สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา ทางคณะก้าวหน้า ออกกำหนดการเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมการเเถลงข่าวเปิดแคมเปญ “ขอคนละชื่อ รื้อระบอบประยุทธ์” และได้เริ่มเปิดแคมเปญไล่ล่าชื่อ เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา โดยคณะก้าวหน้าตั้งเป้าว่า จะได้ 1 ล้านรายชื่อภายในสิ้นปี 64 นี้ แต่แล้วกลับผิดคาด เมื่อมีรายชื่อที่เข้าร่วมด้วยตอนนี้เพียงหลักหมื่นนิด ๆ
จนเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2564 ที่ผ่านมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า นายพริษฐ์ วัชรสินธุ นายเอกพันธุ์ ปิณพวณิช และน.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ร่วมกันแถลงถึงการเข้าชื่อประชาชนแก้รัฐธรรมนูญ “ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์” ยื่นต่อผู้เชิญชวน 20 คนเพื่อดันร่างฉบับนี้เข้าสภา โดยขณะนี้กลุ่มก้าวหน้า ได้กล่าว่า เราจึงมีความจำเป็นต้องเร่งเข้าชื่อตามรัฐธรรมนูญกำหนดจำนวน 50,000 รายชื่อ เพื่อนำร่างแก้ไขฉบับนี้เข้าไปประกบกับร่างอื่น ๆ ในสภา ซึ่งเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 1 ล้านรายชื่อ
ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์คณะก้าวหน้า เผยแพร่ข่าว ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ร่วมจัดรายการเฟซบุ๊กไลฟ์วาระพิเศษทางเพจ คณะก้าวหน้า – Progressive Movement ในหัวข้อ “สถานการณ์ฉุกเฉิน! ระบอบประยุทธ์กำลังสืบทอดอำนาจรอบ 2” เชิญชวนประชาชนร่วมลงชื่อผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราฉบับรื้อระบอบประยุทธ์ ที่จัดทำโดยกลุ่ม Re-Solution
โดยนายธนาธร เปิดเผยว่า การรณรงค์เรื่องนี้ที่ทำมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2564 เดิมมีความตั้งใจจะใช้เวลาจนถึงสิ้นปี ในการเดินทางไปรณรงค์กับประชาชนทั่วประเทศ เพื่ออธิบายถึงความจำเป็นและเนื้อหาสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่ด้วยสถานการณ์โควิดรอบใหม่ ทำให้ยังไม่สามารถรณรงค์ตามแผนที่วางไว้ได้
แต่สถานการณ์วันนี้เปลี่ยนไป เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมาทางซีกพรรครัฐบาลได้เตรียมยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่จะทำให้ระบอบประยุทธ์สามารถสืบทอดอำนาจได้ต่ออีก 1 วาระ ทำให้มีความจำเป็นที่ฝ่ายประชาชนจะต้องเสนอร่างของเรา ก็คือร่างรัฐธรรมนูญฉบับรื้อระบอบประยุทธ์นี้เข้าไปประกบในสภาด้วย ซึ่งต้องขอความร่วมแรงร่วมใจจากประชาชนในวันนี้
ขณะที่ทางด้านนายปิยบุตร ระบุว่าปัญหาของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นการแก้แต่เรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับประชาชน ไม่ได้ทำให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น มุ่งแต่แก้ในส่วนที่จะทำให้ประยุทธ์และพรรคพวกกลับมามีอำนาจได้อีกครั้งหนึ่ง และได้กล่าวตอนหนึ่ง ว่า
“เท่าที่ผมสำรวจตรวจสอบ สิ่งที่เขากำลังทำคือเขากำลังเอาเรื่องอื่นขึ้นมาแล้วอ้างประชาชน แต่หัวใจสำคัญของเขาคือเขาต้องการเปลี่ยนระบบเลือกตั้ง ดังนั้น จึงต้องมาขอแรงพี่น้องประชาชนว่าเราต้องเร่งให้ทัน 50,000 ชื่อ เพื่อให้ร่างฉบับนี้ได้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาพร้อมกับร่างของแต่ละพรรคการเมืองที่กำลังยื่นเข้าไปในตั้งแต่เมื่อวานและวันนี้ต่อเนื่องกัน”
อย่างไรก็ตาม นายธนาธรกล่าวอีกว่า เรื่องนี้ช่วยกันได้ง่าย ๆ ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ถ้าพวกเราได้ 50,000 รายชื่อ จะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เข้าไปอยู่ในสภา และจะทำให้พวกเราเป็นปากเป็นเสียงของทุกท่านได้ แต่เมื่อตรวจสอบในเว็บไซต์ล่ารายชื่อ พบว่า ขณะนี้มียอดผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมอยู่ที่ 14,021 คน อัพเดทวันที่ 17 มิ.ย. 64 ซึ่งเหลืออีก จำนวน 35,979 คน