จากกรณีที่ “อาร์ต พศุตม์” ได้ประกาศเดินหน้าฟ้องเกรียนคีย์บอร์ดที่เข้ามาด่าทอ ในเชิงหมิ่นประมาท ในช่วงที่เจ้าตัวอาสาช่วยเหลือผู้ต้องขังติดโควิด ทั้งแพ็กของ บริจาคเงินช่วย และนำเงินที่พี่น้องคนไทยร่วมบริจาค ไปจัดซื้อชุด PPE มอบให้ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีคู่กรณีหลายรายเดินทางมาเข้าพบ รับทราบข้อหา
โดยมีศชอ.ดำเนินการให้ และค่าเสียหายที่ได้จากการฟ้องร้อง “อาร์ต พศุตม์” ก็นำไปซื้อชุด PPE บริจาคช่วยเหลือเรือนจำเกือบทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมี “เจ๊ปอง อัญชะลี” ที่นำเงินจากการฟ้องคนหมิ่นประมาท มาสมทบกว่า 1 แสนบาทแล้วด้วย
ล่าสุดได้มีหนุ่มจากเชียงใหม่ เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา โดยในเพจเฟซบุ๊กของศชอ. ได้ทำการไลฟ์สด ขณะที่หนุ่มรายนี้เข้ามาพบ “อาร์ต พศุตม์” ที่โรงพัก และอาร์ตได้พูดคุยสอบถาม ทราบว่าหนุ่มคนนี้ประกอบอาชีพสถาปนิก และได้คอมเม้นต์ด่าอาร์ต เนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เสพข่าวด้านเดียว บอกกับแรงยุของกลุ่มกองเชียร์ เสพข่าวไม่รอบด้าน เลยพาลด่าไป
ขณะที่ “อาร์ต พศุตม์” ได้พูดจาอย่างใจเย็น สอบถามหนุ่มรายนี้ว่า ตอนที่คุณว่าผม ด่าผม คุณคิดอะไรอยู่ ด้านหนุ่มคนดังกล่าวตอบว่า ไม่ทันได้คิด เสียใจเหมือนกัน เพราะเราไม่ยอมเสพข่าวให้ครบสองด้าน ฟังเขามา แล้วก็ด่า โดยที่ไม่เคยรู้จัก แต่ตอนนี้จำแล้ว เข็ด ไม่กล้าทำอีก เพราะได้บทเรียน
ส่วนทางด้านอาร์ต ก็ยังกล่าวอีกว่า ใช่ เพราะเราไม่เคยรู้จักกัน แล้วคุณมาด่าผม ผมถึงต้องฟ้อง เพราะผมทำดี กำลังช่วยเหลือคน แล้วผมผิดอะไร ถึงต้องโดนด่า แต่เข้าใจ ให้อภัย พร้อมบอกว่ายังไม่ขอแจ้งตัวเลขค่าเสียหายที่จะเรียก แต่อยากเตือนสติว่า ทีหลังอย่าทำเลย ด่ากันแล้วได้อะไร ทำไมต้องด่ากัน ผมเป็นนักแสดง เป็นคนสาธารณะ วิจารณ์ผมได้ก็จริง แต่อยากให้มีขอบเขต เช่น ผมเล่นละครแข็งไปนะ ไม่ดีเลย ติด่ากันได้ แต่คนเราควรพูดจากันดี ๆ ซึ่งหนุ่มอาร์ตก็สอนและยกตัวอย่าง จนหนุ่มรายนี้ได้กล่าวขอโทษ และรับปากว่าจะไม่ทำอีก
ทั้งนี้ในเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ ศชอ. ยังได้โพสต์ข้อความอีกด้วยว่า “คู่กรณีท่านนี้มารับข้อกล่าวหา เดินทางมาจากจ.เชียงใหม่ บอกมาพบคุณอาร์ตครั้งนี้เหมือนได้ชีวิตใหม่ หลังจากตกนรกทั้งเป็นมาแรมเดือน ฝากเตือนสติเกรียนคีย์บอร์ดทุกคนว่า “เลิกเถอะครับ เลิกด่าคนอื่น เลิก bully ใคร ๆ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพราะถ้าเป็นคดีความขึ้นมา ชีวิตคุณจะยุ่งยาก จะตกนรกทั้งเป็น เดือดร้อนไปทั้งครอบครัว ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของผม ผมเข็ดไปจนตายแล้วครับ จริง ๆ ครับ””
อย่างไรก็ตามได้มีกระแสชื่นชมดาราหนุ่มที่ค่อย ๆ พูดจาและสอนให้คนทำผิด ได้รู้และเข้าใจ กลับตัวกลับใจได้ เป็นตัวอย่างที่ดีให้สังคม ซึ่งหลาย ๆ คนก็มองว่า ไม่อยากให้เจ้าตัวใจอ่อน ต้องเอาเรื่องเรียกค่าเสียหายไปตามสมควร เพราะเงินทุกบาทที่ได้มา เจ้าตัวก็นำไปช่วยเหลือผู้อื่นหมด ครั้งนี้มีคนได้อานิสงส์จากการฟ้องหมิ่นประมาทเป็นชุด PPE หน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์อีกเพียบ