ฝ่ายค้านได้ที! พท.ฉวยโอกาสยื่นศึกซักฟอกรบ. สิงหานี้ เชื่อสภาฯจะเห็นด้วย! ย้อนเพิ่งอภิปรายต้นปีโหวตแพ้รัฐราบคาบ!
จากสถานการณ์ภายในรัฐบาลที่ขณะที่ถือว่ากำลังระส่ำระส่าย เนื่องจากถูกโจมตีจากหลายๆด้าน ตั้งแต่มีการชุมนุมขับไล่นายกฯ มีการโจมตีเรื่องของการบริหารและการแก้ไขปัญหาและจัดการเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด19 รวมไปถึงล่าสุดยังมีเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่โรงงานสารเคมี บริษัท หมิงตี้ เคมิคอล จำกัด ที่รัฐบาลก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก
ล่าสุด วันนี้ (6 กรกฎาคม 2564) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยเห็นตรงกันที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ในเดือนส.ค.นี้ คาดว่าจะอภิปรายก่อนปิดสมัยประชุมในวันที่ 18 ก.ย. โดยจะประสานงานกับพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ทั้งนี้เบื้องต้นได้แจ้งแต่ละพรรคทราบแล้ว และเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญคือไม่ต้องการปล่อยให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อไป เพราะเกรงจะเกิดความเสียหายมากขึ้น อีกทั้งก่อนหน้านี้พรรคฝ่ายค้านเคยเสนอแนวทางการแก้ปัญหาต่อรัฐบาลไปแล้ว แต่รัฐบาลไม่ได้ดำเนินการจนส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องโควิด-19 และวัคซีนที่เป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน
เมื่อถามว่า การอภิปรายลงมติที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านยังเป็นรองเรื่องเสียงในสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ครั้งนี้ประชาชนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งเศรษฐกิจและมีผู้เสียชีวิต เชื่อว่าหากสภาฯได้ฟังเหตุผลการอภิปราย สภาฯจะเห็นด้วย
โดยก่อนหน้านี้ มีการให้สมาชิกสภา ส.ส. โหวตลงมติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 รัฐมนตรีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ภายหลังจากผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มา 4 วัน ระหว่าง 16-19 ก.พ. 2564 โดยจะต้องได้เสียง ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งมากกว่า 244 เสียง โดยวันนี้ มี ส.ส.มาอยู่ในห้องประชุมเพื่อโหวตลงมติ 481 คน จากจำนวนสมาชิก 487 คน จึงถือว่าครบองค์ประชุม โดยจะมีการลงมติไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคล ด้วยวิธีการเสียบบัตร 10 รัฐมนตรี รอดจากศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีเสียงข้างมาก ลงมติ “ไว้วางใจ” รัฐบาล
