สิงคโปร์ผวา!?!หนุ่ม16 ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ฯ กว่าสัปดาห์เกิดหัวใจหยุดเต้น ซ้ำเติมวิตกกรณีเด็กชาย 13 ปีสหรัฐเสียชีวิตหลังฉีดไฟเซอร์

2253

รัฐบาลสิงคโปร์กำลังตรวจสอบ กรณีเด็กชายวัย 16 ปี มีภาวะหัวใจหยุดเต้น เกือบ 1 สัปดาห์ หลังได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค โดยผู้ป่วยมีประวัติออกกำลังกายก่อนเกิดอาการ ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงอันตรายของวัคซีนประเภท mRNA เพราะก่อนหน้านี้มีเด็กสหรัฐวัย 13 ปีฉีดวัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคแล้วเสียชีวิต และยังไม่มีคำตอบจาก CDC สหรัฐ

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากประเทศสิงคโปร์ ว่ากระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ออกแถลงการณ์ เมื่อวันจันทร์ ว่ากำลัง “ตรวจสอบอย่างละเอียด” กรณีเด็กชายวัย 16 ปีคนหนึ่ง เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หลังรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค

เบื้องต้นมีการให้ข้อมูลว่า เด็กชายคนดังกล่าวเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา และอยู่ภายใต้กระบวนการสังเกตอาการจนครบกำหนด 30 นาที ซึ่งไม่มีภาวะผิดปกติ แพทย์และพยาบาลประจำสถานพยาบาลจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้

ต่อจากนั้นตลอดระยะเวลา 5 วัน เด็กชายดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติ โดยไม่มีความผิดปกติใด จนกระทั่งถึงวันที่ 3 ก.ค.เด็กชายเป็นลมหมดสติ หลังเมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกัน ไปยกน้ำหนักที่โรงยิมแห่งหนึ่ง ปัจจุบันเด็กชายอยู่ภายใต้ความดูแลอย่างใกล้ชิด ของคณะแพทย์ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติ ( เอ็นยูเอช )

เบื้องต้นมีการสันนิษฐานว่า อาจเป็นเพราะการยกน้ำหนักในระดับที่ไม่สมดุลกับน้ำหนักตัว และกระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ออกคำเตือน ให้ชายอายุต่ำกว่า 30 ปี หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หลังรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

ก่อนหน้านี้ที่สิงคโปร์ แพทย์กลุ่มหนึ่งเขียนจดหมายเปิดผนึกส่งถึงคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนโควิด-19 ของสิงคโปร์ เรียกร้องให้ระงับฉีดวัคซีน mRNA ให้แก่เยาวชน จนกว่าทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) จะให้ความชัดเจนถึงสาเหตุของการเสียชีวิตของเด็กชายวัย 13 ขวบรายหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีน mRNA แต่ไม่ระบุว่าเป็นของ “ไฟเซอร์” หรือ “โมเดอร์นา”

 

ทางคณะแพทย์ที่ร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว เร่งเร้าว่าซีดีซีควรใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ในการแสดงข้อมูลที่หนักแน่นและชัดเจนเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเด็กชายรายดังกล่าว และความเป็นไปได้ที่มันอาจเชื่อมโยงกับการฉีดวัคซีน พวกเขาระบุว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นเร่งด่วน เพราะสิงคโปร์เป็นหนึ่งชาติกำลังเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีน mRNA เชิงรุกมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งคาดหมายว่าจนถึงตอนนี้มีเด็กผู้ชายฉีดวัคซีนไปแล้วอย่างน้อย 200,000 คน

ทางการสิงคโปร์ยังคงดำเนินการฉีดวัคซีน mRNA และรอคำชี้แจงสหรัฐจนเกิดเหตุล่าสุดดังกล่าว

ในวันเดียวกัน สำนักข่าวอาร์ทีรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลเปิดเผยว่าวัคซีนป้องกันโคโรนาไวรัสของไฟเซอร์มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อลดลงเหลือ 64% ท่ามกลางการแพร่กระจายของตัวแปรเดลต้าในอิสราเอล  ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังชั่งน้ำหนักความจำเป็นในการฉีดเข็มที่ 3และข้อจำกัดใหม่ๆ

กระทรวงสาธารณสุขรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อตามอาการลดลงเหลือ 64% เมื่อวันจันทร์ โดยสังเกตว่าการลดลงนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของตัวแปรเดลต้าที่แพร่ระบาดมากขึ้นทั่วประเทศอิสราเอล 

ในขณะที่เกือบ 60% ของประชากรอิสราเอล 9.3 ล้านคนได้รับวัคซีนไฟเซอร์อย่างน้อยหนึ่งครั้ง ซึ่งช่วยลดการติดเชื้อในแต่ละวันจากระดับสูงสุดที่ราว 10,000 ในเดือนมกราคม ปัจจุบันผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ได้รับวัคซีน เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่าครึ่งที่รายงานเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการศึกษาเพิ่มเติม 

สัปดาห์ที่ผ่านมาอย. สหรัฐฯได้เพิ่มคำเตือน เสี่ยงกล้ามเนื้อ-เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หลังฉีดวัคซีน Pfizer-Moderna 

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) มีคำสั่งให้บริษัทผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 อย่าง Pfizer และ Moderna เพิ่มคำเตือนในเอกสารกำกับยาถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอาการไม่พึงประสงค์อย่าง กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) หรือ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (Pericarditis) ซึ่งจะแสดงอาการในช่วงไม่กี่วันหลังจากเข้ารับวัคซีนโดสที่ 2 ย้ำยังคงมีความเสี่ยงน้อยมากๆ

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) รายงานว่า พบรายงานอาการไม่พึงประสงค์ทั้ง กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ถึงวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา พบผู้มีอาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าวราว 12.6 รายต่อวัคซีน Pfizer หรือ Moderna จำนวน 1 ล้านโดส (0.0000126%) โดยอาการส่วนใหญ่มักพบผู้ที่อายุต่ำกว่า 30 ปีหลังที่เข้ารับวัคซีนโควิด-19 โดสที่ 2 

ทางด้าน เจเน็ต วูดค็อก รักษาการเลขาธิการ FDA สหรัฐฯ ระบุว่า ความเสี่ยงของโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมากๆ เมื่อเทียบกับจำนวนวัคซีนโควิด-19 ที่ฉีดไป ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ยังคงมีมากกว่าความเสี่ยงติดเชื้อโควิด