หลังจากมีประเด็นเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อมากขึ้นในพื้นที่กทม. และปริมณฑล ซึ่งวันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 7,058 ราย และเสียชีวิต 75 ราย ท่ามกลางการทวงถามความคืบหน้าจากรัฐบาลในการเร่งฉีดงัคซีนในพื้นที่สีแดง ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เป็น 10 อันดับของประเทศ
ล่าสุดได้มีเอกสารเปิดเผยการฉีดวัคซีนแต่ละเขต โดยพบว่าในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ไม่ได้อยู่ในโซนสีแดง และมีผู้ติดเชื้อในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่เกิน 100 ราย ประชากรได้รับการฉีดวัคซีนแล้วกว่า 87,000 ราย ของซิโนแวค และฉีดวัคซีนจากแอสตราอีก 100 คน โดยระบุในเอกสารว่าเป็นช่วงเดือน พ.ค. 2564
หากย้อนไปดูสถิติตอนนั้น ในช่วงเดือนพ.ค. 2564 ยกตัวอย่างวันที่ 10 พ.ค. 2564 จะพบว่าจังหวัดบุรีรัมย์มีผู้ติดเชื้อเพียง 6 ราย ซึ่งสวนทางกลับการฉีดวัคซีน จนมียอดสูงสุดอันดับ 6 ของประเทศไทย เมื่อเทียบกับกทม. ที่เป็นพื้นที่สีแดง ยอดติดเชื้อสูง มีประชากรเยอะ ยังสามารถลุยฉีดวัคซีนได้ที่ 70,000 กว่าโดส แน่นอนว่าจึงทำให้ประชาชนเกิดความเคลือบแคลงใจ ถึงการจัดสรรโควต้าวัคซีน ว่าทำไมบุรีรัมย์ถึงได้ฉีดในจำนวนมาก
ทั้งนี้พื้นที่บุรีรัมย์ ล้วนมีแต่ส.ส.ที่ชนะการเลือกตั้งจากพรรคภูมิใจไทย ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งเรื่องนี้นายอนุทิน ก็เคยออกมาปฏิเสธแล้วว่า ไม่ได้เลือกถมวัคซีนไว้ที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยระบุว่า “ผมเป็น ส.ส.บุรีรัมย์ แต่ก็เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทย ไม่ทำอะไรมักง่ายแบบนั้น เพราะทุกคนต่างก็รู้และจับจ้องอยู่แล้วว่าพื้นที่นั้นเป็นอย่างไร ถ้าทำแบบนั้นจริง ๆ เท่ากับฆ่าตัวตาย การฉีดของบุรีรัมย์ไม่ได้แตกต่างจากจังหวัดอื่น”
ตอนนั้นผู้สื่อข่าว จึงได้ถามอีกว่า เพื่อความโปร่งใสตรวจสอบได้สามารถจะเปิดเผยตัวเลขการจัดสรรวัคซีนไปยัง จ.บุรีรัมย์ได้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตนมีหน้าที่ในการดูระดับนโยบายไม่ได้มีหน้าที่ในการลงไปดูตัวเลขในรายจังหวัดขนาดนั้น จึงไม่ทราบ จนล่าสุดเกิดประเด็นเรื่องนี้ ที่มีการเผยแพร่ตัวเลขเอกสารการฉีดวัคซีนแต่ละเขตจังหวัด และบุรีรัมย์มีตัวเลขที่แตกต่างจากจังหวัดอื่นมาก ๆ
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จึงกลายเป็นประเด็นให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากในพื้นที่ 10 จังหวัดโซนสีแดง มีความเสี่ยงมาก และเห็นควรจะปรับแผนระดมฉีดวัคซีนให้จังหวัดกลุ่มเสี่ยงก่อน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายไปยังจังหวัดอื่น ๆ
ทั้งนี้ตามเอกสารที่ยึดจากวันที่ 20 พ.ค. 64 นายอนุทิน ได้ชี้แจงแล้วว่า ไม่ได้มีการถมวัคซีนในจังหวัดใด จังหวัดหนึ่ง แต่ยอดการจัดสรรในช่วงนั้น ต้องยอมรับว่า พื้นที่กทม. สมุทรสาคร ตาก และเชียงใหม่มีการระบาดหนัก จึงได้ยอดโควต้าฉีดวัคซีนเยอะตามไปด้วย แต่จังหวัดบุรีรัมย์ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ยอดฉีดวัคซีนกลับสูงสวนทางสถานการณ์จริง ส่วนปัจจุบันช่วงเดือนก.ค. 2564 เทียบตาม 10 อันดับ จังหวัดในโซนพื้นที่สีแดง ยังมีอีกหลายพื้นที่ในโซนภาคใต้ที่ได้รับยอดฉีดวัคซีนน้อย จึงทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขมีการจัดสรรแบ่งวัคซีนอย่างไร เพราะไม่สอดคล้องกับความรุนแรงในจังหวัดนั้น ๆ อย่างมาก
