Truthforyou

ครม.ไฟเขียวเปิดเกาะรับต่างชาติเที่ยว “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”!?!หอการค้าไทยดัน “ฮักไทย ฮักภูเก็ต”หนุน ปั้มรายได้กว่าแสนล้าน

กระทรวงการท่องเที่ยวฯเปิดเผยแนวทางการเปิดเกาะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ย้ำเงื่อนไขหากเกิดมีผู้ป่วยโควิดมากถึงวันละ 90 คน อาจมีการทบทวน ทั้งนี้ ททท.ได้ลงนามหอการค้าไทย ดัน “ฮักไทยฮักภูเก็ต”สนับสนุนนำร่องก่อนนำไปใช้เป็นโมเดลแก่จังหวัดอื่นๆต่อไป คาดสามารถผลักดันรายได้การท่องเที่ยวโดยรวมกว่าแสนล้านบาท

ติดตามกำหนดการบินประจำฤดูหนาว 2564/2565 พบว่ามีจำนวนเที่ยวบินที่จัดสรรไปยังสนามบินภูเก็ตแล้วประมาณ 320 เที่ยวบินต่อวัน จากขีดความสามารถในการรองรับ 360 เที่ยวบินต่อวัน คิดเป็น 89% ทั้งนี้ เที่ยวบินระหว่างประเทศที่ได้รับการจัดสรรขณะนี้ส่วนใหญ่มาจากประเทศแถบเอเชีย-แปซิฟิกและยุโรป (ข้อมูล Slot ณ วันที่ 11 มิ.ย. 2564 ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง)

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการสนับสนุนและขับเคลื่อนโครงการ “ฮักไทย (HUG THAIS)”รวมใจ ไทยไม่ทิ้งกัน ระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการเติบโตด้านเศรษฐกิจของประเทศ กระตุ้นการใช้จ่ายทั้งของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผ่านแนวคิด “ฮักกิน ฮักเที่ยว ฮักใช้” โดยจะเริ่มจากโครงการต้นแบบ“ฮักไทย ฮักภูเก็ต” (HUG THAIS HUG PHUKET) ในเดือนกรกฎาคมนี้ คาดสร้างรายได้รวมด้านการท่องเที่ยวกว่าแสนล้านบาท

แนวทางการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ผ่านการทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และจังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า) เริ่มวันที่ 15 ก.ค. 64 ซึ่งทางจังหวัดก็ได้เตรียมความพร้อมแล้ว ถือเป็นไปตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีประกาศเอาไว้ว่าจะเปิดประเทศใน 120 วัน

ส่วนในจังหวัดอื่น ๆ ที่มีความพร้อม คือมีการฉีดวัคซีนให้คนในพื้นที่ครบ 70% แล้ว ก็ได้มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปหารือกับทาง ศบค.ชุดเล็ก และผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด เพื่อทำการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่อจากภูเก็ตต่อไป

พร้อมกันนี้ ททท. ยังได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการสนับสนุนและขับเคลื่อนโครงการฮักไทย รวมใจ ไทยไม่ทิ้งกัน กับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการเติบโตด้านเศรษฐกิจของประเทศ เริ่มจากโครงการต้นแบบฮักไทยฮักภูเก็ต ในเดือน ก.ค.นี้ โดยเปิดงานที่จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ มีนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเป็นเป็นประธาน รวมทั้งจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ กระตุ้นการใช้จ่ายด้วย

รายละเอียดมาตรการที่จะเดินหน้าเปิดท่องเที่ยวร่วมกับการควบคุมการแพร่ระบาด ที่จะต้องดำเนินการ 13 เรื่องหลักได้แก่

  1. ตัวเลขเฝ้าระวังของจำนวนผู้ติดเชื้อคือ 15 คน/ 100,000 คน
  2. รายชื่อประเทศกลุ่มเสี่ยงต่ำและเสี่ยงสูงให้ดูข้อมูลจากกระทรวงต่างประเทศหรือกระทรวงสาธารณสุข
  3. ชาวต่างชาติต้องรับวัคซีนครบโดสแล้วในระยะเวลา 14 วัน – 1 ปี (เดิม 6 เดือน) เป็นวัคซีนที่รับรองโดย WHO และ อย.ไทยเท่านั้น
  4. การขอหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย (Certificate of Entry) หรือ COE ให้จองตั๋วเครื่องบินก่อน แล้วจองโรงแรม SHA+ หรือ SHA ที่พนักงานรับวัคซีนแล้ว 70% ไม่ว่าจะจองตรงหรือผ่านเอเย่นต์ จากนั้นโรงแรมจะออก confirmation เป็น QR Code ซึ่งระบบหลังบ้าน ที่เชื่อมต่อกับ SHABA (SHA Booking Authentication) และเอาไป upload ใน COE ได้
  5. Health Insurance ครอบคลุม COVID-19 เหลือ 50,000$ (จากเดิม 100,000$)
  6. การจองโรงแรมต้องอยู่โรงแรมแรกจนครบ 7 คืน และเมื่อผลตรวจวันรุ่งขึ้นออกเป็นลบสามารถย้ายโรงแรมได้ และย้ายได้อีกครั้งเมื่ออยู่ครบ 13  คืนแล้วผลตรวจวันรุ่งขึ้นเป็นลบ (SHA Plus+ Hotels & Resorts only)
  7. นักท่องเที่ยวต้อง Download Morchana (แอปพลิเคชั่น หมอชนะ) ภาคภาษาอังกฤษ ต้องใส่เลข COE และยินยอมแชร์ location                                                                     
  8. แต่ละโรงแรมต้องมี SHA manager ถ้ามีนักท่องเที่ยวปิด location SHA Manager มีหน้าที่ไปติดตาม แล้วรายงานกลับให้ทางจังหวัดทราบ
  9. Tracking Wristband ให้ใช้เฉพาะ นักท่องเที่ยวที่ไม่มีมือถือ หรือมือถือเป็นรุ่นเก่าไม่ support ให้ลง App หรือแชร์ location
  10. เมื่อออกจากสนามบิน เดินทางโดยรถรับส่ง ซึ่งเป็น SHA+ ซึ่งรถแต่ละคันจะมีสติ๊กเกอร์ติดเป็นสัญลักษณ์ หลังจากนั้นให้รอในห้องพักก่อน
  11. การทำ PCR Test on arrival จะผลส่งให้โรงแรม ภายใน 12 ชม หลังจากผลเป็นลบ ให้ออกนอกห้องพักได้
  12. ท่าเรือที่เปิดบริการคือ ท่าอ่าวปอ Grand Marina ท่ารัษฎา ท่าฉลองเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะบริวารของจังหวัดภูเก็ตได้ เรือต้องเป็น SHA Plus+ เท่านั้น
  13. กรณีเดินทางมา 4 คน พบว่าติดเชื้อ 1 คน จะถูกย้ายไปรักษาในโรงพยาบาลที่เป็น partner กับโรงแรมนั้นๆ อีก 3 คนต้องย้ายไป ALQ  โดยโรงแรม SHA+ ต้องยกเลิกและคืนเงินให้ลูกค้า เพื่อเอาไปจ่าย ALQ

นอกจากนี้สายการบินจะ require negative test result within 72 hours ซึ่งต้องทำทุกคน (ผู้ใหญ่/เด็ก)

Exit mobile version