บช.น.เปิดแผนรับมือม็อบ 24 มิ.ย.เตือนชุมนุมผิดกม. – ซ้ำเติมช่วงโควิดระบาดหนัก ชี้คนร่วมและคนชักชวนเจอโทษหนัก!?

2464

บช.น.เปิดแผนรับมือม็อบ 24 มิ.ย.เตือนชุมนุมผิดกม. – ซ้ำเติมช่วงโควิดระบาดหนัก ชี้คนร่วมและคนชักชวนเจอโทษหนัก!?

จากกรณีที่คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย กลุ่มไทยไม่ทน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้ประกาศนัดชุมนุมในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ บริวเณหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อขับไล่ระบอบประยุทธ์ ซึ่งจะมีกลุ่มประชาชนคนไทย นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา เข้าร่วมชุมนุมด้วย

ล่าสุดวันนี้ (21 มิ.ย. 64) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. และ โฆษก บช.น. และ พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าว รับมือการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ว่า

เนื่องด้วยมีการประกาศชักชวนให้มีการออกมาร่วมชุมนุมของ กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ ซึ่งจะจัดกิจกรรมการชุมนุม ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 24 มิถุนายน 2564 มีจำนวน 4 กลุ่มดังนี้

1. กลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า นำโดย นายชาติชาย ไพรลิน เวลา 13.00-20.00 น. ที่ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ เพื่อจัดกิจกรรมรำลึกถึงเหตุการณ์ครบรอบ 89 ปี อภิวัฒน์สยาม 2475

2. กลุ่มประชาชนคนไทย นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ เวลา 12.00 น. ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลวัตถุประสงค์ เรื่อง ขอให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

3. กลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี นำโดย นายเจษฎา ศรีปลั่ง เวลา 11.00 น. ที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วัตถุประสงค์เพื่อทำกิจกรรมขับไล่รัฐบาล

4. กลุ่มไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นัดหมายที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อทำกิจกรรมขับไล่รัฐบาล

จึงขอประชาสัมพันธ์ในปัจจุบันมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงมิให้นำพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะฯมาใช้บังคับ ตามมาตรา 3(6) แห่ง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ แต่ให้นำข้อกำหนดซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พรก.ฉุกเฉินฯ มาใช้บังคับตามข้อกำหนดดังกล่าว ห้ามมิให้มีการชุมนุม การทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

หากผู้ใดฝ่าฝืน รวมทั้งผู้จัดการชุมนุม ผู้ร่วมชุมนุม จะเป็นความผิดตามข้อกำหนดซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (ฉบับลงวันที่ 25 ธ.ค.63 ข้อ 3 ประกอบประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 5 มี.ค.64 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับผู้ที่ชักชวนให้มีการรวมตัวกัน เพื่อทำกิจกรรมใด ก็จะมีความผิดในส่วนของ ผู้สนับสนุน ซึ่งจะต้องได้รับโทษเช่นเดียวกับตัวการ สำหรับผู้จัดเวที รถเครื่องเสียง หรืออุปกรณ์ต่างๆ ผิดฐาน เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของผู้ชุมนุม ต้องระวางโทษ 2/3 โทษดังกล่าวข้างต้น

กองบัญชาการตำรวจนครบาลขอย้ำเตือนว่า การมารวมกลุ่มชุมนุมในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น ยังมีความเสี่ยงสูงที่อาจจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนเตือนบุตรหลาน หากเข้าร่วมการชุมนุมในช่วงนี้ อาจถูกจับกุมดำเนินคดีทำให้มีประวัติการต้องโทษ และการกระทำของผู้ที่ชักชวนให้มาร่วมชุมนุมนั้น ไม่ว่าด้วยวิธีการหนึ่งวิธีการใด หรือผู้จัดการชุมนุม ตลอดจนประชาชน ผู้เข้ามาร่วมชุมนุม ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าวข้างต้น และจะต้องถูกดำเนินคดีในอัตราโทษที่กฎหมายกำหนดไว้ด้วย

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. กล่าวว่า ช่วงนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิคในกรุงเทพฯยังไม่ลดลง การมาชุมนุมในช่วงนี้ขอให้เห็นแก่บ้านเมือง เพราะ ท่านอาจจะได้ผลประโยชน์ทางการเมืองแต่ประเทศชาติบอบช้ำ ให้สถานการ์โควิดผ่านไปก่อนแล้วค่อยมาว่ากันใหม่

สำหรับมาตรการของเจ้าหน้าที่นั้น พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. / โฆษก บช.น.กล่าวว่า จะให้เป็นไปตามสถานการณ์ สำหรับการดูแลความปลอดภัยจุดที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศ เช่น โบราณสถาน โบราณวัตถุ ก็จะดูแลความสำคัญต่อไปบางอย่างถ้าสูญเสียไปแล้วไม่สามารถนำกลับมาคืนเหมือนเดิมได้

อย่างไรก็ตามกองบัญชาการตำรวจนครบาลก็จะประเมินทางด้านการข่าวที่จะรับมือในสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. /โฆษก บช.น. กล่าว

พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันมีการดำเนินคดีทางการเมืองมากกว่า 150 คดีซึ่งตำรวจก็ได้ดำเนินการเอาผิดย้อนหลังกับประชาชนหากเข้าข่ายความผิดไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมหรือการชักชวนบนโลกออนไลน์มาให้เกิดการชุมนุมด้วย