เหตุเกิดในลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เหยื่อยืนอยู่ในลานจอดรถเมื่อโจรบุกเข้ามาเขายิงใส่โจรก่อนทั้งกลุ่มหนีกระเจิง กลุ่มผู้ก่อเหตุและเหยื่อต่างเป็นคนผิวสี ภาพนี้ย้อนแย้งกระแสต้านการเหยียดผิวของคนอเมริกันผิวขาวต่อคนอเมริกันผิวสีอย่างมาก ไม่ว่าจะสีผิวอะไรก็ก่ออาชญากรรมได้ถ้าคิดเป็นโจร ปัญหาเรื่องการกดขี่เหยียดผิวถูกหยิบยกขึ้นมาอย่างกว้างขวางตลอด 2 ปี รัฐบาลไบเดนได้รับการชื่นชม แต่สังคมอเมริกันเหมือนฝีแตก ความขัดแย้งลงลึกในทางความคิดขยายเป็นความรุนแรงและอาชญากรรมระบาดทั่วประเทศ ซ้อนการระบาดใหญ่ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้าที่กำลังคุกคามคนอเมริกันทั้งประเทศ
เมื่อเสรีภาพปราศจากศีลธรรมกำกับและสังคมอเมริกันอนุญาตให้ทุกคนมีสิทธิพกปืน การแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยปืนจึงแพร่หลายอย่างไม่อาจควบคุม ในยุคที่พรรคเดโมแครตนำโดยปธน.ไบเดนและทีมบริหาร ไม่อาจแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง เพราะภารกิจหลักมุ่งสู่การก่อสงครามนอกบ้านอย่างไม่หยุดยั้ง ทุกสรรพกำลังรวมทั้งงบฯมหาศาล จึงทุ่มเทสู่การก่อศึกภายนอกอย่างแข็งกร้าว หันกลับมาดูบ้านตัวเองอาจสายเกินเยียวยา
เมื่อว้นอังคารที่ 20 ก.ค.2564 กรมตำรวจแห่งลอสแองเจลิสแถลงข่าวกรณี อาชญากรรมปล้นทร้พย์กลางเมือง โดยเหยื่อใช้ปืนพกปกป้องตัวเองและคนอื่น ๆ ในกลุ่มของเขา จากโจรที่เข้ามาปล้นของที่เพิ่งซื้อมา ทำให้กลุ่มผู้ต้องสงสัยหนีทันที” เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 19 ก.ค.2564
เกิดเหตุขึ้นที่เมลโรส (Melrose Ave) เมื่อชายและหญิงสามคนออกจากห้างดอจ อเวนเจอร์( Dodge Avenger) ชายคนหนึ่งถือปืนพกเตรียมปล้นของที่พวกเขาเพิ่งซื้อมาจากร้านค้า เรื่องนี้มีผู้หญิงอีก 2 คนเกี่ยวข้อง มีผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 3 คนในรถ ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าห้างแสดงชัดว่าทั้ง 3 กำลังทำการปล้นทรัพย์
ตำรวจจับกุมและระบุตัวผู้ต้องสงสัยสองคนชื่อนิโคลัส บราวน์และมาร์เคล เฮย์ส ทั้งคู่เป็นคนลอสแองเจลิส และกล่าวว่าพวกเขาทั้งคู่ถูกตั้งข้อหาพยายามชิงทรัพย์และขณะนี้อยู่ระหว่างรอลงอาญา บราวน์ถูกยิงที่ต้นขาซ้ายบน ขณะที่เฮย์สถูกยิงที่น่องขวา ตำรวจยังคงค้นหาผู้ต้องสงสัยคนที่สามและขอความช่วยเหลือจากสาธารณชนเพื่อติดตามตัวเขา
ตำรวจกล่าวเสริมว่า“ทางกรมตำรวจลอสแองเจลิสไม่นิ่งนอนใจ กำลังเร่งจัดการกับปัญหาอาชญากรรมรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่เมลโรสในปีนี้ และกำลังไล่ตามจับผู้ต้องหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้และอาชญากรรมอื่นๆ”
การฆาตกรรมโดยรวมในลอสแองเจลิสเพิ่มขึ้น 25% ในปีนี้ โดยที่เซาท์ลอสแองเจลิสมีการฆาตกรรมเพิ่มขึ้นถึง 50% นอกจากนี้อาชญากรรมรุนแรงด้วยปืนยังเพิ่มขึ้นในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเมืองฟิลาเดลเฟียซึ่งอาชญากรรมจากปืนได้เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี
นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษที่ฟิลาเดลเฟียผ่านเหตุการณ์ฆาตกรรมอันน่าสยดสยอง 300 ครั้งแค่ในช่วงต้นปี เพิ่มขึ้น 30% ในปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2020
การฆาตกรรมที่พุ่งสูงขึ้นในฟิลาเดลเฟียเกิดขึ้นในขณะที่เมืองอื่นๆ รายงานอาชญากรรมรุนแรงด้วยปืนเพิ่มขึ้น รวมถึงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่ซึ่งการลักขโมยรถพุ่งสูงขึ้นเกือบ 74% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับข้อมูลในปี 2020 ขณะที่ชิคาโกนายกเทศมนตรี Lightfoot แถลงว่ามีคดีฆาตกรรม 412 คดีในปีนี้