ชำแหละ”หมอไม่ทน” ผุดแคมเปญปลุกระดม ติดโบว์-สวมเสื้อดำทั่วปท.! พบเคลื่อนไหวตาม”สามกีบ” สงสัยไม่มีตัวตนอยู่จริง?

2153

ชำแหละ”หมอไม่ทน” ผุดแคมเปญปลุกระดม ติดโบว์-สวมเสื้อดำทั่วปท.! พบเคลื่อนไหวตาม”สามกีบ” สงสัยไม่มีตัวตนอยู่จริง?

จากกรณีทาง กลุ่มหมอไม่ทนได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง ร่วมแสดงพลัง ติดโบว์ดำ สวมเสื้อดำทั้งประเทศ วันพุธที่ 7 กรกฏาคม 2564 โดยทางเพจ We, The People ได้โพสต์ข้อความของกลุ่มหมอไม่ทนนัดทำกิจกรรม ว่า จากเหตุการณ์เอกสารการประชุมเฉพาะกิจร่วมระหว่างคณะกรรมการด้านวิชาการตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค คณะทํางานวิชาการด้านบริหารจัดการและศึกษาการให้บริการวัคซีน ซึ่งเป็นการประชุมเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ในมติไม่ได้มีพูดถึงการฉีดวัคซีน Pfizer เพื่อเป็นการกระตุ้นเข็ม 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเป็นด่านหน้า แม้จะได้รับวัคซีนครบแล้วแต่ยังมีการติดเชื้อ COVID-19 อยู่ ยิ่งไปกว่านั้น ประชาชนส่วนมาก ยังไม่ได้รับวัคซีนเเม้แต่เข็มแรก

หมอไม่ทนจึงขอเชิญชวนทั้งประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ ร่วมสวมเสื้อดำ/ติดโบว์ดำ
ในวันพุธที่ 7 กรกฏาคม 2564 เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต ผู้ที่ติดเชื้อ COVID19 และผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด และยื่นข้อเรียกร้องต่อนายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ ผอ. ศบค. ดังนี้
1. นำเข้าวัคซีน mRNA ให้ได้เร็วที่สุด เเละนำมาใช้เป็นวัคซีนหลักในการป้องกันการระบาด โดยจะต้องเปิดเผยขั้นตอนการดำเนินการให้ประชาชนได้รับทราบ
2. นำวัคซีน mRNA เป็นวัคซีนฉีดกระตุ้นเข็ม 3 แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ต้องการฉีดทุกท่าน
3. เปิดเผยสัญญาการสั่งซื้อวัคซีน AstraZeneca และ Sinovac รวมถึงวัคซีนอื่นๆ ที่ทางรัฐบาลไทยจะทำสัญญาในอนาคต เพื่อทำให้เกิดความโปร่งใส และพิสูจน์ให้ประชาชนได้ทราบว่ารัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหาการระบาดอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตน
4. เปิดเผยบันทึกการประชุมในการประชุมเรื่องวัคซีนและการบริหารจัดการการระบาด COVID-19 เป็นข้อมูลข่าวสารสาธารณะทั้งหมด
5. COVID-19 สามารถแพร่กระจายผ่านอากาศ การสวม N95 จึงไม่เพียงพอต่อการป้องกันการติดเชื้อ รัฐจำเป็นต้องจัดหา FFP3 หรือ N99 เพื่อป้องกันการติดเชื้อในบุคลากรทางการแพทย์
ทุกนาทีที่ล่าช้า คือชีวิตของประชาชน เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน พวกเราในฐานะบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนกำลังจับตาดูการทำงานของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด
ต่อมาทางด้าน นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มคณะราษฎร ได้แชร์ข้อความของทางเพจ We, The People ถึงกิจกรรมดังกล่าว พร้อมกับระบุข้อความว่า แต่งดำกันครับ วันพุธนี้
อย่างไรก็ตาม หลายคนก็เกิดความสงสัยและตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มหมอไม่ทนนั้น จะเป็นกลุ่มที่เป็นแนวร่วมของสามกีบหรือกลุ่มคณะราษฎรหรือไม่ หากย้อนไปก่อนหน้านี้ กลุ่มหมอไม่ทน ก็ได้มีการจัดกิจกรรมหลายอย่าง ซึ่งทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นการโจมตีการทำงานของรัฐบาลหรือไม่?
ย้อนไปเมื่อวันที่ 25 เมษายน 64 “หมอไม่ทน” ได้ผุดแคมเปญ ล่ารายชื่อไล่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จี้ให้ลาออก เพื่อให้ผู้ที่มีความสามารถ มีความเหมาะสมมากกว่าเข้ารับตำแหน่ง หลังจากไม่มีความสามารถมากพอ ในการควบคุมดูแลการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ได้  ซึ่งมีผู้ร่วมลงชื่อเป็นจำนวนมาก ล่าสุด ทะลุ 5 หมื่นรายชื่อ ได้ถูกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ระงับเนื้อหาในหน้าดังกล่าว โดยชี้ว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2550

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 64 หมอไม่ทน ก็ได้ผุดแคมเปญ โควิดอินเดียมาแล้ว แอฟริกามาแล้ว วัคซีนตัวอื่นมาวันไหน?

จากการที่หมอไม่ทน ร่วมกับประชาชน ส่งเสียงถามถึงวัคซีนตัวอื่น นอกจาก Sinovac และ Astrazeneca ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 มีการตอบกลับจากทางองค์การเภสัชดังนี้

“…วัคซีนยี่ห้อที่จะจัดหามาในช่วงแรกนี้คือ Moderna ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนไปเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งยังต้องมีรายละเอียดในการดำเนินการจัดหาอีกหลายขั้นตอน และอยู่ในระหว่างที่สมาคมโรงพยาบาลเอกชนรวบรวมจำนวนความต้องการเบื้องต้นก่อนดำเนินการในขั้นตอนต่อไป โดยการฉีดวัคซีนทางเลือกนี้ผู้รับบริการจะเป็นผู้รับผิดชอบจ่ายค่าใช้จ่ายให้แก่โรงพยาบาลเอกชนเอง”

ในสภาวะฉุกเฉินที่อยู่บนความเป็นตาย หากความล่าช้าทางระบบราชการเป็นสาเหตุที่ทำให้การเข้าถึงวัคซีนต้องโดนชะลอออกไป ระบบทั้งหมดจะต้องถูกแก้ไขทันที

หมอไม่ทนเรียกร้องให้องค์การเภสัช ชี้แจงขั้นตอนการดำเนินงานทั้งหมด ว่าประกอบไปด้วยขั้นตอนใดบ้าง เรากำลังอยู่จุดไหนของการจัดหาวัคซีน องค์การเภสัชจะต้องตอบประชาชนได้ว่าวัคซีนตัวอื่นจะได้ประมาณเดือนใด วันที่เท่าไหร่ และถ้าเกิดความล่าช้า องค์การเภสัชจะต้องชี้แจงต่อประชาชนว่าเพราะเหตุใด

ท่ามกลางข่าวการระบาด COVID19 สายพันธุ์รุนแรงครบทุกสายพันธุ์ ทั้งสายพันธุ์อินเดีย และล่าสุดแอฟริกา ประชาชนส่วนมากกลับไม่รู้ว่าจะได้ฉีดวัคซีนเมื่อไหร่ ในขณะคนที่ได้สิทธิลงชื่อจองวัคซีนแล้ว ต้องเฝ้าลุ้นวันต่อวันว่าจะได้ฉีดวัคซีนตามกำหนดหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งหมอไม่ทนและประชาชนยอมรับไม่ได้ เพราะทุกวันที่ล่าช้า คร่าชีวิตประชาชนไปทุกวัน เราต้องการวัคซีนที่มีข้อมูลแล้วว่าจะปกป้องประชาชนจากไวรัสสายพันธุ์รุนแรงได้ และวัคซีนจะต้องถูกแจกจ่ายให้เร็วที่สุด หมอไม่ทนจึงเรียกร้องให้องค์การเภสัช ชี้แจงให้ชัดเจนต่อประชาชนว่าแผนในการนำวัคซีนตัวอื่นเข้าเป็นอย่างไร และกำหนดภายในวันใด

อย่างไรก็ตาม กลุ่มหมอไม่ทน มีการจัดแคมเปญล่าหลายครั้ง โดยเป็นการสื่อสารทางเพจของกลุ่มแนวร่วมคณะราษฎร และมีแกนนำหลายคนก็ได้แชร์ข้อความกระจายข่าว ซึ่งกลุ่มหมอไม่ทน ได้เปลี่ยนมาจากชื่อ ภาคีบุคลากรสาธารณสุข จากการตรวจสอบในกลุ่มภาคีบุคลากรสาธารณสุข มีบัญชีอยู่ในทวิตเตอร์ @PHassociationTH ใช้ชื่อว่า ภาคีบุคลากรสาธารณสุข มีการเคลื่อนไหวไปในแนวทางเดียวกันกับกลุ่มคณะราษฎร โดยกลุ่มดังกล่าว ได้บอกว่า กลุ่มนี้ เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของบุคลากรสาธารณสุขซึ่งมีแนวคิดแบบประชาธิปไตย เพื่อเป็นเสียงสะท้อนในด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับการแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศ โดยยึดหลักความถูกต้อง และข้อเท็จจริงตามหลักฐานทางการแพทย์ เป้าหมายหลัก เพื่อนำพาไปสู่ประเทศที่มีความก้าวหน้าต่อไป