“หมอเหรียญทอง” ประกาศเคียงข้าง “บิ๊กตู่” ลั่นใครคิดด่าทอ ให้เลิกคบผมได้ “อดีตรองอธิการฯมธ.” งัดความจริงฟาด 3 กีบ ทำไมวันนี้ถึงเห็นใจ “นายกฯ”!?

2904

หลังจากที่มีกระแสโจมตีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยหยิบยกเรื่องคลิปพูดปล่อยมุก ชู 2นิ้วสู้ ๆ และพูดว่า “นะจ๊ะ” มาวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือด ว่าไม่มีภาวะผู้นำ ทำตัวไม่เหมาะสม จนกลุ่มคนดังของฝั่งม็อบ 3 นิ้ว ก็ออกมาร่วมวงโจมตีด้วย บางรายก็ด่าหยาบ สาปแช่ง จนเกินขอบเขตไปไกล

ล่าสุดทางด้านหมอเหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้เคลื่อนไหวโพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ผมไม่เคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เคยทำงานกับท่าน ไม่เคยได้พบหน้าพบปะหรือพูดคุยกัน แต่นับวันที่ผมได้เห็นการบ่อนทำลายเสียดสี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สร้างกระแสความเกลียดชังอย่างไร้สาระน่ารังเกียจแล้ว มันทำให้ผมรู้สึกเห็นใจ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และทำให้ผมยิ่งสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ

สถานการณ์โรคระบาดขณะนี้ ผมจะทำหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจากโรคระบาดร่วมกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่าง ‘พี่น้องร่วมรบ’ โดยท่านเป็นผู้นำ ผมเป็นผู้ตามโดยไม่ต้องร้องขอ ไม่ต้องเอ่ยปาก ผมจะทำหน้าที่รักษาชีวิตประชาชนร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างสุดกำลังสุดชีวิต

ใครที่เป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้องของผม หากคิดต่างจากผม คิดเสียดสี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้โปรดเลิกคบค้าสมาคมกับผมเสีย อย่าดัดจริตโลกสวยกับผม แล้วต่างคนต่างอยู่ ผมรังเกียจพวกคุณ เช่นเดียวกับที่พวกคุณรังเกียจ พล.อ.ประยุทธฺ จันทร์โอชา โปรดรับทราบทั่วกัน พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา”

 

ขณะที่ทางด้าน รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ยิ่งวันยิ่งน่ากลัว เพราะยิ่งวันยิ่งใกล้ตัวเราเข้ามาทุกที มีคนที่ผมรู้จักอย่างดีเสียชีวิตเพราะติดเชื้อไป 2 คนในเวลาใกล้ ๆ กัน และมีบางช่วงบางตอน ที่กล่าวถึงพลเอกประยุทธ์ ว่านาทีนี้รู้สึกเห็นใจมาก ๆ แม้ว่าที่ผ่านจะตำหนิการทำงาน และไม่ได้เลือกพรรคนี้ด้วย แต่ตอนนี้เห็นใจ เนื่องจากโดนดราม่าที่เกินเลยถล่ม

 

นายกรัฐมนตรี ให้ข่าวว่าจะไม่ล็อคดาวน์ แต่จะใช้มาตรการเข้มงวดกับจังหวัดสีแดง และแน่นอนต้องรวมกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับแรกของประเทศ

เมื่อมีประกาศที่ปรากฏในเว็บไซท์ของราชกิจจานุเบกษา เวลาประมาณ 1.00 น ของวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน เนื้อความคือใช้มาตรการเข้มงวด เช่น ห้ามนั่งทานอาหารในร้าน ให้ซื้อกลับบ้านได้เท่านั้น ปิดแค้มป์ก่อสร้างเป็นต้น แต่เมื่อไปลงเป็นข่าว ผู้เขียนข่าวหลายสำนัก ต่างพากันพาดหัวข่าวว่า ล็อคดาวน์กันหมด

ด้วยเหตุนี้จึงเกิดดราม่าเรื่องล็อคดาวน์กันยกใหญ่ มีการโจมตีนายกรัฐมนตรีใน social media กันอย่างสาดเสียเทเสีย ด้วยถ้อยคำหยาบ ว่านายกฯเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา วันหนึ่งบอกไม่ล็อคดาวน์ ประกาศออกมากลับเป็นล็อคดาวน์ ความจริง เนื้อหาในประกาศไม่ได้แตกต่างจากที่นายกรัฐมนตรีให้ข่าวไว้แต่อย่างใดเลย

นอกจากนี้ นักข่าวถามนายกรัฐมนตรีว่า ยังไหวหรือเปล่า นายกฯ จึงชู 2 นิ้ว เป็นสัญญานว่า ไหว และหัวเราะ พูดเล่นกับนักข่าว ดราม่าจึงดำเนินต่อว่า นายกฯอำมหิต ไม่ได้มีความสงสารประชาชน เห็นน้ำตาประชาชนบ้างหรือไม่ สารพัดที่จะโจมตี มองอย่างตรงไปตรงมา การที่นายกรัฐมนตรี พูดเล่นกับนักข่าว ขณะสถานการณ์โควิดกำลังเลวร้าย มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เป็นท่าทีที่ไม่ค่อยเหมาะสม แต่นั่นแสดงถึงความจริงใจที่ไม่มีเสแสร้ง ไม่สร้างภาพของนายกรัฐมนตรี หลายคนมองว่ารัฐบาลล้มเหลวในการจัดการโควิด เป็นรัฐบาลอื่นต้องทำได้ดีกว่านี้

พูดกันตามจริง ที่สถานการณ์โควิดเป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เป็นผลมาจากการตัดสินใจของรัฐบาลในหลายเรื่องตลอดระยะเวลาตั้งแต่กลางปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน แต่ที่เป็นที่โจมตีกันมากเป็นพิเศษ ก็คือเรื่องการจัดการวัคซีน เราลองมาพิจารณาเรื่องนี้โดยใช้ข้อเท็จจริงเป็นตัวตั้ง ว่าจริงๆแล้ว รัฐบาลมีความผิดพลาดหรือไม่ อย่างไร

กรณีการเข้าร่วมหรือไม่ร่วมใน COVAX ต้องทราบข้อเท็จจริงว่า ประเทศไทยไม่จัดอยู่ในประเทศยากจน จึงไม่มีทางที่จะได้รับการจัดสรรวัคซีนฟรี หรือราคาถูก ดังนั้น การจะเข้าร่วมใน COVAX จะต้องจ่ายเงินลงทุนล่วงหน้า ซึ่งมีรูปแบบการเข้าร่วม 2 รูปแบบ รูปแบบหนึ่ง ลงเงินล่วงหน้าลงเงินน้อยกว่า แต่ไม่สามารถเลือกชนิดวัคซีนได้ มีวัคซีนชนิดไหนก็ต้องรับ อีกรูปแบบหนึ่ง ลงเงินมากกว่า สามารถเลือกชนิดวัคซีนได้ แต่ไม่มีหลักประกันว่าจะได้วัคซีนชนิดที่เลือก หากไม่มีวัคซีนที่เลือกไว้ ก็ต้องรอจนกว่าจะมี

ในขณะนั้น ทุกบริษัทยังอยู่ในช่วงของการพัฒนาวัคซีน ยังไม่มีบริษัทไหนพัฒนาและทำการทดลองสำเร็จแล้วแม้แต่บริษัทเดียว ขณะนั้นสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด ในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อน้อยมาก และต่อมาไม่ผู้ติดเชื้อต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน

เมื่อมีการเจรจากับ Astra Zeneca โดยมีบริษัทปูนซีเมนต์ไทย หรือ SCG เป็นตัวกลาง รัฐบาลเห็นว่า มีแนวโน้มที่จะสำเร็จสูง และเป็นข้อตกลงที่จะให้บริษัทSiam Bioscience เป็นผู้ผลิตในประเทศไทย แต่อาจต้องรอถึงเดือนมิถุนายนของอีกปี จึงจะสามารถผลิตในประเทศได้ แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิดของเราไม่น่ากลัว จึงคาดว่าน่าจะทัน นั่นเป็นสาเหตุของการที่ไม่เข้าร่วมใน COVAX อีกประการ การรอเวลา ยังไม่ผูกมัดกับใครมากเกินไป ก็มีผลดี เพราะในขณะนั้น ยังไม่มีใครทราบว่าวัคซีนแต่ละยี่ห้อใครจะผลิตสำเร็จก่อน แต่ละชนิดจะมีผลข้างเคียงอย่างไร ทุกวันนี้วัคซีน pfizer และ moderna ที่ใช้เทคโนโลยี mRNA ที่ฝ่ายโจมตีรัฐบาลบอกว่า เป็นวัคซีนที่ดีที่สุด ก็ยังไม่มีใครบอกได้ว่าในระยะยาวจะมีผลข้างเคียงอื่น ๆ อีกหรือไม่ เนื่องเพราะ เป็นเทคโนโยนีใหม่ที่ใช้เป็นครั้งแรกในโลก

เมื่อสถานการณ์โควิดเลวร้ายลง จะว่าไปรัฐบาลก็มีส่วนผิด เพราะไม่จัดการปฏิรูปตำรวจ และปล่อยให้มีการทุจริตลักลอบแรงงานเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา ทำให้เกิด cluster ของการติดเชื้อหลายแห่ง สมุทรสาคร บ่อนการพนันระยอง ทองหล่อ ทั้งยังปล่อยให้เดินทางกันตามสบายช่วงวันหยุดสงกรานต์ เมื่อสถานการณ์บังคับ ไม่สามารถรอวัคซีนที่ผลิตในประเทศได้รัฐบาลจึงต้องรีบจัดหาวัคซีนอย่างรีบด่วน จึงไปได้วัคซีน sinovac และ astra zeneca ที่ผลิตจากประเทศอื่น มาบรรเทาปัญหาไปก่อน ส่วนวัคซีนอื่นเช่น pfizer moderna Johnson & Johnson ยังไม่สามารถจัดหามาได้ เนื่องจากเขาต้องให้กับประเทศที่จ่าย เงินล่วงหน้าก่อน โดยเฉพาะประเทศของผู้ผลิตเอง คือสหรัฐอเมริกา ก็ย่อมต้องสั่งวัคซีนมาตุนไว้เพื่อใช้ในประเทศของเขาก่อนเป็นธรรมดา

อย่างไรก็ตาม วัคซีนยี่ห้อต่าง ๆ ทั้ง pfizer moderna johnson & johnson และ sputnik v ก็จะทยอยมาในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

การโจมตีการตัดสินใจของรัฐบาลว่าผิดพลาด และว่าต้องทำอย่างไรนั้นเป็นเรื่องง่าย เพราะเรารู้ผลที่เกิดขึ้นแล้ว แต่หากเราลองนำตัวเราเองไปนั่งอยู่ในเก้าอี้นายกรัฐมนตรี แล้วลองย้อนเวลากลับไปปีที่แล้ว ใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจเท่าที่มีอยู่ในตอนนั้น บางทีการตัดสินใจของเราอาจไม่แตกต่างจากการตัดสินใจของรัฐบาลเกี่ยวกับวัคซีนก็ได้

ที่น่าตำหนิคือ การโจมตีอย่างมีอคติ ใช้คำหยาบ จงใจบิดจากความจริง ของทั้งบุคคลที่โพสต์ลงใน social media และทั้งสำนักข่าวออนไลน์หลายแห่ง จงใจทำทุกวิถีทางที่จะทำให้รัฐบาลดูเลวร้ายกว่าที่เป็นจริง ไม่ทราบว่าทำเพราะความเกลียดชัง ไม่พอใจหรือเพื่อกลุ่มการเมืองที่ตัวเองสนับสนุน หรือให้การสนับสนุนต่อตัวเอง หรือทั้ง 2 อย่าง ผมไม่เคยเห็นว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรเป็นนายกรัฐมนตรี มาตั้งแต่มีการทำรัฐประหาร และก็ไม่ได้เลือกพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ มีความเห็นใจพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ไม่น้อย

พวกที่จะให้พลเอก ประยุทธ์ลาออก โปรดบอกมาด้วย ลาออกแล้วยังไงต่อ ใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนในยามนี้ด้วยช่องทางไหน ลาออกแล้วเป็นไปได้หรือที่จะได้นายกรัฐมนตรีที่เก่งจริง ดีจริงมาดำรงตำแหน่งแทน หากไม่มีข้อเสนอที่ดีกว่า และเป็นไปได้ กรุณาอย่าเรียกร้องดีกว่าครับ ไม่มีประโยชน์อะไรเลย