ลอนดอน-ปารีส-โรมเดือด!?!ประท้วงต้านบังคับฉีดวัคซีน ข่มขู่แพทย์-พยาบาล ฟาดรัฐนาซี ชี้วัคซีนเครื่องมือ ‘ซาตาน’ทำคนฟั่นเฟือน

2109

สุดสัปดาห์ยุโรปเดือด การจัดการประท้วงต้านการบังคับฉีดวัคซีนแพร่ไปทั่ว เริ่มขึ้นกว่า 2 สัปดาห์ในเมืองหลวงของประเทศในยุโรป ทั้งปารีส ลอนดอน และกรุงโรมบางแห่งคนร่วมนับแสนคน และประท้วงย่อยในเมืองต่างๆทั่วประเทศนับเกือบ 200 ครั้ง ทั้งสามประเทศต่างประท้วงมาตรการใช้เอกสารสุขภาพฉีดวัคซีนโควิดฯ จึงใช้บริการสาธารณะได้ทำให้ผู้คนเดือดดาลว่า รัฐบาลเป็นเผด็จการนาซีและเลือกปฏิบัติ ลุกลามข่มขู่ทำร้ายแพทย์ พยาบาลที่ช่วยเหลือในการฉีดวัคซีน ที่ลอนดอนเผยแพร่ความโกรธและเกลียดชังวัคซีนด้วยเชื่อว่าเป็นเครื่องมือควบคุมประชากร เป็นเครื่องมือซาตานทำให้คนที่ฉีดฟั่นเฟือนในระยะยาว

ที่อังกฤษประท้วงเดือด: นักเคลื่อนไหวต่อต้านการล็อกดาวน์และต่อต้านการฉีดวัคซีนได้รวมตัวกันในหลายเมืองของอังกฤษเพื่อต่อต้านการริเริ่มหนังสือสุขภาพรับรองฉีดวัคซีนฯ  ในลอนดอน ผู้บรรยายอดีตพยาบาลคนหนึ่งได้จุดชนวนให้เกิดการโต้เถียงกันใหญ่ทั่วสังคม โดยเปรียบเทียบเจ้าหน้าที่ของสถาบันสุขภาพหรือ NHS กับแพทย์ของนาซีสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ผู้คนหลายพันคนรวมตัวกันที่จัตุรัสทราฟัลการ์ในลอนดอนเมื่อวันเสาร์สำหรับ ‘Freedom Rally’ เพื่อประท้วงมาตรการจำกัดสิทธิ์ ที่นำมาใช้ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ผู้ประท้วงรวมตัวกันทั่วทั้งจัตุรัส ถือป้ายและป้ายข้อความว่า “อย่าบังคับให้ทำการทดสอบ”และ”ไม่ฉีดวัคซีน”

นักเคลื่อนไหวหลายคนกล่าวหารัฐบาลว่า “ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ”ในขณะที่แบนเนอร์ที่เห็นในฝูงชนมีตั้งแต่ทฤษฎีสมคบคิด- 5G -ไปจนถึงธงที่ระบุว่า  “ทรัมป์ในปี 2024”

เคท เชอร์มิรานี(Kate Shemirani) อดีตพยาบาลที่หันมาต่อต้านวัคซีน (Anti-Vaxxer) และนักทฤษฎีสมคบคิด ได้ปราศรัยและเรียกวัคซีนดังกล่าวว่า “เครื่องมือซาตาน”และอธิบายว่าวัคซีนเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการควบคุมประชากร พร้อมเรียกร้องให้ผู้คนส่งชื่อแพทย์และพยาบาลที่เกี่ยวข้องในการรณรงค์ฉีดวัคซีนในฐานะเป็นผู้ร้าย และอ้างว่ากลุ่มทนายความกำลังช่วยเธอรวบรวมข้อมูลเพื่อฟ้องร้อง

วิดีโอคำปราศรัยที่รุนแรงของเธอแพร่กระจายอย่างรวดเร็วบนโซเชียลมีเดีย ทำให้ สาดิค ข่าน(Sadiq Khan)นายกเทศมนตรีลอนดอนโกรธเกรี้ยว  “ผมได้แจ้งความโดยตรงกับตำรวจแล้ว”พร้อมยกย่องผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ แพทย์และพยาบาลว่าพวกเขาเป็น“วีรบุรุษของโรคระบาดนี้”

ในสหราชอาณาจักร ผู้ประท้วงจำนวนมาก มีการเผยแพร่สโลแกนที่ยั่วยุความรุนแรง ในแมนเชสเตอร์ กลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านการฉีดวัคซีนพยายามบุกศูนย์ทดสอบโควิด-19 ในท้องถิ่น ตำรวจต้องส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพิ่มเข้าไปคุ้มครองสถานที่ดังกล่าว  ในลีดส์ ผู้ประท้วงปิดกั้นการจราจรขณะที่พวกเขาเดินประท้วงไปตามถนน ทำให้บริษัทรถโดยสารท้องถิ่นหลายแห่งต้องหยุดให้บริการในบางเส้นทาง 

เมื่อวันจันทร์ที่ 19 ก.ค.2564 นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน(ฺBoris Johnson) กล่าวว่าเร็วๆ นี้จะต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนเพื่อเข้าไนท์คลับและสถานที่อื่นๆ ซึ่งเพิ่งจะเปิดให้บริการอีกครั้งในสัปดาห์นี้ การประกาศดังกล่าวทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างกว้างขวางรวมทั้งสมาชิกรัฐสภาบางคนให้คำมั่นว่า จะลงคะแนนเสียงคัดค้านมาตรการดังกล่าว 

มาดูที่ฝรั่งเศส:เกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจในปารีส จากการชุมนุมนับหมื่นต่อต้านใบรับรองโควิด และคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนที่จำเป็นสำหรับงานบางประเภท รวมทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของปธน.มาครง

ผู้คนหลายหมื่นคนออกมาเดินตามถนนในเมืองต่างๆ ของฝรั่งเศสเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน เพื่อประท้วงการใช้บัตรด้านสุขภาพและการฉีดวัคซีนที่จำเป็นสำหรับแพทย์ ในปารีส การชุมนุมจบลงด้วยการปะทะกับตำรวจและตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำเพื่อสลายฝูงชน เนื่องจากสถานการณ์บนท้องถนนที่ควบคุมไม่ได้

นอกจากนี้ ยังมีการจัดชุมนุมใหญ่ในเมืองอื่นๆ ของฝรั่งเศส เช่น มาร์กเซย ในเมืองลีลล์,สตราสบูร์กมีผู้เข้าร่วม 4,000 คน ในเมืองทางตะวันตกของปัวตีเย กลุ่มผู้ประท้วงได้บุกเข้าไปในศาลากลางของท้องถิ่น บางคนโยนรูปประธานาธิบดีเอ็มมานูเอลมาครง และเอกสารบางส่วนออกไปนอกหน้าต่างศาลากลางในขณะที่ฝูงชนโห่ร้อง

หนังสือพิมพ์เลอ ปารีเซียง รายงาน โดยอ้างข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยว่า มีผู้คน 161,000 คนเข้าร่วมในการประท้วง 168 ครั้งทั่วประเทศฝรั่งเศส เฉพาะในปารีสมีผู้ร่วมประท้วงประมาณ 11,000 คน

เมื่อต้นสัปดาห์รัฐบาลได้ประกาศใช้เอกสารใบรับรองพิเศษที่พิสูจน์ว่าบุคคลได้รับการฉีดวัคซีนหรือหายจากโรคโควิด-19 ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา หรือมีการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบเมื่อเร็วๆ นี้ จึงสามารถเข้าไปใช้บริการในพิพิธภัณฑ์ โรงภาพยนตร์ หรือ สระว่ายน้ำ เข้าไปในร้านอาหารและบาร์ รวมถึงการเดินทางด้วยรถไฟและเครื่องบินทางไกลเริ่มตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2564 ประเด็นนี้ยังถกเถียงกันในวุฒิสภาของรัฐ

สำหรับอิตาลีก็วุ่นไม่แพ้กัน การประท้วงต่อต้านมาตรการของรัฐบาลในการใช้บัตรสุขภาพจัดขึ้นกว่า 80 แห่งทั่วประเทศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งผู้คนประณามมาตรการดังกล่าวว่าเป็นการบังคับและเลือกปฏิบัติ

สื่ออิตาลีรายงานว่า มีผู้ชุมนุมราว 3,000 คนในกรุงโรมและอีก 5,000 คนในตูริน เมืองเอกของภูมิภาคพีดมอนต์ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ขณะที่การประท้วงเล็กๆ เกิดขึ้นที่อื่นทั่วประเทศ โดยรวมแล้ว มีการรายงานการประท้วงในกว่า 80 เมือง ผู้คนพากันออกมาเดินขบวนเพื่อประณามมาตรการของรัฐบาลที่นำโดย นายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี (Mario Draghi) ในการเสนอใช้บัตรสุขภาพที่เรียกว่า ‘กรีนพาส'(Green Pass) เอกสารนี้ทำหน้าที่เป็นหลักฐานว่าบุคคลได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งโด๊ส มีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา หรือหายจากไวรัสแล้ว

ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคมที่จะถึงนี้ เฉพาะผู้ถือบัตร Green Pass เท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในร้านกาแฟ ร้านอาหาร โรงยิม และการแสดงกลางแจ้ง

ผู้ประท้วงมองว่ามาตรการนี้เป็นการเลือกปฏิบัติ บางคนเดินขบวนพร้อมกับป้ายที่เขียนว่า ดรากีคือฮิตเลอร์-‘Draghi Like Hitler’ และเสรีภาพไม่เอาเผด็จการ- ‘Freedom, No More Dictatorship’ ในขณะที่คนอื่นๆ ถือธงชาติอิตาลีและจุดพลุ

ผู้ประท้วงในกรุงโรมย้ำว่า“เราปฏิเสธ Green Pass เพราะมันสร้างพลเมืองคลาส A และ B ทั้งผู้ที่มีสิทธิ์และผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ และสิ่งนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญของอิตาลี”