เปิดประวัติ “ดร.รักไทย” มือดีลไฟเซอร์ทิพย์ เคยจัดหาหน้ากากให้ทีมแพทย์-มือชงปฏิรูปพลังงาน เคยขึ้นเวทีเสวนากปปส.

4150

เปิดประวัติ “ดร.รักไทย” มือดีลไฟเซอร์ทิพย์ เคยจัดหาหน้ากากให้ทีมแพทย์-มือชงปฏิรูปพลังงาน เคยขึ้นเวทีเสวนากปปส.

จากกรณีที่ ดร.รักไทย บูรพ์ภาค อนุกรรมาธิการประจำคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพลังงาน วุฒิสภา และอาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาศรีนครินทรวิโรฒ อดีตนักศึกษา MIT ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชื่อ Ruktai Ace Prurapark กรณีโควตาวัคซีน ไฟเซอร์ “Pfizer” 1.5 ล้านโดส ว่าวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค คือ สหรัฐอเมริกาต้องการมอบให้กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ก่อน โดยระบุข้อความว่า

“เข้าใจความกังวลของทุกคนเลยนะครับผม เมื่อกี้เพิ่งคุยโทรศัพท์เสร็จกับทีมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (Members of the U.S. Congress) ของสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้วนะครับผม โควตา Pfizer 1.5 ล้านโดสที่บริจาคนี้นั้น ทาง Members of the U.S. Congress/White House จะระบุวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค คือ สหรัฐอเมริกาประสงค์จะให้กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ก่อนนะครับผม วัตถุประสงค์จะได้ชัดเจนครับ แล้วเดี๋ยวถ้ามีเอกสารไหนเปิดเผยได้ ผมจะนำมาถ่ายให้ดูนะครับผม ขอขอบคุณกลุ่มคนไทยในสหรัฐอเมริกาที่ช่วยประสานให้ด้วยนะครับ นี่แหละครับ คนไทยไม่ทิ้งกันครับผม ซึ้งใจน้ำใจคนไทยทุกคนเลยครับ”

ต่อมาทางด้านของ นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำประเทศไทย มีสารเกี่ยวกับการบริจาควัคซีนของสหรัฐว่า ตามที่สถานทูตสหรัฐ ออกประกาศว่า เรามีความภูมิใจที่จะบริจาควัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพให้กับประเทศไทย โดยไม่มีเงื่อนไข ตามคำมั่นสัญญาของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อช่วยพันธมิตรของเราต่อสู้กับโควิด-19 ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในความสัมพันธ์ของเราสองประเทศ และเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงพันธไมตรีอันยาวนานของเรา

“สหรัฐภูมิใจที่ได้ช่วยไทยต่อสู้โรคระบาดไวรัส ผมขอชื่นชมความพยายามของบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาลและอาสาสมัครสาธารณสุขของไทยที่ทำงานเพื่อควบคุมการระบาด” อุปทูตฮีธ ระบุและกล่าวว่า ผมขอเน้นย้ำว่า ข้อตกลงดังกล่าว เป็นข้อตกลงแบบรัฐต่อรัฐ ไม่มีคนกลางในการเจรจา ทำเนียบขาว กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ และสถานทูตทำงานโดยตรงกับกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขไทยในการบริจาควัคซีนครั้งนี้ เรากำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อให้คนไทยได้รับวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ผมหวังว่า จะมีข่าวดีแจ้งให้กับทุกท่านทราบในเร็ววันนี้ ประชาชนอเมริกันจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับชาวไทยตลอดไป

ต่อมาทางด้านของ ดร.รักไทย ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว หลังจากมีทัวร์ลงว่า เป็นการดีลวัคซีนทิพย์ เพื่อเคลมผลงานโจมตีการทำงานของรัฐบาล ยันเป็นแค่ส่วนหนึ่งในการประสานงานสหรัฐฯบริจาคไฟเซอร์ให้ไทย ไม่ใช่เป็นคนดีล เพราะต้องทำรัฐต่อรัฐอยู่แล้ว จุดเริ่มต้นมาจากการได้ฉีดวัคซีนที่นิวยอร์ก เมื่อเดือนพฤษภาคม และเมื่อได้รับการฉีดแล้ว เห็นว่า มีวัคซีนเหลือ จึงอยากนำกลับมาฉีดให้พี่น้องชาวไทยให้มากที่สุด แต่จากการติดต่อ แต่ละมลรัฐจึงทราบว่าต้องติดต่อผ่านหน่วยงานกลางซึ่งก็คือ FEMA (Federal Emergency Management Agency) แต่ ณ เวลานั้นสหรัฐอเมริกายังไม่มีนโยบายช่วยเหลือส่งวัคซีนออกต่างประเทศ

จนกระทั่งประมาณต้นเดือนมิถุนายน President Joe Biden มีนโยบายประกาศช่วยเหลือ 80 ล้านโดส และ Lot แรก 25 ล้านโดส ซึ่งก็จะเป็น Lot ที่บริจาคนี้ จึงได้ประสานติดต่อทุก Connection ที่มี ไม่ว่าจะในฐานะคนอเมริกา หรือ ในตำแหน่ง “อนุกรรมาธิการ วุฒิสภา” เอง เพื่อให้เราได้ Vaccine lot โดสบริจาคนี้ การดีลต้องทำไปเรื่อยๆติดต่อไปเรื่อยๆทุกวัน ได้คุยกับผู้บริหาร อดีตผู้บริหารของประเทศสหรัฐอเมริกา แจ้งว่าอยากนำมาให้บุคลากรทางการแพทย์ก่อน และรวมถึงเด็กอายุ 12-18 ปี และพิจารณากลุ่มอื่น ลั่นขอโทษหากข้ามหน้าข้ามตาหน่วยงานไหนไป ไม่ได้มีเจตนาหักหน้าใคร

สำหรับ ดร.รักไทย บูรพ์ภาค อนุกรรมาธิการประจำคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพลังงาน วุฒิสภา และอาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาศรีนครินทรวิโรฒ อดีตนักศึกษา MIT เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ สาขาวิชาเทคโนโลยีพลังงาน

ย้อนไปเมื่อปี 2555 ดร. รักไทย บูรพ์ภาค ในวัย 28 ปี เขาได้รับเลือกจาก สถาบันเอ็มไอที รัฐแมสซาชูเสตต์ ให้เป็น อาจารย์สอนระดับปริญญาตรี และได้รับเลือกเข้าทำงานใน กองทุนพลังงานของธนาคารโลก ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

ต่อมาในปี 2557 ดร.รักไทย ได้กล่าวในเวทีเสวนาของ กปปส.ว่าน้ำมันแพงเพราะภาษี ส่วนราคาหน้าโรงกลั่นไม่ได้แพง ซึ่งเป็นคำตอบที่เหมือนกับ ปตท. ทำให้หลายคนต้องตั้งข้อสงสัยในจุดยืน และยังได้มีการร่างเสนอแนวทางปฏิรูปพลังงานไทย มองภาพรวมเป็น ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เพื่อจะช่วยดึงราคาน้ำมันภายในประเทศให้ถูกที่สุด โดยที่องค์กร ปตท.ใหญ่ อยู่ได้และประชาชนรับได้

ในปี 2563 ที่มีการระบาดของเชื่อโควิด-19 ใหม่ ทางด้านของดร.รักไทย ได้มีทำการทดลองหน้ากากอนามัย 5 ประเภทที่ใช้กันอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะหน้ากากที่รัฐบาลนำเข้าจากเวียดนามมาแจกให้บุคคลากรทางการแพทย์ในไทยนั้น สามารถป้องกัน Covid-19 ได้หรือไม่ ทั้งยังได้ทำโครงการจัดหาหน้ากากผ้าราคาถูกในขณะที่ท้องตลาดราคาแพงส่งให้โรงพยาบาลที่มีความต้องการต่างๆ ขายในราคาถูกบางส่วนและบริจาคไปด้วย และส่งไปช่วยคนไทยในต่างประเทศด้วย