จับตากลุ่มแคร์รีเทิร์นพท. แกนนำใกล้ชิดหญิงอ้อ!นำสลับขั้วร่วมรบ. ลอยแพธนาธร?

7628

จากที่เกิดแรงกระเพื่อมอย่างรุนแรงภายในพรรคเพื่อไทย เมื่อ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลาออกจากตำแหน่ง ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ตามด้วยผู้บริหารจากตำแหน่งต่าง ๆ ในคณะกรรมการชุดดังกล่าวเช่นเดียวกัน

ต่อมามีรายงานข่าว อ้างว่าภายในพรรคเพื่อไทยกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยการลาออกจากหัวหน้าพรรค ของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เพื่อให้เกิดกระบวนการสรรหากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ท่ามกลางความขัดแย้งที่หมักหมกมานาน จากขั้วอำนาจภายในพรรค อันเนื่องมาจากผลการทำหน้าที่ประธานยุทธศาสตร์พรรค ของคุณหญิงสุดารัตน์ ที่เลี่ยงไม่พ้นถูกประเมินจากผลการเลือกตั้งซ่อมหลายครั้งที่ผ่านมา และ พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับพรรคพลังประชารัฐทุกครั้ง นี่ยังไม่นับปัญหาภายนอกพรรคในการกระโจนลงร่วมกับม็อบที่จาบจ้วงก้าวล่วงสถาบันอย่างรุ่นแรงด้วย

สำหรับปัญหารอยแตกร้าวในพรรคเพื่อไทย คือ ปมปัญหาการแยกตัวไปตั้งกลุ่มแคร์ โดยการนำของ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร ตามมาด้วยบทสัมภาษณ์พิเศษของ คุณหญิงสุดารัตน์ ผ่านสื่อมวลชน (ประชาชาติธุรกิจ) มีข้อความบางช่วงตอนเป็นไปในลักษณะพาดพิงเชิงลบกับสมาชิกกลุ่ม CARE อาทิ “ประเด็นที่มีความไม่พอใจตอบเองไม่ได้ เพราะที่ทำไม่ได้มี agenda กับใคร แต่ถ้าใครไม่พอใจแล้วจำเป็นต้องออกไปตั้งพรรค ก็เป็นเหตุผลหนึ่ง แต่เหตุผลหลักถึงจะชอบ ไม่ชอบพี่ แต่ถ้าไม่ออกไปตั้งพรรคก็ไม่ได้เป็น ส.ส.”

และเมื่อถูกถามว่าเหตุใดความแตกแยกของพรรคเพื่อไทยเกิดรูปธรรมเยอะมาก ? คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า มีแค่คนสองคน ทุกที่ทำงานก็มีคนสองคนที่ไม่ถูกกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับคุณธรรมของคนที่จะมาชกใต้เข็มขัดหรือเปล่า ถ้าตัวเองจะปล่อยข่าวก็ปล่อยได้หมด แต่ไม่เคยทำ หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ “ก็รู้อยู่ใครเป็นใคร แต่ไม่เห็นต้องตอบโต้ ความจริงก็คือความจริง แค่เอาข้อเท็จจริงมาออก ใครจะทำก็ทำ แต่พี่คิดเป็น ไม่คิดจะไปทำอะไร ทำให้องค์กรเสียเปล่า ๆ”

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มแคร์ โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้ ด้วยข้อความว่า “ในช่วงที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสกับพิษเศรษฐกิจหลังโควิด แทนที่จะได้เห็นนักการเมืองร่วมมือช่วยกันนำเสนอหาทางเลือกทางรอดให้ประชาชนแต่สิ่งที่ปรากฎให้เห็นกลับตรงข้าม…

แล้วก็ล่าสุดมีการประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ โดย นายสมพงษ์ ระบุขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.263 เป็นต้นไป เพื่อจะได้มีการเรียกประชุมใหญ่วิสามัญและเลือกคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ต่อไป

ด้วยเหตุผลที่กล่าวอ้างว่าเพื่อให้นำไปสู่การปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงสังคมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเบื้องต้นมีกำหนดนัดประชุมกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ และ ส.ส.ในวันที่ 28 ก.ย. 2563 เพื่อหารือเกี่ยวกับกำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยคาดว่าจะเป็นช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือน ต.ค.นี้

คำถามจากนี้ก็คือ เมื่อมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ใครคนใดจะได้กลับเข้ามา รวมทั้งพรรคพวกที่แยกตัวไปตั้งกลุ่มแคร์ อย่างนายภูมิธรรม ซึ่งมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเพราะทราบกันดีว่า แกนนำหลายๆคนที่แตกออกไปล้วนมีความสนิทเป็นอย่างดีไม่ว่าทั้งนายใหญ่และนายหญิง พวกเขาเหล่านี้จะกลับเข้ามาเพื่ออะไรใหม่ๆให้กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางคนที่ใกล้ชิดกับคุณหญิงพจมาน เป็นมือทำงานระดับมันสมอง ไม่ว่าหมอมิ้ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช หมอเลี้ยบ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กระทั่งตัวภูมิธรรมเอง

โดยเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 63 “CARE คิด เคลื่อน ไทย” ซึ่งเป็นกลุ่มการเมือง ที่แตกตัวออกมาจากพรรคเพื่อไทย ได้เปิดตัวแกนนำกลุ่ม โดย 7 ตัวแทน “สมาชิกเริ่มต้น” นำโดย นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำกลุ่มแคร์, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช, นายพริษฐ์ รักตพงศ์ไพศาล ลูกชายนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล (เฮียเพ้ง) และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี แกนนำกลุ่มแคร์

ที่น่าสนใจกว่านั้นหากกลุ่มแคร์กลับเข้าสู่รังเดิมพรรคเพื่อไทย จังหวะการเมืองต่อไปจะพลิกเปลี่ยนไปแบบไหน ในวันที่ไม่มีเจ๊หน่อย คุณหญิงสุดารัตน์  โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีการนำพาพรรคที่ต้องจับตา จะนำพรรคเพื่อไทยสลับขั้ว ย้ายข้างไปร่วมรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ ??? ด้วยการลอยแพกลุ่มธนาธร คณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล สลัดภาพพวกโจมตีจาบจ้วงก้าวล่วงสถาบันออกไป!?! โปรดจับตา อีกไม่นานเกินรอรู้แน่?!?