จากกรณีที่ช่วงเช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กับพวก รวม 6 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องหากลุ่มรีเด็มที่ศาลกำหนดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราว โดยให้ใส่กำไล EM เดินทางมาพร้อมทนายความ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอถอดกำไล EM
โดยนายสมยศ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาในช่วงที่ติดกำไลอีเอ็ม ยังไม่มีการกระทำความผิดใด ๆ เกิดขึ้น และอยู่ในเงื่อนไขของศาล ทั้งนี้การติดกำไลอีเอ็มนั้น เป็นการจำกัดเสรีภาพเราเกินควร เนื่องจากมีการวางเงินประกันแล้ว และปฎิบัติตามเงื่อนไขของศาลมาโดยตลอด ซึ่งให้ไม่สามารถดำรงชีวิตตามปกติได้และไม่ได้รับความสะดวก
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2564 ในเฟซบุ๊กของนายสมยศ ที่ใช้ชื่อว่า Somyot Pruksakasemsuk ได้โพสต์ข้อความเรื่องกำไล EM ระบุว่า “คงหาแฟนไม่ได้อีกแล้ว
ได้กำไร EM ติดข้อเท้าไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นคดี ห้ามออกนอกเขตกรุงเทพ แต่ดีกว่าไปติดโควิดตายในเรือนจำ หงุดหงิดอยู่จะเดินไปไหนก็หน่วงขาเอาไว้ ต่อไปนี้ไปไหนมีคนติดตามได้ 24 ชั่วโมง มีข้อดีอยู่ก็คือ หากถูกอุ้มฆ่า ก็อาจติดตามศพได้ง่ายขึ้น แต่ข้อเสียก็มีแน่นอน คงหาแฟนไม่ได้ อีกแล้ว ใครเห็นก็คงเข้าใจได้ว่าเป็นคนทำผิดอะไรสักอย่างหรือไม่ก็เป็นพวกอันตรายที่ต้องมีกำไร EM ติดตามตัวเช่นนี้
ขอบคุณปิยะรัฐ จงเทพ หรือโตโต้หัวหน้าใหญ่ วีโว่ ที่นำร่องติดกำไล EM ทำให้ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน
ขอโทษเป๋า ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ จากไอลอร์ เชิญไปเสวนาหน้าศาล แต่เพราะความเซ่อของผมเองเดินหลง จนได้ไปเวทีโกนหัวของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จนเป็นเหตุให้มาติดกำไลคู่ชีวิตครั้งนี้
ขอบคุณ เบนจา อะปัญ ณัฐชนน ไพโรจน์ ที่เชิญให้ขึ้นพูดทันทีเมื่อเจอกันหน้าศาลวันที่ 30 เมษายน2564
ดีใจน้อง ๆ แนวร่วมธรรมศาสตร์ที่เป็นเจ้าภาพจัดงานโกนหัวแล้วเชิญผมเป็นประธานเปิดงานโกนหัวที่หน้าศาลวันที่ 30 เมษายน2564 เราสี่คนเป็นจำเลยร่วมกัน นักศึกษา 3 คนในคดีนี้ไม่ต้องติดกำไล EM ได้ประกันตัวชั้นพนักงานสอบสวน มีผมคนเดียวได้รับเกียรติส่งฟ้องศาลและได้กำไล EM มาเป็นคู่ชีวิต”
และเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2564 นายสมยศ ได้ปรากฎตัว ขณะมาร่วมกิจกรรมยืนหยุดขัง โดยมีเพนกวิน แม่ของเพนกวิน แม่ของไมค์ และแม่ของอานนท์ นำภา โดยนายสมยศ ยืนข้างเพนกวินในวันชุมนุม นอกจากนี้นายสมยศ ยังเคลื่อนไหว สนับสนุนให้มีการยกเลิกมาตรา 112 เรื่อยมา ตั้งแต่ออกจากเรือนจำ ทั้งที่เจ้าตัวได้เซ็นรับเงื่อนไขศาล ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวอ้างว่า ไม่ต้องการติดกำไล EM เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยทำผิดเงื่อนไขศาล ทำให้ต้องจับตาดูว่า หลักฐานต่าง ๆ ที่ปรากฎ ศาลจะพิจารณาว่าอย่างไร และอาจจะเข้าข่ายต้องถูกเพิกถอนประกันเหมือนกับที่ศาลสั่งเพนกวิน เรื่องห้ามทำผิดซ้ำหรือไม่
