เดือดจัด! “ผอ.องค์การเภสัชฯ” ให้ปากคำตร.มัด”หมอบุญ” ท้าเปิดที่มาวัคซีน 500 บาท ลั่น ไม่พูดความจริงไปสู้กันในชั้นศาล!?

1830

เดือดจัด! “ผอ.องค์การเภสัชฯ” ให้ปากคำตร.มัด”หมอบุญ” ท้าเปิดที่มาวัคซีน 500 บาท ลั่น ไม่พูดความจริงไปสู้กันในชั้นศาล!?

จากกรณีที่องค์การเภสัชกรรม เรื่องแจ้งความเอาผิด “นายลอย ชุนพงษ์ทอง นักคณิตศาสตร์และนักดาราศาสตร์ชื่อดัง ผู้ทรงคุณวุฒิสหวิทยาการราชบัณฑิตยสภา และ นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)” หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากการเผยแพร่ข้อมูลการจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์

ต่อมาหมอบุญ ได้เปิดเผยว่า ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ก็เป็นหลานศิษย์ของตน ตนและพ่อของนายอนุทินเรียนด้วยกันที่อัสสัมชัญเป็น 10 ปี คุณไม่มีงานทำหรือไงมาฟ้องร้อง ตอนนี้ทุกคนต้องการช่วยประเทศ พวกผมทำงานตี 3 ทุกคืนมาเดือน 1 เดือนแล้ว คุณก็ออกมาพูดสิว่า ตัวเลขเรื่องการซื้อวัคซีน เช่น โมเดอร์นา ประเทศอินโดนีเซียซื้อประมาณ 17-30 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยต้นทุนประมาณ 584 บาท แต่คุณขายเรา 1,100 บาท ก็ต้องแจกแจงมาว่ามีค่าอะไรบ้าง เพราะเงินนี้เป็นเงินที่เข้ารัฐบาล คุณได้เท่าไรเราไม่สนใจด้วย

ในส่วนเรื่องของคดีความ หมอบุญบอกว่า ตนทราบว่ามีการแจ้งข้อหาดังกล่าว ซึ่งตนพร้อมที่จะชี้แจงข้อมูลต่างๆ ที่เป็นข้อเท็จจริงในการจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นาต่อศาลขององค์การเภสัชกรรม และยืนยันว่าข้อมูลการจัดซื้อและราคาที่ตนเปิดเผยไปก่อนหน้านี้เป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด เอกสารบางอย่างหากไม่ได้อยู่ในชั้นศาลจะไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่หากอยู่ในชั้นศาลแล้วจะสามารถนำข้อมูลและเอกสารในการจัดซื้อขององค์การเภสัชเปิดเผยได้ว่า มีการจัดซื้อเท่าไร อย่างไร

ล่าสุดทางด้าน นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ตนได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วส่วน กรณีที่ นพ.บุญออกมาระบุว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้มีการเปิดเผยเอกสารนั้น นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมก็พร้อมที่จะพิสูจน์ความจริงในศาลอยู่แล้ว เพราะความจริงมีเพียงอันเดียว เขาก็ต้องพิสูจน์ความจริงด้วยว่า องค์การเภสัชฯ ซื้อวัคซีนโดสละ 500 กว่าบาทนั้นมาจากที่ไหน ซึ่งการซื้อนั้น ทางองค์การเภสัชฯ ซื้อต่อจากบริษัทซิลลิค ฟาร์ม่า จำกัด ตัวแทนของโมเดอร์นา

“เพราะฉะนั้นถ้าจงใจไม่พูดความจริง องค์การเภสัชฯ ก็พร้อมที่จะไปสู้กันในชั้นศาล และพร้อมที่จะเปิดเอกสารอยู่แล้ว เราจำเป็นต้องปกป้ององค์การเภสัชกรรม หากไม่มีการดำเนินการอะไรสังคมก็จะมองว่าองค์การเภสัชฯ ยอมรับในสิ่งที่เขาพูดอย่างนั้นหรือ”