ปธน.ปูตินมองว่า สหรัฐฯ’สองมาตรฐาน’ ในการดำเนินคดีปราบจลาจลของรัฐสภาสหรัฐฯ เขากล่าวว่า เป็นการผิดที่สหรัฐฯ จะวิพากษ์วิจารณ์การปราบปรามการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในต่างประเทศ ขณะที่สหรัฐฯเองดำเนินคดีกับชาวอเมริกันด้วยข้อหาร้ายแรงว่าเป็นผู้ก่อการร้ายทั้งที่พวกเขามาพร้อมกับ “ข้อเรียกร้องทางการเมือง” เป็นผู้สนับสนุนคู่แข่งทางการเมืองเท่านั้น
ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย กล่าวที่ฟอรั่มธุรกิจในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ว่าเขาได้ตั้งความคาดหวังไว้ต่ำสำหรับการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐฯวันที่ 16 มิ.ย.2564ที่ผ่านมา ในกรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และผลที่ออกมาก็ดูจะเป็นไปตามนั้น และในการให้สัมภาษณ์ที่เจนีวา ภายหลังการประชุมร่วมกับปธน.โจ ไบเดนและทีมงาน เขาให้สัมภาษณ์ตอกย้ำอีกครั้งถึง พฤติกรรมสองมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาต่อผู้มีความเห็นต่างทางการเมือง
ปูตินสงวนคำวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรงที่สุดบางส่วนของเขาต่อสหรัฐฯ ที่ประณามการปราบปรามการประท้วงต่อต้านรัฐบาลโดยเบลารุส พันธมิตรระดับภูมิภาคของมอสโก เขาตอบโต้ด้วยการบอกว่าผู้ก่อจลาจลในรัฐสภาของสหรัฐฯ เองก็ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม
“พวกเขาไม่ได้เป็นกลุ่มโจรและผู้ก่อจลาจล” ปูตินกล่าวถึงผู้สนับสนุนทรัมป์ที่โจมตีรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2564 และระงับการประชุมชั่วคราวเพื่อรับรองนายไบเดนว่าเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว “คนเหล่านั้นมาพร้อมกับข้อเรียกร้องทางการเมือง”
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่าผู้ก่อจลาจลในรัฐสภาถูก “ข่มเหง” โดยรัฐบาลสหรัฐฯ
ผู้ต้องสงสัยประมาณกว่า 400 คนถูกจับกุมในเหตุจลาจล ส่วนใหญ่ถูกตั้งข้อหาเข้าหรืออยู่ในอาคารหรือบริเวณหวงห้าม หลายคนได้รับการปล่อยตัวระหว่างการพิจารณาคดี แต่บางคนถูกกักขังเดี่ยว
วุฒิสมาชิกเอลิซาเบธ วอร์เรน สมาชิกพรรคเดโมแครตของปธน.โจ ไบเดน กล่าวว่าจำเลยบางคนถูกปฏิบัติอย่าง “โหดร้าย”
ปูตินเปรียบเทียบการปราบปรามจับกุมผู้ก่อจลาจลในรัฐสภาสหรัฐฯ กับการปราบปรามผู้ก่อจลาจลต่อต้านรัฐบาลของรัสเซียว่า
“คุณกำลังนำเสนอว่าเป็นความขัดแย้งและการไม่ยอมรับต่อความขัดแย้งในรัสเซีย แต่เรามองต่างไปอย่างสิ้นเชิง” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ NBC News ที่ออกอากาศเมื่อวันจันทร์ที่ 21 มิ.ย.(ตามเวลาท้องถิ่น) จากนั้นได้ระบุไปที่การจลาจลในวันที่ 6 มกราคมในวอชิงตัน เมื่อผู้ประท้วงบุกเข้าไปในรัฐสภาเพื่อพยายามระงับการนับคะแนนเสียงเพื่อรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดนเหนือโดนัลด์ ทรัมป์
“คุณรู้หรือไม่ว่ามีคน 450 คนถูกจับกุมหลังจากเข้าสู่สภาคองเกรส? … พวกเขามาที่นั่นพร้อมกับข้อเรียกร้องทางการเมือง” เขากล่าว
ปูตินยังตอกย้ำถึงการปฏิเสธว่าเครมลินอยู่เบื้องหลังการวางยาพิษของนาวัลนีเมื่อปีที่แล้วด้วยสารทำลายประสาทที่เกือบจะฆ่าเขา“เราไม่มีนิสัยชอบลอบสังหารใครแบบนี้” ปูตินกล่าว
“คุณสั่งฆ่าผู้หญิงที่เดินเข้าไปในรัฐสภาและใครถูกตำรวจยิงตาย?” ปูตินกล่าวอ้างถึงผู้สนับสนุนทรัมป์ แอชลี แบบบิต(Ashli Babbitt) วัย 36 ปี ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแคปิตอลยิงเสียชีวิต ขณะเธอพยายามปีนผ่านหน้าต่างที่นำไปสู่พื้นสภา ทั้งที่มือเปล่าไม่มีอาวุธแต่อย่างใด เรื่องนี้กลับเงียบหาย ไม่มีการกล่าวถึงและเสียงเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากกลุ่มเพื่อนและญาติของเธอก็หายไปกับสายลม เมื่อสื่อทุกฉบับปิดปากเงียบฉี่อย่างพร้อมเพรียงกัน
การดำเนินคดีกับผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดี Donald Trump มากกว่า 400 คนในข้อหาโจมตีศาลากลางเมื่อวันที่ 6 มกราคมเพื่อขัดขวางชัยชนะของ Biden
“ผู้คนมาที่รัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาด้วยข้อเรียกร้องทางการเมือง และมีผู้ถูกตั้งข้อหาทางอาญากว่า 400 คน พวกเขาต้องเผชิญกับโทษจำคุกสูงสุด 20 ปีหรืออาจ 25 ปี พวกเขาถูกเรียกว่าเป็นผู้ก่อการร้ายในประเทศ” ปูตินกล่าว
ปูตินอ้าง “ความผิดปกติ” ของการเคลื่อนไหว Black Lives Matter ตั้งคำถามกับการจับกุมผู้ก่อจลาจลในรัฐสภาสหรัฐฯ เขากล่าวว่า “มีเหตุการณ์ที่รุนแรงมากมาย หลังจากการสังหารชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนหนึ่ง และการเคลื่อนไหวทั้งหมดที่เรียกว่า Black Lives Matterสะท้อนความจริงของสังคมอเมริกัน และการจัดการปัญหาของผู้นำสหรัฐฯอย่างไม่อาจปฏิเสธ”
