ผู้รายงานพิเศษUNแฉอิสราเอล!?!ยึดดินแดนและขับไล่ชาวปาเลสไตน์จากบ้าน คืออาชญากรรมสงคราม ผิดกฎหมายสากล

1436

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่โลกจะตื่นรู้และ ควรให้อิสราเอลรับผิดชอบต่อนโยบายการรุกรานยึดครองตั้งถิ่นฐานอย่างต่อเนื่องในดินแดนปาเลสไตน์ ผู้รายงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติรายงานในที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ  ซึ่งทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากเจ้าหน้าที่ชาวยิวและนักเคลื่อนไหวหนุนยิวอิสราเอลอย่างกว้างขวาง

 

ไมเคิล ลิงค์(Michael Lynk) ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ UN ในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองบอกกับคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเมื่อวันศุกร์ที่ 8 ก.ค.2564ว่า อิสราเอลไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินตามนโยบายการตั้งถิ่นฐานในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออกที่ถูกยึดครองต่อไป โดยไม่ได้รับการยกเว้นโทษเพราะผิดกฎหมายสากล

แนวทางปฏิบัติดังกล่าวขัดต่อบรรทัดฐานสากลที่ห้ามไม่ให้ผู้ครอบครองอำนาจถ่ายโอนส่วนหนึ่งของประชากรไปยังดินแดนที่ถูกยึดครอง ลินก์กล่าว พร้อมเสริมว่าการตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลจึงเป็นการละเมิดอนุสัญญาเจนีวาครั้งที่สี่และธรรมนูญกรุงโรม

ผู้รายงานพิเศษกล่าวเสริมว่า “ในรายงาน ฉันสรุปว่าการตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลถือเป็นอาชญากรรมสงคราม” ประชาคมระหว่างประเทศไม่ควรอยู่เฉยอีกต่อไป ในการเผชิญกับการละเมิดอย่างต่อเนื่องเช่นนี้

เขากล่าวว่า “วันหนึ่งรัฐบาลอิสราเอลจะต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองว่า การยึดครองที่ดินของคนต่างด้าว และนำไปสู่การผนวกดินแดน แม้กระทั่งการแบ่งแยกสีผิวและความเป็นจริงของรัฐเดียวซึ่งสิทธิไม่เท่าเทียมกันอย่างมากมายนั้น ไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างสิ้นเชิง”

ลิงค์กล่าวว่าการรุกคืบตั้งถิ่นฐานต่อเนื่อง เพื่อรับประกันว่าดินแดนที่ถูกยึดครองจะยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอลตลอดไป กระทำโดยพฤตินัยเช่นนี้เป็นการขัดขวางการสร้าง“รัฐปาเลสไตน์อย่างแท้จริง” 

ผู้รายงานพิเศษได้นำเสนอแผนปฏิบัติการสำหรับประชาคมระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่การสนับสนุนการสอบสวนคดีอาญาระหว่างประเทศที่ถูกกล่าวหาของอิสราเอลไปจนถึงการจัดทำมาตรการ”ความรับผิดชอบ”เพื่อนำเทลอาวีฟ”ปฏิบัติตาม กฎหมายระหว่างประเทศ”

“เวลาสำหรับการวิพากษ์วิจารณ์การตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลได้ผ่านไปแล้ว” ลินก์กล่าว พร้อมแสดงความหวังว่าการค้นพบของเขาจะบังคับประชาคมระหว่างประเทศให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการยึดครองที่ผิดกฎหมายของอิสราเอลจะยังคงทำได้และจะไม่ต้องชดเชยค่าเสียหายอีกต่อไปหรือไม่?

และแน่นอนย่อมเกิดปฏิกิริยาโกรธแค้นของอิสราเอล ต่อสหประชาชาติในกรุงเจนีวา นักการทูตชาวอิสราเอลปฏิเสธรายงานของลินก์และว่า “รายงานล่าสุดพูดด้านเดียวและลำเอียงต่ออิสราเอล”

การตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง ถูกมองว่าผิดกฎหมายทั้งโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ตลอดจนองค์กรและประเทศอื่นๆ อีกหลายแห่ง อิสราเอลโต้แย้งโดยเน้นย้ำถึงความเชื่อมโยงในพระคัมภีร์และประวัติศาสตร์กับแผ่นดิน ตลอดจนความต้องการด้านความมั่นคงของตนเอง

ปัจจุบัน มีการตั้งถิ่นฐานประมาณ 300 แห่งในกรุงเยรูซาเลมตะวันออกและ ฝั่งตะวันตกที่ถูกยึดครองมีผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลมากกว่า 680,000 คน ตามรายงานของลินก์ และการขับไล่ชาวปาเลสไตน์จากบ้านพักและที่ดินยังดำเนินอยู่ในทุกวันนี้