมาเลเซีย อินโดนีเซีย บ้างว่าเราจะคุยกันอย่างไรให้ประเทศเจริญ ตอนนั้นตนก็แอบทำอยู่ และส่งให้ทางนายกฯ ปู แต่ทหารไม่แฮปปี้ และถ้าใครบอกว่าตนไม่เคยพลาดเลยเป็นไปไม่ได้
ถามว่า อะไรที่ทำแล้วภูมิใจ นายทักษิณ กล่าวว่า เรื่องของการทำให้ชาวบ้านหลายๆ เรื่อง เช่นเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค การใช้หนี้ประเทศ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราภูมิใจ ย้อนกลับไปดูเราก็เอ๊ะ เราก็ทำไปเยอะเหมือนกันตนเป็นคนชอบทำงาน”
และเมื่อถามถึง ความแค้นทางการเมืองยังมีอยู่ในใจหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนเป็นคนที่ใจกว้างและสร้างสรรค์ ไม่ใช่คนชอบทำลายคนหรือมองโลกในแง่ร้าย เป็นคนคิดบวกตลอด ตนไม่เคียดแค้นคน ให้อภัยคนตลอด แต่ก็จำได้ทุกเรื่อง สามารถเล่าเรื่องทุกเรื่อง ดังนั้นใครเดินเข้ามาในชีวิตตน อย่าลืมว่าสมองจำได้หมดว่าใครบ้าง ตอนนี้ 3 ป.จำได้แม่นเลย
นอกจากนี้ นายทักษิณ ยังกล่าวว่า เมืองไทยไม่ได้กว้างใหญ่ เพราะสังคมมันแคบ ดังนั้นจะรู้จักกันหมด ทุกคนก็มีแนวทางชีวิตของตัวเอง ทุกคนก็อยากจะสร้างตัวเองขึ้นมาหลายรูปแบบบางคนมีจริยธรรมก็มี แต่บางคนไม่มี ส่วนเรื่องมิตรแท้นั้นในหมู่การกระเสือกกระสนเข้าอำนาจ ไม่มีมิตรแท้ศัตรูที่ถาวร
“เราก็รู้อยู่ วันนี้เฉยๆ แต่อย่างไรตนก็ยังรักพี่น้องชาวไทย ตนก็ยังห่วงใยประเทศไทย ตนก็อยากไปกราบคนที่รักและเคารพเสมอและกราบแผ่นดินเกิด เลี้ยงหลาน
เส้นทางสู่วิถีใหม่ เราจะปรับตัวอย่างไร เมื่อก่อนของไทยขึ้นไปสู่สูงแล้ว แต่วันนี้มันไหลตกมาอยู่โลกยุคที่ 2 ยังคิดแบบโบราณ หรือคิดแบบทหาร มันไปไม่ได้ วันนี้ทหารขอให้เป็นคนสุดท้ายนะที่จะบริหารประเทศ ต้องยอมรับว่าพวกคุณล้าหลังเกินกว่าที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำตอนนี้” อดีตนายกฯ กล่าวทิ้งท้าย
(อ่าน-ดูคลิปฉบับเต็ม https://www.facebook.com/theroom44/videos/345610523947329)