จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “เยาวชนปลดแอก-Free YOUTH” โพสต์รูปภาพตัดต่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะก้มกราบเท้าใครคนหนึ่ง พร้อมระบุถึงแนวทางการเคลื่อนไหวปฏิรูปสถาบัน และจุดยืนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถึงหมวด 1 และหมวด 2 ของพรรคเพื่อไทยนั้น
ต่อมามีความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลฯอย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองเชียร์ ฝ่ายสนับสนุนอดีตนายกฯทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ที่ต่างออกมาตอบโต้กลุ่มเยาวปลดปลดแอก อาทิ
นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” ที่ได้ออกมาโพสต์ว่า “น้องๆลูกหลาน REDEM ภาพนี้ไม่เหมาะกับการเผยแพร่หรือใช้ในการรณรงค์ใดๆ อดีตนายกทักษิณสร้างประโยชน์ให้ประเทศนี้มากมายและถูกกระทำจาก elete ที่ยากเกินใครจะเข้าใจ พ่อแม่พี่น้องของหนูๆครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตที่ดีเพราะนายกทักษิณ มาบ้าง มีรถ มีการศึกษาให้ลูกหลาน มีความหวังในชีวิตก็เพราะนายกทักษิณ
การทำภาพเช่นนี้ออกมามีแต่โทษไม่มีคุณ สร้างความขัดแย้งระหว่างคนเสื้อแดงและนักศึกษาที่กำลังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ป่านนี้เผด็จการและสลิ่มมันหัวเราะจนปวดท้องแล้ว #ลบเถอะครับด้วยรักจากพี่ฟอร์ด #นักศึกษาชนะคนเสื้อแดงก็ชนะด้วยหากแต่หากแพ้เราจะร่วมชะตาเดียวกันไม่ทอดทิ้ง”
จากนั้นปรากฏว่า”เยาวชนปลดแอก-Free YOUTH” ก็ยังไม่มีการลบโพสต์และข้อความภาพแต่อย่างใด ทำให้ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง ต้องออกมาโพสต์ข้อความถึงกลุ่มเยาวชนดังกล่าวอีกครั้งว่า
“ภาพของ REDEM ที่ตัดต่อรูปนายกทักษิณก้มลงกราบแผ่นดินไทยเป็นกราบ elite กำลังเป็นประเด็นที่สร้างความขัดแย้งในกลุ่มคนรักประชาธิปไตยในวงกว้าง ผมอยากแสดงความเห็น 2-3 เรื่อง
เรื่องแรกผมเห็นด้วยกับการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์และร่วมต่อสู้กับคณะราษฏรมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ถูกดำเนินคดีพร้อมกับนักศึกษาหลายคดี แต่ไม่เห็นว่าจะต้องแสดงออกด้วยการทำภาพตัดต่อดูหมิ่นอดีตนายกรัฐมนตรีเพื่อยกว่าความเห็นตัวเองว่าดีกว่า นั่นเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและสมควรถูกตำหนิ การที่นักศึกษาชนะใจประชาชนได้ในปีที่แล้วเพราะแสดงออกอย่างกล้าหาญและมีวุฒิภาวะ เช่นกรณีน้องมายด์และเพื่อนๆที่นำประชาชนไปอ่านแถลงการณ์หน้าสถานทูตเยอรมันและมีการปราศรัยที่ใช้เหตุผลนำหน้า ไม่จาบจ้วงลามปามและดูหมิ่นใคร แต่การทำภาพตัดต่อเช่นนี้เป็นสิ่งไม่สมควร ไม่ใช่ความกล้าหาญแต่เป็นความไร้เดียงสาและไม่รู้จักกาละเทศ จำไว้ว่าวุฒิภาวะไม่ใช่เรื่องของวัยแต่เป็นเรื่องของสมองและจิตใจ
เรื่องที่สองคือการสร้างความขัดแย้ง (conflict) ภาพนี้ทำให้เป็นการสร้างความขัดแย้งในกลุ่มผู้รักประชาธิปไตยสอง generations อย่าเที่ยวไปพูดคำว่า “สู้ไปกราบไป” หรือ “ก้าวข้ามทักษิณ” หากคุณไม่เข้าใจคำนี้จริง คำว่า “สู้ไปกราบไป” นี้ผมได้ยินมาเป็นสิบปีแต่ก็ไม่เคยเห็นคุณทักษิณเป็นดั่งที่ว่า หากนายกทักษิณกราบจริงแล้วจะถูกวางระเบิดเครื่องบินเอาชีวิต ถูกยึดทรัพย์หลายหมื่นล้าน ถูกปฏิวัติจนกลับประเทศไม่ได้หรือ
ส่วนคำว่า “ก้าวข้ามทักษิณ” คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ก็ก้าวข้ามคุณทักษิณไปนานแล้ว เมื่อไม่นานนี้ผมก็แนะนำให้คนเสื้อแดงก้าวข้ามคุณทักษิณและมาต่อสู้เคียงข้างนักศึกษาที่เรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ การที่ผู้ใหญ่ออกมาทักท้วงไม่ได้หมายถึงก้าวข้ามหรือไม่ก้าวข้ามแต่กำลังสอนคนรุ่นหลังให้ได้รู้สิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร
เรื่องที่สามคือการวิจารณ์เรื่องนี้ควรจำกัดเพียงแค่ผู้จัดทำและแอดมินเพจ REDEM ไม่กี่คน ซึ่งไม่ใช่ตัวแทนของนักศึกษาที่เป็นพลังบริสุทธิ์หลายแสนคนรวมถึงลูกๆของผม นี่คือความผิดพลาดเช่นเดียวกับการเสนอภาพค้อนเคียวเป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้จนถูกวิจารณ์ว่าต่อสู้กับเผด็จการเพื่อถอยกลับไปเป็นคอมมิวนิสต์เมื่อหลายเดือนก่อนจนเพจเยาวชนปลดแอกต้องหยุดแคมเปญนี้ไป หากนักศึกษาเพียงไม่กี่คนเป็นผู้ดำเนินการกันเองก็ไม่เป็นไรเพราะชีวิตทุกคนย่อมมีบทเรียน แต่หากมีผู้ใหญ่หรือนักการเมืองอยู่เบื้องหลังเพราะต้องการสร้างความนิยม แทงข้างหลังเพื่อนจากเรื่องแก้ไขรัฐธรรมญ ผมขอฝากคำพูดสักคำว่า this is sucks”
