ไม่นึกถึงประโยชน์สังคม!! “จ่าพิชิต” ดราม่าแอดดิก เห็นแก่ตัว ไม่พอใจ “หมอนิธิ” ประกาศลั่นเอาใจสามกีบ ไม่ประชาสัมพันธ์ ให้สถาบันจุฬาภรณ์

1842

หลังจากที่ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อช่วงค่ำวันที่ 6 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา ระบุถึงความจริงในอีกมุมว่าขอค้านการฉีดเข็มที่ 3 ให้แพทย์ ท่ามกลางเสียงที่เห็นด้วยและกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก

โดยระบุข้อความ “ด้วยความเคารพและเห็นใจความกลัวการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว จนมีประกาศกันว่าจะให้บุคลากรด่านหน้าได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หลังจากได้วัคซีนไปครบแล้วสองโดส” พร้อมให้เหตุผลว่า ยังมีหลายคนไม่ได้ฉีดวัคซีนในเข็มแรก และการที่จะนำมาฉีดให้แพทย์นั้น หลายแสนโดสที่จะได้รับบริจาคให้พวกเราส่วนหน้ามากระตุ้นภูมิ ถ้าจะฉีดให้คนไทยที่ยังไม่เคยได้วัคซีนได้ สามแสนห้าหมื่นคน จะสามารถช่วยชีวิตไว้ได้ สามสี่พันคน ทีเดียว ดีกว่าไปหาทางเพิ่มเตียงไหมครับ

ผมไม่รู้ความตั้งใจของที่มาของการบริจาคมีเจตนาอย่างไรเล็งเห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำที่จะเกิดขึ้นไหม หรือเป็นเพียงแค่การตลาดบริษัทยา ปกติผมไม่ค่อยชอบค้านอะไรตรง ๆ แบบนี้ แต่คราวนี้ขอผิดกติกาตัวเอง สงสารคนไทยอีก หลายสิบล้านคนที่ยังไม่ได้วัคซีน ผมขอค้านไม่เห็นด้วยในการให้ฉีดกระตุ้นเข็มสามในเวลานี้ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีนครับ ถ้าใครจะได้รับการกระตุ้นเข็มที่สามควรต้องอยู่ในการศึกษาวิจัยที่เป็นระบบเท่านั้น ไม่เช่นนั้น ท่านเห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกเกินไป พร้อมลงท้ายว่า ตนเองแสดงความเห็นส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับตำแหน่งและองค์กรสถาบันจุฬาภรณ์ ซึ่งทำให้มีกลุ่ม 3 กีบเข้ามาด่าทอและวิจารณ์คุณหมอจำนวนมาก

ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊กของหมอชื่อดัง อย่าง Drama-addict ได้เคลื่อนไหว โพสต์ข้อความระบุว่า “โพสต์นี้ถึงทาง จนท ประชาสัมพันธ์ของสถาบันจุฬาภรณ์ครับ ขออภัยทางสถาบันจุฬาภรณ์ด้วยนะครับ จากนี้ไปขอแจ้งทางสถาบันว่า จะไม่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลใด ๆ จากทางสถาบันอีกต่อไป เพราะทัศนคติ เรากับทางผู้บริหารของท่านคงไปด้วยกันไม่ได้ ขออภัยทาง จนท. ประชาสัมพันธ์ของสถาบันที่เราติดต่อกันด้วยดีมาโดยตลอด แต่ทำใจไม่ได้จริง ๆ ครับ ไว้โอกาสหน้าถ้ามี “ความเปลี่ยนแปลง” แล้วติดต่อมาอีกทีนะครับ”

จนได้มีคอมเม้นต์ที่สนับสนุนเพจดังกล่าว เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก พร้อมพาดพิงไปถึงสถาบันจุฬาภรณ์ว่า ให้กอดเก็บซิโนฟาร์มไว้คนเดียวเลย อย่าไปยุ่ง อีกทั้งยังมีการล่าแม่มด ตามตัวกันว่าคนที่เสนอไม่ให้หมอฉีดไฟเซอร์ จนเป็นหมอนิธิหรือไม่ ทั้งนี้ยังมีความคิดเห็นอีกส่วนมองว่า เข้าใจว่าต่างคนต่างคิด คิดต่างมุมกันได้ แต่ทำไมต้องมาด่าทอกัน ช่วยกันหาทางออกไม่ดีกว่าหรอ

อ่านแล้วก็ไม่เห็นด้วยกับหมอ แต่มันก็ไม่เห็นจะต้องมาด่ากัน ต่างคนก็ต่างมุมมอง มุมมองใครมีประโยชน์กว่าก็เลือกเอาอันนั้นมาปฏิบัติ ในเรื่องนี้มันก็เป็นการมองคนละมุม มุมหนึ่งมองว่า ถ้าหมอพยาบาลได้ฉีดก่อนก็จะช่วยหมอพยาบาลให้ลดความเสี่ยงได้ ส่วนอีกมุมก็มองว่าถ้าฉีดให้คนที่ยังไม่เคยได้วัคซีนก่อนจะช่วยลดคนไข้ได้…….คือถ้าถกกันแบบมีอารยะ อันไหนดีกว่าก็เอาฉันนั้น ไม่เห็นต้องมาด่า