หลังจากที่มีการชุมนมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ และม็อบปลดแอกในช่วงวันที่ 19 – 20 ก.ย. 2563 และเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้ไปร่วมพลที่หน้ารัฐสภาอีกครั้ง ทั้งนี้แกนนำได้ปลุกระดมจะรวมพลอีกครั้งในช่วงเดือนตุลาคม
ล่าสุดนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาดังนี้ ปรากฎการณ์ 23-24 กันยายน บอกอะไรเราหลายอย่าง
1. คำอภิปรายของสมาชิกวุฒิสภาที่เป็นขุนศึก และผู้เกาะติดกับผู้มีอำนาจ สะท้อนถึง มุมมองทัศนคติที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ต้องมีข้าเท่านั้น ชาติถึงอยู่รอด คนอื่นล้วนไม่รอบคอบ คิดไม่เป็น ประชาชนนั้นไว้วางใจไม่ได้ ไม่กล้าให้ประชาชนเลือกคนของเขามาร่างรัฐธรรมนูญเอง
2. การตัดสินใจไม่ลงมติ และตั้งกรรมาธิการศึกษาอีก 1 เดือน ด้านหนึ่งอาจมองว่าเป็นการยื้อเวลา แต่มองให้ลึก คือความขลาดกลัวและเริ่มหวาดผวากับพลังความไม่พอใจของสังคมภายนอก พูดแบบชาวบ้านว่า ปากเก่งตอนอภิปราย แต่ถึงเวลา ไม่กล้าลงมติ
3. การชุมนุมของประชาชน สามารถระดมคนในเวลารวดเร็วและผู้นำ สามารถควบคุมฝูงชนได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งมองย้อนกลับไปในอดีต หากมีผู้นำที่ไม่ถนอมรักประชาชน ยุให้ประชาชนขัดขวางการเดินทางกลับ ของ ส.ส. ส.ว. หรือยุให้บุกเข้าไปในสภา ภาพความรุนแรงวุ่นวายต่างๆคงเกิดขึ้นและเป็นบาดแผลของสังคมอีกครั้ง
4. จากนี้ไป เมื่อช่องทางในสภาถูกปิด ลมเย็นที่พอช่วยคลายความร้อนก็สิ้น ตุลาคมปีนี้ จึงมีแนวโน้มเป็นตุลาอาถรรพ์อีกครั้ง โทษใครไม่ได้ครับ เพราะบุญทำมาเท่านี้
ที่มา : สมชัย ศรีสุทธิยากร